วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 คืบหน้า คดีไฮโซหนุ่มฉุดสาวเซเลบ สืบเนื่องจาก สาวเซเลบแจ้งความเอาผิดไฮโซหนุ่มลูกนักการเมือง โดย กล่าวอ้างพยายามขืนใจ จนกลายเป็นข่าวใหญ่ของวันนี้ สืบเนื่องจาก พ.ต.ต.ศิริพงษ์ วรรณสัมผัส สว.(สอบสวน) สน.ประเวศ รับแจ้งความร้องทุกข์จากเซเลบสาว อายุ 25 ปี ที่เข้าแจ้งความเอาผิดไฮโซหนุ่มและลูกชายของนักการเมืองพรรคดัง เหตุเกิดบ้านพักหรู แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. เมื่อวันที่ (8 ก.พ. 67) ที่ผ่านมา โดยแจ้งความเอาผิดในข้อหา 1.ทำร้ายร่างกายผู้อื่นฯ 2.กักขังหน่วงเหนี่ยวฯ 3.กระทำอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้ายฯ
ล่าสุด วันนี้ (14 ก.พ. 67) เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ไฮโซลูกนักการเมือง เดินทางเข้ามอบตัวแล้ว โดย ไฮโซหนุ่ม ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา รายละเอียด หรือ พฤติการณ์แห่งคดี พฤติการณ์ ตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อกล่าวหาและข้อเท็จเท็จจริงให้ผู้ต้องหา พร้อมทั้งแจ้งสิทธิให้ผู้ต้องหาทราบทำการสอบสวน โดย ไฮโซหนุ่ม “ให้การปฏิเสธตลอดข้ออกล่าวหา” เบื้องต้น มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่เตรียมขอหมายขัง ต่อศาลอาญาพระโขนง
- ตั๋วเครื่องบินวันวาเลนไทน์ กรุงเทพ-ภูเก็ต ราคาพุ่งเหมือนไปต่างประเทศ
- เจ้าแม่ใบ้หวยดัง งวดนี้ไม่ได้ให้รวย เพราะเกมแล้ว หลังใบ้เอง รับแทงเอง
- กทม. ประกาศ Work From Home 15-16 ก.พ. ปม ฝุ่น PM2.5
ซึ่ง ตามคำให้การของสาวเซเลบ ระบุว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ (4 ก.พ. 67) ผู้เสียหายบังเอิญพบไฮโซหนุ่มที่สถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่ง ต่อมา ไฮโซหนุ่มชักชวนให้ไปนั่งที่โต๊ะ พร้อมชวนให้ดื่มสุรา อีกทั้ง ยังได้แย่งเอาโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายไป หลังจากนั้นบอกว่าจะพาผู้เสียหายไปส่งหาแฟนที่ร้านอาหาร จึงให้นั่งรถไปด้วยกัน หากไม่ไปด้วยจะไม่คืนโทรศัพท์ให้ ผู้เสียหายจึงยินยอมนั่งรถไปด้วย ต่อมา ไฮโซหนุ่มกลับพาไปที่บ้านที่เกิดเหตุ อ้างว่าจะแวะมาเอาของ แต่ผู้เสียหายเกิดอาเจียน ทางด้านไฮโซหนุ่มจึงให้เข้าไปในบ้านเพื่อล้างหน้า ก่อนลงมือกระทำอนาจารผู้เสียหาย โดยใช้กำลังประทุษร้าย เนื่องจากผู้เสียหายไม่ยินยอม ผู้เสียหายพยายามหลบหนี แต่ไฮโซหนุ่มใช้กำลังหน่วงเหนี่ยวฉุดกระชาก เมื่อผู้เสียหายสบโอกาส สามารถออกมาจากสถานที่ดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ ผู้เสียหายพยายามขอความช่วยเหลือจากรปภ.บริเวณใกล้เคียง แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ ทั้งยังบอกว่าไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ ตนจึงพยายามวิ่งหนีทันใดนั้น มีพลเมืองดีขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาเห็นเหตุการณ์ ผู้เสียหายจึงขออาศัยรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวออกจากบริเวณเกิดเหตุในสภาพบาดเจ็บ และเข้าแจ้งความในวันที่ (8 ก.พ. 67)
ทั้งนี้ น.ส.เอ เคยเปิดเผยว่า “ตนพบคู่กรณีที่ร้านก่อนถูกพาไปก่อเหตุ หลังจากเกิดเรื่องราว จึงกลับไปทบทวนตัวเองถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และพบว่า ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้มาเกิดซ้ำกับใครอีก จึงตัดสินใจเอาเรื่องให้ถึงที่สุด” ซึ่งการเข้ามาติดตามคดีในครั้งนี้ ได้มีการนำเอกสารการตรวจร่างกายจากแพทย์มามอบให้ตำรวจเพิ่มเติม ผลการพิสูจน์ของแพทย์พบว่า บาดแผลต่างๆเกิดจากการพยายามวิ่งหนี เพราะถูกฉุดกระชาก ส่วนเรื่องความสัมพันธ์กับผู้ก่อเหตุนั้น “เป็นแค่เพื่อนในวงสังคมเดียวกัน” ยืนยัน “การแจ้งความครั้งนี้ ไม่ใช่การแบล็คเมล์ เพราะแจ้งตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้ว และต้องการดูท่าทีของผู้ก่อเหตุ ซึ่งไม่มีท่าทีจะสำนึกผิด หรือ แสดงความขอโทษแต่อย่างใด