ไอโฟนจากอินเดีย แอปเปิ้ลเดินเครื่องโรงงานใหม่-เฉลี่ยความเสี่ยงจากจีน

ไอโฟนจากอินเดีย – วันที่ 27 ก.ย. บีบีซีรายงานว่า แอปเปิ้ล ผู้พัฒนาไอโฟน เริ่มเครื่องโรงงานประกอบ “ไอโฟน 14” แห่งใหม่ในประเทศอินเดียแล้ว หลังแอปเปิ้ลพยายามเฉลี่ยความเสี่ยงจากที่เคยมีโรงงานในประเทศจีนเป็นโรงงานใหญ่เพียงแห่งเดียว

แอปเปิ้ลเริ่มดำเนินการตั้งโรงงานผลิตสินค้าของค่ายในหลายประเทศทั่วโลกหลังความตึงเครียดระหว่างทางการจีนกับสหรัฐอเมริกาเพิ่มสูงขึ้นหลายด้าน นอกจากนี้ ยังเกิดปัญหาด้านธุรกิจชะงักงันจาก อาทิ การล็อกดาวน์ ภัยธรรมชาติรุนแรง และกระแสไฟฟ้าไม่เพียงพอ

แถลงการณ์แอปเปิ้ล ระบุว่า ไอโฟน 14 ที่เพิ่งเปิดตัวไปนั้นนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ที่สั่นสะเทือนวงการและขีดความสามารถความปลอดภัยข้อมูลที่เหนือชั้น แอปเปิ้ลมีความตื่นเต้นที่จะได้ผลิตไอโฟนรุ่นดังกล่าวจากประเทศอินเดีย

รายงานระบุว่า การเปิดโรงงานผลิตไอโฟน 14 ในอินเดีย เกิดขึ้นหลังบริษัทฟ็อกซ์คอนน์จากไต้หวันตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนให้กับผลิตภัณฑ์รุ่นเก่าของแอปเปิ้ลที่รัฐทมิฬนาฑูในภาคใต้ของอินเดียตั้งแต่ปี 2560 สะท้อนว่าอินเดียกำลังจะกลายเป็นหนึ่งในแหล่งผลิตไอโฟนใหม่แทนจีน

นอกเหนือไปจากการมุ่งหวังให้อินเดียเป็นแหล่งผลิตใหญ่ของไอโฟนแทนจีนแล้ว ทางแอปเปิ้ลยังมีเป้าหมายแย่งส่วนแบ่งการตลาดในอินเดียเพิ่ม ขณะที่ปีที่ผ่านมานั้นแอปเปิ้ลมีส่วนแบ่งการตลาดในอินเดียเพียงร้อยละ 4 เท่านั้น

ที่ผ่านมานั้นผลิตภัณฑ์ของแอปเปิ้ลในอินเดียอยู่ในภาวะกระเสือกกระสนเมื่อต้องแข่งขันกับซัมซุงจากประเทศเกาหลีใต้และสมาร์ตโฟนอีกหลายค่ายจากจีน ซึ่งได้รับความนิยมกว่ามากในอินเดีย เนื่องจากมีราคาต่ำกว่าและคุณภาพดี

อย่างไรก็ตาม การตั้งโรงงานผลิตไอโฟน 14 ที่อินเดีย จะไม่ส่งผลให้ราคาของไอโฟน 14 ในอินเดียต่ำลงกว่าทั่วไป เนื่องมาจากต้นทุนภาษีที่รัฐบาลอินเดียเก็บจากการนำเข้าชิ้นส่วนอะไหล่

ทว่า การตั้งโรงงานใหม่ของแอปเปิ้ลนั้นจะส่งผลดีต่อนายนเรนทรา โมที นายกรัฐมนตรีอินเดีย ที่ประกาศแคมเปญ “Make in India” เพื่อยกระดับศักยภาพภาคการผลิตและส่งออกของประเทศเมื่อ 8 ปีที่ผ่านมา

นักวิเคราะห์จากบริษัท เจพี มอร์แกน เคยระบุไว้ว่า แอปเปิ้ลน่าจะย้ายการผลิตเครื่องไอโฟนอย่างน้อยร้อยละ 5 มาที่อินเดียในปีนี้ และคาดว่าสัดส่วนการผลิตไอโฟนจากอินเดียจะเพิ่มเป็น 1 ใน 4 ภายในปี 2568

ทั้งนี้ ฟ็อกซ์คอนน์เพิ่งประกาศลงทุน 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือกว่า 5.6 หมื่นล้านบาท เพื่อตั้งโรงงานใหม่ในเวียดนามไปเมื่อปี 2564 และลงนามขยายโรงงานในภาคเหนือของประเทศอีกมูลค่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท เมื่อเดือนที่ผ่านมา