เมื่อเวลา 22.20 น. วันที่ 10 มิถุนายน 2567 พ.ต.อ.วิชัย สนสกุล ผกก.สส.บก.น.1 นำกำลังเจ้าหน้าที่กก.สส.บก.น.1 จับกุม นายนรเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ นายกิจจา, น.ส.วาลิส และน.ส.อัญชลีพร ได้ที่ห้องพักเลขที่ 304 โรงแรมแห่งหนึ่ง ซอยเพชรบุรี 47 แยก 10 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. ขณะกำลังปาตี้ยากัน

ต่อมาเวลา 10.30 น. วันที่ 11 มิถุนายน 2567 เจ้าหน้าที่กก.สส.บก.น.1ควบคุม น.ส.วาลิส และน.ส.อัญชลีพร มาในรถเก๋งมาจอดหน้า สน.มักกะสัน ก่อนนำผู้ต้องหาทั้งหญิง 2คน เป็น 2 ใน 4 ผู้ต้องหา ลงจากรถมี 1 ใน 2 ผู้ต้องหาหญิง ใช้ผ้าคลุมศีรษะ และปิดหน้าส่วนผู้ต้องหาหญิงไม่ได้ปิดหน้าร้องไห้สะอึกสะอืน ก่อนนำทั้ง 2 เข้าห้องฝ่ายสืบสวน สน.มักกะสัน ต่อมามีชายประมาณ อายุ 40-45 ปี เดินทางเข้าไปในห้องสืบสวนโดยกล่าวแค่ว่ามาเยี่ยมเพื่อนไม่รู้ว่าเรื่องโดนคดีอะไร

• จนท.บุกจับ หลาน ชาดา และเพื่อน คาห้องพัก พบสารเสพติด และอาวุธปืน
• ‘เศรษฐา’ เผย ครม.ไฟเขียว แก้กฎหมายยาบ้า 1 เม็ดก็ถือว่าผิด
• สิงคโปร์แอร์ไลน์แถลง เยียวยาผู้โดยสาร ได้รับบาดเจ็บ สูงสุด 25,000 ดอลลาร์

ผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย นั้นให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และไม่ได้รู้สึกกดดันอะไร หลังจากนี้จนท.จะตรวจสารเสพติดของผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย เนื่องจากในตอนแรก สืบนครบาล1 ได้จับกุมกรณีที่มียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อเสพเท่านั้น

ส่วนที่มีประเด็นว่าเปิดห้อง ในโรงแรม เพื่อมั่วสุมเสพยาเสพติดนั้น ผกก. สน.มักกะสัน กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่ดูจากโรงแรมแล้ว มองว่า เป็นโรงแรมที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนกับครอบครัวมากกว่า  มักจะมีแต่ผู้เข้าพักที่มากับครอบครัว ยังไม่เคยมีพฤติกรรมที่มีคนมาเปิด ปาร์ตี้ยา อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะขยายผลการจับกุม ต่อไป

รายงานข่าว แจ้งว่า ความสัมพันธ์ ของ 4 ผู้ต้องหา พบว่า นายนรเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ เป็น ญาตินายชาดา และ นายกิจจา เป็นคนขับรถของ นายนรเศรษฐ์ ส่วน น.ส.วาลิส และ น.ส.อัญชลีพร ไม่ใช่เด็ก N แต่เป็นคนรู้จักของทั้งคู่มานานแล้ว