นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการวิชาการตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีวาระสำคัญ คือ การเตรียมรับสถานการณ์เดินทางที่จะเพิ่มขึ้นจากประเทศจีนที่มีนโยบายเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 2566 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าไทยประมาณ 5 ล้านคน ในปี 2566 รวมทั้งจะมีผู้เดินทางจากไทยไปจีนมากขึ้น จึงต้องมีการพิจารณามาตรการและเตรียมแนวทางการดำเนินงานที่เหมาะสมกับสถานการณ์
- ญี่ปุ่น เอาจริง! ออกกฎหมายใหม่ นักท่องเที่ยวจาก ‘จีน’ จะเข้าญี่ปุ่นต้องตรวจโควิดก่อน
- สรุป นักธุรกิจทรงเอ แม่ทีมแชร์ลูกโซ่คริปโต วงแตกหายเข้ากลีบเมฆ พบวีรกรรมเพียบ
ทั้งนี้ จะนำผลของที่ประชุมเสนอต่อผู้บริหารระดับกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมรับผู้เดินทางจากจีนในวันที่ 5 ม.ค.2566 เพื่อกำหนดเป็นมาตรการของประเทศร่วมกัน
ศ.เกียรติคุณ นพ.สมหวัง ด่านชัยวิจิตร ประธานคณะกรรมการด้านวิชาการฯ กล่าวว่า การพิจารณามาตรการคำนึงถึงหลักการเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ อยู่บนพื้นฐานด้านวิชาการ ความปลอดภัยสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคม สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างประเทศ และสอดคล้องกับมาตรการผู้เดินทางเข้าออกของประเทศต่าง ๆ ซึ่งที่ประชุมร่วมกันพิจารณาและประเมินความเสี่ยงโดยใช้ข้อมูลสถานการณ์โรค , ข้อมูลการเดินทางระหว่างประเทศ , มาตรการของประเทศต่างๆ แล้วเห็นว่า “ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้”
แนวทางและมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 เพื่อเตรียมรับผู้เดินทางจากจีน ดังนี้
- กำหนดมาตรการป้องกันโควิด เพื่อรับผู้เดินทางจากจีน ได้แก่ ตรวจเอกสารรับรองวัคซีนโควิด 19 และประกันสุขภาพระยะสั้นที่ครอบคลุมการรักษาโควิด ก่อนเดินทางเข้าไทย สอดคล้องกับข้อกำหนดของจีนในการรับผู้เดินทางเข้าประเทศ ที่ให้ตรวจ RT-PCR ก่อนขึ้นเครื่อง 48 ชั่วโมง
- สื่อสารถึงมาตรการและคำแนะนำต่างๆ ของไทย ให้ผู้เดินทางก่อนเดินทางเข้าไทย ผ่านหน่วยงานต่างๆ เช่น กระทรวงการต่างประเทศ สายการบิน ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวในประเทศต่างๆ
- ระบบเฝ้าระวังผู้เดินทางเข้าประเทศที่ช่องทางเข้าออกประเทศ โดยสุ่มตัวอย่างตรวจสายพันธุ์ ซึ่งปัจจุบันสายพันธุ์ที่พบในจีน ไม่แตกต่างจากที่เคยมีรายงาน ประเมินสถานการณ์เป็นระยะ เพื่อนำไปพิจารณากำหนดมาตรการที่เหมาะสม
- เตรียมพร้อมระบบสาธารณสุขให้รองรับผู้ป่วยชาวต่างชาติได้มากขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยว
- สื่อสารมาตรการป้องกันตนเองตลอดเวลาที่ผู้เดินทางท่องเที่ยวอยู่ในไทย เช่น สวมหน้ากาก การล้างมือ และจัดบริการสายด่วนสำหรับนักท่องเที่ยว
- ผู้ประกอบการและร้านค้า ดำเนินการตามแนวทาง SHA, SHA+
- กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงคมนาคม สื่อสารผู้ประกอบกิจการ ผู้ให้บริการนักท่องเที่ยวรับวัคซีนโควิดครบ 4 เข็ม โดย สธ.จะเตรียมวัคซีนให้กับแรงงาน ภาคธุรกิจท่องเที่ยว และภาคคมนาคม เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน รวมถึงคนไทยทุกคนให้ได้วัคซีนรวม 4 เข็ม เพื่อลดการป่วยหนักและเสียชีวิต
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาเตรียมการจัดทำแผนรองรับในระยะต่างๆ ให้มีการติดตามประเมินมาตรการที่กำหนดเป็นระยะ
อย่างไรก็ตาม จากการประเมินสถานการณ์รอบด้าน ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องกำหนดให้ตรวจหาเชื้อโควิดในผู้เดินทางจากจีน สอดคล้องกับแนวปฏิบัติของ European CDC แต่หากมีข้อมูลการเฝ้าระวังสายพันธุ์หรือสถานการณ์ระบาดเปลี่ยนแปลง จะพิจารณาความจำเป็นของการตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเดินทางเข้าไทยอีกครั้ง
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY