เมื่อเวลา12.00 น.วันที่ 14 พ.ค.67 กรณีน.ส.เนติพร หรือ บุ้ง กลุ่มทะลุวัง ผู้ต้องขังคดีทางการเมือง หัวใจหยุดเต้น กำลังปั๊มหัวใจอยู่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้ส่งตัวมาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ เพื่อให้แพทย์ปั้มหัวใจช่วยชีวิต ต่อมาทางแพทย์ได้ขอให้ทางเจ้าหน้าที่นิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ เข้าไปรับผู้เสียชีวิตที่อยู่ในห้องฉุกเฉินซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่นิติเวชเข็ญรถออกมาก็มีเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ เดินตามมาด้วยและทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นน.ส.เนติพร หรือ บุ้ง กลุ่มทะลุวัง นักกิจกรรมทางการเมือง
ซึ่งขณะนี้ทางด้านผู้สื่อข่าวยังรอเจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้องและครอบครัวของทางบุ้ง ทะลุวัง ออกมาให้ข้อมูลกับผู้สื่อถึงสาเหตุของการเสียชีวิตของน.ส.เนติพร หรือ บุ้ง กลุ่มทะลุวัง ทั้งนี้ทราบว่าราชทัณฑ์นำบุ้งมาส่งที่ห้องฉุกเฉินที่รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ในเวลา10.00น.โดยแพทย์ได้ทำการยื้อชีวิตและชีวิตในเวลา 11.22 น.
- ทำความรู้จัก ‘บุ้ง ทะลุวัง’ จากลูกสาวตุลาการ สู่นักกิจกรรมทางการเมือง
- รพ.ธรรมศาสตร์ ออกแถลงชี้แจงการเสียชีวิต ‘บุ้ง ทะลุวัง’ เตรียมส่งชันสูตรต่อไป
- ด่วน! ‘บุ้ง ทะลุวัง’ เสียชีวิตแล้ว หลังหัวใจหยุดเต้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
นางสาวณัฐณิชา หรือใบปอ ดวงมุสิทธิ์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่าตอนนี้พี่บุ้ง นางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม (บุ้ง ทะลุวัง) ไม่อยู่กับเราแล้วจากการอดอาหาร 100 กว่าวันที่ผ่านมาจากคดีมาตรา 112 และศาลอาญากรุงเทพใต้ไม่ให้ประกันตัวจำนวนไม่ทราบว่ากี่ครั้งซึ่งพี่บุ้งได้อดอาหารมาเรื่อย ๆ และทำให้พี่บุ้งต้องเสียชีวิตเวลา 11.22 นาทีและเป็นทราบกันแล้วว่า 112 ได้พรากชีวิตพี่บุ้งไปเรียบร้อยแล้ว กำหนดการเคลื่อนไหวจะแจ้งให้ทราบภายหลัง
เวลา 14.00น. วันเดียวกันนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า ครอบครัวของบุ้งตนเองยังไม่ได้เจอจากการที่คุยกับหมอของรพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติทราบว่า นางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม เสียชีวิตประมาณ 11.00 น.เศษ สาเหตุเบื้องต้นทราบว่าหัวใจล้มเหลว แต่สาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงจะมีการชันสูตรพลิกศพการผ่าพิสูจน์เวลาประมาณ 09.00 น. วันพรุ่งนี้ โดยจะมีการส่งผลเลือดไปตรวจ
ตอนนี้ร่างของบุ้งยังอยู่ที่ร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติก่อนเพราะต้องมีขั้นตอนทางกฏหมายอีกเกี่ยวกับการที่พนักงานสอบสวนต้องมาชันสูตรพลิกศพ ต้องมีการผ่าพิสูจน์เพราะว่าสาเหตุการตายจะผิดธรรมชาติหรือไม่ต้องดูจากศพ
นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยต่อไปอีกว่า สำหรับตนเองไม่ได้เข้าเยี่ยมบุ้งโดยตรงแต่มีทนายความของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เข้าเยี่ยมทุกวันในช่วงที่เปิดทำการ บุ้งมีอาการบวมปวดท้อง อ่อนเพลียแต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องอะไรแต่บอกว่าตนเองป่วย เท่าที่วิเคราะห์กันเองด้วยและทางคุณหมอด้วยเป็นอาการของคนที่อดอาหารมาแล้วและกำลังฟื้นร่างกาย เพราะช่วงหลังครอบครัวบุ้งได้ขอร้องให้ทานอาหาร แต่ทานไมได้อยู่ดีเพราะอดอาหารมา 30-40วัน โดยให้เป็นสารเช่นโปรเตสเซี่ยม แคลเซียม น้ำ เขายังมีลักษณะอ่อนเพลีย โดยที่เจอล่าสุดเขามีอาการอ่อนเพลีย โดยหลังให้สัมภาษณ์เสร็จทนายความได้เข้าไปพูดคุยกับแพทย์และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เดินทางมาดำเนินการทางขั้นตอนของกฏหมาย
นอกจากนี้ ทนายยังบอกอีกว่า เมื่อเช้าทานตะวันอยู่กับบุ้ง ช่วงที่หมดสติทำให้ ทานตะวันวันนี้ไม่สามารถไปขึ้นศาลคดีบีบแตรขบวนเสด็จได้เนื่องจากตกใจและร้องไห้ตลอดเวลา เมื่อถามถึงอาการของทานตะวัน ก็อ่อนเพลีย แต่เบื้องต้นตนก็ยังไม่บอกว่า บุ้งเสียชีวิตแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ ตนจะเดินทางไปกรมราชทัณฑ์เพื่อติดต่อถึงทรัพย์สินของบุ้ง เช่นเงินที่ฝากไว้และของใช้ส่วนตัวที่อยู่ภายในเรือนจำ