เตือนแล้วนะ! หนุ่มติดเชื้อจาก “แตงกวา” เกือบตาย หมอย้ำหลายคนกินแบบนี้ ไม่รู้โอกาสตายสูงมาก!
ตามรายงานพบว่า เนื่องจากมีแขกมาเยี่ยมบ้าน นายหวัง (นามสมมุติ) ตัดสินใจทำสลัดแตงกวา หรือยำแตงกวา (แตงกวาที่มีรสเปรี้ยว เผ็ด เค็ม และหวาน) เพื่อรับประทานร่วมกับอาหารอื่นๆ ช่วยให้ไม่เกิดอาการเบื่ออาหาร อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเขาทำให้ปริมาณที่มากเกินไป ดังนั้น สลัดแตงกวาจึงเหลือไม่น้อย สุดท้ายต้องเก็บเข้าตู้เย็นไว้กินมื้อต่อไป
เช้าวันรุ่งขึ้น นายหวังหยิบสลัดแตงกวามากินกับโจ๊กตามปกติ อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง เขาก็เริ่มมีอาการอาเจียนและท้องเสีย อีกทั้งคืนนั้นยังมีไข้สูงหนาวสั่นไปทั้งตัว ภรรยารีบเรียกรถพยาบาลทันที แต่เมื่อมาถึงห้องฉุกเฉินก็มีอาการช็อกอย่างรุนแรง ความดันโลหิตของเขาลดลงเหลือ 85/52mmHg และระดับโปรแคลซิโทนินในเลือดสูงกว่าค่าปกติ 200 เท่า
Dr.Han Liang แพทย์แผนกระบบทางเดินอาหาร โรงพยาบาลประชาชนหางโจวหมายเลข 9 ประเทศจีน ประเมินจากผลตรวจเบื้องต้น ระบุว่า “นี่เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่ร้ายแรง”
- พนง.อายุน้อย ล้มตึงเป็นอัมพาต เพราะ 2 เมนูโปรด หมอเตือนหนุ่ม-สาว กินแทบทุกคน!
- กินของทอดเสี่ยงมะเร็ง นักพิษวิทยาแนะกิน 3 สิ่งนี้ ช่วยล้างพิษได้ อร่อยด้วย!
ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด เป็นกลุ่มอาการตอบสนองต่อการอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อ อาการหลัก ได้แก่ หนาวสั่น มีไข้ ใจสั่น และหายใจลำบาก หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจนำไปสู่ภาวะช็อกและอวัยวะหลายส่วนล้มเหลว ซึ่งมีอัตราการเสียชีวิตที่สูงมาก
กรณีของเคสนายหวังนี้ พิษเกิดจากการเก็บสลัดแตงกวาอย่างไม่ถูกต้อง ส่งผลให้แบคทีเรียเจริญเติบโต เนื่องจากหากปล่อยผักไว้เป็นเวลานานหรือเก็บไว้ไม่ถูกต้องหลังปรุงอาหาร ปริมาณไนไตรต์ในอาหารที่เหลือจะเพิ่มขึ้นจนถึงระดับที่เป็นอันตราย และพิษอาจรุนแรงถึงชีวิตได้เลย
ทั้งนี้ หลายคนต้องเคลียร์ความเข้าใจผิดกันก่อนว่า “อาหารค้างคืน” ไม่ใช่แค่อาหารที่เหลือจากวันนั้นและเก็บไว้ใช้ในวันถัดไปเท่านั้น จากมุมมองทางวิทยาศาสตร์ อาหารใดๆ ที่ทิ้งไว้นานกว่า 8-10 ชั่วโมง ก็ถือเป็นอาหารค้างคืนได้แล้ว