หนุ่มไรเดอร์ แจ้งความ หลังถูกกลุ่มวัยรุ่นหน้าวัดพระมหาธาตุฯ จ.นครศรีธรรมราช สาดน้ำขณะทำงาน แม้จะติดป้ายแล้ว ขอร้องแล้ว ก็ไม่ฟัง แถมโดนชกเบ้าตาอีก
เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 2566 นายภูวนัย อุ้มเพชร ไรเดอร์ ได้เปิดเผยกับ “ข่าวสดออนไลน์ว่า” ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้าย ขณะทำงานขี่จยย. ส่งอาหาร สาเหตุจากไม่ให้สาดน้ำ ซึ่งได้ติดป้ายไว้ชัดเจนว่า “ไม่เล่นน้ำต้องทำงานถึงเทียงคืน” เหตุเกิดที่หน้าวัดพระมหาธาตุฯ จ.นครศรีธรรมราช
นายภูวนัย กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 15.00 น. ตนได้ขับรถไปส่งอาหารให้ลูกค้าตามปกติ จนไปถึงหน้าวัดพระมหาธาตุฯ ซึ่งเป็นจุดเล่นน้ำสงกรานต์ มีผู้ชายใส่สร้อยทองดูมีฐานะคนหนึ่งกวักมือให้จอด ตนจึงบอกไปว่าต้องทำงานต่อ เดียวมือถือเปียก ถ้าพังจะทำงานไม่ได้ ถ้าสาดน้ำไปแจ้งความ
ตนได้ติดป้ายไว้ชัดเจนว่า “ไม่เล่นน้ำต้องทำงานถึงเทียงคืน” แต่ถูกตอบกลับมาว่า “ต้องเตรียมตัวป้องกันมาเอง นี่มันวันเล่นน้ำ” พร้อมกับเทน้ำใส่จนตัวและมือถือเปียก ตนจึงรีบขี่รถจยย. ไปจอดที่ร้านปลาเผาใกล้ ๆ เพื่อเช็ดมือถือ แต่ชายคนดังกล่าวก็เข้ามากับพวกอีกหลายคน ต่อยเบ้าตาซ้ายของตน แล้วก็มีคนมาห้ามแยกออกไป ชายคนดังกล่าวบอกว่าถ้ามือถือพังก็ไปแจ้งความ และอ้างว่ารู้จักผู้มีอิทธิพล
หลังเกิดเหตุตนก็รีบไปส่งอาหารให้ลูกค้า ก่อนจะเดินทางไปโรงพักเพื่อเเจ้งความดำเนินคดี โดยตำรวจให้ลงบันทึกประจำวัน แล้วให้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเพื่อใช้เป็นหลักฐาน และได้นำเรื่องราวไปให้สื่อต่าง ๆ ช่วยเผยแพร่ ขอความช่วยเหลือ โดยขอให้ผู้ที่ผ่านเส้นทางนี้ในเวลาช่วง 15.00-15.25 น. หากมีกล้องหน้ารถ สามารถบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้รบกวนส่งมาให้ตนด้วย
ต่อมาผู้ก่อเหตุก็ออกมารับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง พร้อมรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยอมรับว่ากระทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ อย่างไรก็ตามทางตำรวจ ได้ดำเนินการตามข้อเท็จจริง ตามพยานหลักฐาน โดยมีการปรับความเข้าใจกัน พร้อมยินยอมชดใช้ค่าเสียหาย ค่ารักษา และค่าทำขวัญ
นายภูวนัย กล่าวต่ออีกว่า “อยากฝากไปถึงคนเล่นน้ำทุกคนให้สังเกตดูก่อน ถ้าเขาขอแล้ว เขายกมือไหว้แล้ว ก็ให้ปล่อยผ่านเขาไปนะครับ เพราะคนที่จะเล่นน้ำก็มีเยอนะครับ อาจจะเกิดเหตุการณ์เหมือนที่ผมโดน และสาดไปแล้วอาจจะมีคนล้ม มีอุบัติเหตุ แล้วก็ทะเลาะวิวาทได้ อยากให้ใช้สติกันให้มากกว่านี้ 1 ปี มีแค่ 1 ครั้ง แต่ 1 ครั้ง ที่คุณทำไปอาจอันตรายถึงชีวิต หรือสูญเสียคนในครอบครัวได้”