หญิงอายุ 37 ปี มีอาการไอบ่อย ก่อนตรวจพบมะเร็งปอดระยะสุดท้าย เสียชีวิตหลังรู้ผลวินิจฉัยแค่ 2 สัปดาห์
เว็บไซต์ HK01 รายงานว่า หญิงชาวจีน วัย 37 ปี เริ่มมีอาการไอและไม่สบายตัว แต่เธอคิดว่าน่าจะเป็นโรคภูมิแพ้ จากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และไม่ได้ใส่ใจกับอาการดังกล่าวมากนัก ต่อมาอาการของเธอแย่ลง เมื่อไปโรงพยาบาลก็ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย และเธอเสียชีวิตในอีก 2 สัปดาห์ต่อมา
สื่อจีนรายงานว่า เพียงแค่ 2 สัปดาห์ นับตั้งแต่ นางจาง หญิงวัย 37 ปี ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอด สามีของเธอโพสต์ข้อความแสดงความอาลัยบนโซเชียล ซึ่งทำให้ชาวเน็ตสะเทือนใจ และกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์
ก่อนหน้านี้ นางจางกำลังศึกษาอยู่ที่ต่างประเทศ สามีของเธอจึงพาลูก ๆ 3 คน ไปทำงานและอาศัยอยู่ต่างประเทศกับเธอ
โดยเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2566 นางจางเข้ารับการผ่าตัดขากรรไกรล่าง จากการตรวจก่อนและหลังผ่าตัดไม่พบความผิดปกติใด ๆ
กระทั่งในเดือนตุลาคม นางจางเริ่มรู้สึกไม่สบาย มีอาการคลื่นไส้ ไอ นอนไม่หลับ เธอคิดว่ามันเป็นเพียงอาการป่วยธรรมดา ๆ จึงใช้ยาแก้อักเสบมารักษา ส่วนอาการไอ เธอคิดว่าเป็นอาการไอจากภูมิแพ้ที่เกิดจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงและอุณหภูมิที่ลดลง จึงไม่ได้สนใจมันมากนัก
จนเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน นางจางได้รับแจ้งจากว่าผลการตรวจเนื้องอกในเลือดของเธอมีความผิดปกติ เธอจึงไปโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษา ในตอนแรกคาดว่าเป็นวัณโรคหรือปอดบวมเฉียบพลัน
ต่อมาในวันที่ 10 พฤศจิกายน นางจางได้เข้ารับการรักษาที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล แพทย์ได้ดึงของเหลวในปอดออกมาเพื่อการตรวจทางพยาธิวิทยา อาการของนางจางยังคงแย่ลงเรื่อย ๆ และเธอเริ่มหายใจลำบาก เจ็บหน้าอก และเหนื่อยง่าย
จนเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน เธอได้รับผลตรวจพบว่าเป็นมะเร็งปอดขั้นระยะสุดท้าย และเซลล์มะเร็งได้แพร่กระจาย จนไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษาได้
แพทย์คาดการณ์ว่าอาจมีสาเหตุมาจากการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม และพยายามรักษาเธอด้วยยา อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอาการของนางจางทรุดลงอย่างรวดเร็ว จึงทำได้เพียงดูแลเธอแบบประคับประคองอาการเท่านั้น
กระทั่งเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน นางจางก็ถึงแก่กรรม ขณะอายุเพียง 37 ปี ถือเป็นเวลาเพียง 2 สัปดาห์ นับจากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย
หมอเตือน 4 ลักษณะอาการไอ สัญญาณเตือนมะเร็งปอด ที่ต้องระวัง
พาน จานเหอ หัวหน้าแพทย์ภาควิชาเนื้องอกวิทยา โรงพยาบาลจงซาน ในเครือมหาวิทยาลัยเซียะเหมิน เตือนว่าอาการไอเป็นอาการที่พบบ่อยที่สุดของมะเร็งปอด และการไอในมะเร็งปอดมีสัญญาณเตือน 4 ประการ ที่ต้องให้ความสนใจ
- อาการไอแห้งอย่างต่อเนื่อง และอาจมีเสมหะหรือเสมหะฟองสีขาวจำนวนเล็กน้อย หากติดเชื้ออาจมีเสมหะเป็นหนองสีเหลือง หากไอเป็นเลือด เสมหะมีเลือดปน หรือแม้แต่ไอเป็นเลือดโดยตรง คุณยิ่งควรให้ความสนใจมากขึ้น
- หากอาการไอไม่ดีขึ้นเป็นเวลานาน ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ หากเป็นนานกว่า 2 สัปดาห์
- อาการไอ ทั้งที่ไม่เป็นหวัด หรือคออักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดบวม เป็นต้น ควรพิจารณาตรวจหามะเร็งปอด โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น วัยกลางคน และผู้สูงอายุที่สูบบุหรี่เป็นเวลานาน
- การเปลี่ยนแปลงลักษณะของอาการไอ: บางคน เช่น ผู้สูบบุหรี่เป็นเวลานาน จะไอเป็นช่วง ๆ หากลักษณะการไอเริ่มแรกเปลี่ยนไปในวันใดวันหนึ่ง ควรระมัดระวังให้มากขึ้น
ข้อมูลจากเว็บไซต์ Smart Friends Station ของหน่วยงานโรงพยาบาลฮ่องกง มะเร็งปอดถือเป็นนักฆ่าอันดับ 1 ในฮ่องกง
เช็ก 6 อาการ อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งปอด
- รู้สึกเหนื่อยเป็นพัก ๆ
- เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
- ไอต่อเนื่อง
- หอบหืด
- เสมหะมีเลือดปน
- เจ็บหน้าอก: ปวดตื้อ ๆ หรือเจ็บหน้าอกเฉียบพลันเฉียบพลันเวลาไอหรือหายใจเข้าลึก ๆ
ทั้งนี้ หากเซลล์มะเร็งของผู้ป่วยแพร่กระจาย อาจมีอาการต่อมน้ำเหลืองที่คอบวม คอ ใบหน้า และมือบวม แน่นท้อง ปวดกระดูก ปวดศีรษะ โรคลมบ้าหมูเฉพาะที่ หรืออัมพาตครึ่งซีก