เม็กซิโก ทำดีที่สุดแล้ว บุกตลอดทั้งเกม สุดท้าย เฉือนชนะ ซาอุดีอาระเบีย 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 4 คะแนน แต่ไม่เพียงพอที่จะผ่านเข้าสู่รอบต่อไป เนื่องจากประตูได้เสียเป็นรอง โปแลนด์
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม C เมื่อวันที่ 30 พ.ย.65 เป็นการลงสนามนัดสุดท้าย ที่ลูเซล ไอคอนิก สเตเดียม ทีมชาติซาอุดีอาระเบีย ที่มี 3 คะแนน รั่งที่ 3 ของกลุ่ม ลงสนามพบกับ ทีมชาติเม็กซิโก ที่มี 1 คะแนน รั้งบ๊วย โดยสถานการณ์ก่อนเกมจะเริ่มขึ้น กลุ่มนี้ ทุกทีมยังมีโอกาสเข้ารอบ ซึ่งทั้งสองทีมจะต้องชนะเท่านั้น เพื่อการันตีผ่านเข้ารอบต่อไป
เกมนี้ ซาอุดีอาระเบีย มาในระบบ 3-4-3 ประกอบด้วย โมฮัมเหม็ด อัล-โอไวส์ : ฮัสซัน อัล-ทัมบักตี, อาลี อัล-บูไลฮี, อับดูเลลาห์ อัล-อัมรี : ซาอุด อับดุลฮามิด, อาลี อัล-ฮัสซัน, โมฮาเหม็ด คันโน, ซุลตาน อัล-กานัม : ฟิราส อัล-บูไรคาน, ซาเลห์ อัล-เชห์รี, ซาเล็ม อัล-โดว์ซารี
ขณะที่ เม็กซิโก มาในระบบ 4-3-3 ประกอบด้วย กิเยร์โม โอชัว : ฮอร์เก ซานเชซ, เซซาร์ มอนเตส, เอ็กตอร์ โมเรโน, เฮซุส กายาร์โด : ออร์เบลิน ปิเนดา, ออร์เบลิน ปิเนดา, หลุยส์ ชาเบซ : อีร์บิง โลซาโน, เอ็นรี มาร์ติน, อเล็กซิส เบกา
เปิดฉากเริ่มเกมทั้งสองทีมเริ่มเปิดเกมแรกกันทันที นาทีที่ 3 เม็กซิโก ได้ลุ้นทักทายในจังหวะบอลทะลุตรงกลางเข้าไปในเขตโทษมาถึง อเล็กซิส เบกา ได้จิ้ม แต่ยังไม่ผ่านมือ โมฮัมเหม็ด อัล-โอไวส์ นายด่านซาอุฯ ออกมาตัดบอลได้เร็ว
จากนั้น นาทีที่ 12 ซาอุฯ ได้ลุ้นจากฟรีคิก หน้าเขตโทษเกือบๆกลางประตู โมฮาเหม็ด คันโน ปั่นบอลข้ามกำแพง แต่ยังหลุดออกหลังไป
นาทีที่ 27 เม็กซิโก เกือบจะได้ประตูขึ้นนำ ในจังหวะบุกขึ้นมาทางซ้าย บอลลอยโด่งมาก มากลางประตู ออร์เบลิน ปิเนดา ได้พุ่งโหม่ง แต่ยังไปติดแนวรับ ซาอุฯ
นาทีสุดท้ายก่อนเข้าสู่ช่วงทดเวลา เม็กซิโกได้บุกขึ้นมาอีกชุด อีร์บิง โลซาโน ได้บอลริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะเปิดโด่งเข้าไปในเขตโทษ แต่จังหวะสุดท้ายก็ยังไม่ได้กดดันแนวรับซาอุฯมากเท่าที่ควร
ช่วงเวลาที่เหลือเกมยังเปิดแลกกันอยู่กลางสนามเป็นส่วนใหญ่ ในพื้นที่สุดท้ายทั้งสองทีมยังไม่เฉียบคมพอ ทำให้จบครึ่งแรกยังเสมอ 0-0
ครั้งหลังเริ่มเกมเพียง 3 นาที เม็กซิโก มาได้ประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะเตะมุม หลุยส์ ชาเบซ เปิดมาที่เสาแรก บอลมาถึง เซซาร์ มอนเตส์ ดีดต่อไปกลางประตู เอ็มรี มาร์ติน วิ่งเข้ามาชาร์ตจ่อๆ ส่งบอลเข้าประตูไป
จากนั้นนาทีที่ 52 เม็กซิโก ได้ลุ้นจากฟรีคิกหน้าเขตโทษ กลางประตู และเป็นหลุยส์ ชาเบซ วิ่งเข้ามาปั่นด้วยซ้ายบอลพุ่งข้ามกำแพง ก่อนจะมุดสามเหลี่ยมเข้าประตูให้ เม็กซิโด ขยับหนี 2-0
เกมยังเป็นของเม็กซิโก ที่เร่งเกมบุก นาทีที่ 70 ในจังหวะบุกขึ้นมาตรงกลาง แนวรับซาอุฯ สกัดบอลไม่ดี บอลมาเข้าทาง เอ็มรี มาร์ติน ที่หลุดเข้าไปในเขตโทษก่อนจะยิงเต็มข้อ แต่กดไม่ลงบอลเหินข้ามคานออกหลังไป
ถัดมา 2 นาที เม็กซิโก ได้ลุ้นอีกครั้งจากฟรีคิก หน้าเขตโทษ บริเวณกลางประตู หลุยส์ ชาเบซ คนเดิมยิงด้วยซ้าย บอลพุ่งตรงกรอบ แต่ทว่า โมฮัมเหม็ด อัล-โอไวส์ ยังบินปัดออกมาได้
จากนั้น เม็กซิโก แทบจะครองเกมบุกอยู่ฝั่งเดียว นาทีที่81 อีร์บิง โลซาโน เกือบจะหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษ ทว่าแนวรับ ซาอุฯ ยังมาตัดฟาวล์ ก่อนเข้าเขตโทษเพียงก้าวเดียว ได้ลุ้นต่อจากฟรีคิก ก่อนจะเป็น หลุยส์ ชาเบซ ยิงไปติดกำแพงออกมา
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+5 ซาอุฯ ได้บุกขึ้นมาลุ้น ซาเล็ม อัล-โดว์ซารี ทำชิ่งกับ ฮัตตัน บาห์บรี ก่อนเจ้าตัวจะหลุดเดี่ยวเข้าไปยิง ส่งบอลเข้าประตูให้ ซาอุ ตีไข่แตก 1-2 ซึ่งลูกนี้ทำให้เม็กซิโก ประตูได้เสียเป็นรอง โปแลนด์ทันที
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม เม็กซิโก เฉือนชนะ ซาอุดีอาระเบีย 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 4 คะแนน ส่วนอีกคู่ อาร์เจนตินา เอาชนะ โปแลนด์ 2-0 ทำให้กลุ่มนี้ อาร์เจนตืนา มี 6 คะแนน ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม ขณะที่ โปแลนด์ กับ เม็กซิโก มี 4 คะแนนเท่ากัน แต่โปรแลนด์ ประตูได้-เสียดีกว่า ทำให้ กลุ่มนี้ เม็กซิโก กับ ซาอุดีอาระเบีย ตกรอบไป