จากกรณีที่ชุดปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 ได้รับหมายค้นจากศาลจังหวัดเชียงใหม่และเข้าตรวจค้นห้องพักในพื้นที่ตำบลป่าตัน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงห้องพักในอาคารชุดแห่งหนึ่ง ตำบลหนองควาย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่
ในการตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบอุปกรณ์กระจายสัญญาณ SIMBOX จำนวน 12 เครื่อง ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ในการติดต่อสื่อสารไปยังประชาชนทั่วไป นอกจากนี้ยังพบเราเตอร์อินเทอร์เน็ตอีกหลายเครื่อง
จากการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัว นางสาววนัชพร อายุ 26 ปี, นายธีราวัฒน์ อายุ 22 ปี, นางสาว Nang Thuzar Nyein อายุ 25 ปี สัญชาติเมียนมา และ นางสาวสุวรรณลักษณ์ อายุ 25 ปี โดยทั้งหมดถูกนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
- ไม่หายซ่า! ตร.บุกค้นบ้าน “เอก สายเต๊าะ” เจอปืน-มีด ก่อนคุมตัวไปปรับทัศนคติ
- ออกหมายจับ “เสี่ยโจ้” พร้อมพวก 3 คน คดีขโมยเรือน้ำมันเถื่อน หลบหนี
- สลด! เศรษฐีนี 2 แม่ลูก ซดยาพิษ จบชีวิตในบ้านตากอากาศหรู
ต่อมาในวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 5 ได้ขยายผลการจับกุม และพบว่าบิดาของผู้ต้องหาคือ พันตำรวจโทบัณฑิต คนการ ซึ่งดำรงตำแหน่งสารวัตรอำนวยการ สถานีตำรวจภูธรหางดง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง และเป็นผู้บงการให้ลูกชักชวนเพื่อนมาร่วมกันดูแลระบบของแก๊งคอลเซ็นเตอร์
เจ้าหน้าที่จึงได้ออกหมายจับจากศาลจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อตามจับกุมพันตำรวจโทบัณฑิต ซึ่งหลังจากที่หมายจับถูกออกมา พันตำรวจโทบัณฑิตได้ลาราชการและติดต่อเจ้าหน้าที่ว่าเขาทราบเรื่องหมายจับแล้วและจะมอบตัวในวันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม 2567 นี้
ล่าสุด ชุดสืบสวนภาค 5 นำโดย พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 ประสานชุดสืบสวนตำรวจ สภ.ง้าว จ.ลำปาง เพื่อเข้าควบคุมตัว พ.ต.ท.บัณฑิต ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลเชียงใหม่ ขณะบวชเป็นพระ ก่อนนำตัวไปสึก แล้วพากลับมาสอบปากคำที่ สภช้างเผือก เบื้องต้น พ.ต.ท.บัณฑิต ปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นแต่เพียงผู้ร่วมขบวนการ โดยมีคนจีนเป็นหุ้นส่วนด้วย ซึ่งตำรวจได้ขยายผลและทราบว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการอีก 1-2 คน ทั้งคนจีนและคนไทย โดยทางพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก จะได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับ