ไม่ประมาท! ด่านควบคุมโรค ยกระดับเฝ้าระวัง ฝีดาษลิง เน้นเดินทางทวีปเสี่ยงสูง

Home » ไม่ประมาท! ด่านควบคุมโรค ยกระดับเฝ้าระวัง ฝีดาษลิง เน้นเดินทางทวีปเสี่ยงสูง


ไม่ประมาท! ด่านควบคุมโรค ยกระดับเฝ้าระวัง ฝีดาษลิง เน้นเดินทางทวีปเสี่ยงสูง

ยะลา – ด่านควบคุมโรคติดต่อ ระหว่างประเทศเบตง ยกระดับเฝ้าระวังป้องกันโรคฝีดาษวานร เน้นผู้เดินทางจากประเทศทวีปเสี่ยงสูง เพื่อความไม่ประมาท พร้อมรับมือได้ทัน

27 ก.ค. 65 – ที่ด่านพรมแดนเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ภายหลัง WHO ประกาศเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเบตง และเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศเบตง ร่วมกันเฝ้าระมัดระวังผู้เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเป็นพิเศษ

เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดยเน้นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงสูงเป็นในทวีปแอฟริกากลาง แอฟริกาตะวันตก

ส่วนประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ที่ติดชายแดนมาเลเซีย ขณะนี้พบผู้ป่วยฝีดาษลิงทั้งหมด 8 คน แบ่งเป็นผู้ป่วยฝีดาษลิงในประเทศ 4 คน และผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 4 คน โดยที่ผู้ป่วยทั้งหมดไม่มีความเชื่อมโยงกัน

ส่วนสถานการณ์ในประเทศไทย ยังปลอดภัย ยังไม่พบผู้ป่วยโรคฝีดาษวานรเพิ่มเติม หลังพบชาวไนจีเรียที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยแบบผิดกฎหมาย ยืนยันป่วยเป็นฝีดาษวานรคนแรกหลบนอกออกนอกประเทศไปยังประเทศกัมพูชาเรียบร้อยแล้ว

สำหรับผลสอบสวนโรคเชิงรุก ผู้ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ ในช่วง 1 เดือน ยืนยัน ไม่พบผู้ติดเชื้อจากชายชาวไนจีเรียเพิ่มเติม ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย

นางสาวธัญณภัส ชาระ หัวหน้าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศเบตง กล่าวว่า นอกจากจะมีการคัดกรองโรคโควิด-19 ตามด่านพรมแดนแล้ว เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศเบตง ได้ยกระดับเฝ้าระวังและคัดกรองโรคฝีดาษลิง ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ

เพื่อความไม่ประมาทเตรียมพร้อมรับมือได้ทัน โดยเน้นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงสูง โดยการคัดกรองจะดูว่า มีไข้ตั้งแต่ 38 องศาเซลเซียส หรือประวัติมีไข้ร่วมกับมีอาการ

ได้แก่ เจ็บคอ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหลังและต่อมน้ำเหลืองโตประกอบกับมีผื่นกระจายตามลำตัว มีลักษณะเป็นตุ่มนูน ตุ่มน้ำใส ตุ่มหนอง หรือตุ่มตกสะเก็ด ให้รีบไปพบแพทย์ รวมถึงแจ้งประวัติการเดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงให้เจ้าหน้าที่ทราบด้วย

ส่วนประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนก การแพร่เชื้อฝีดาษลิง ยังไม่มากเท่าการระบาดโควิด-19 ขอให้ใช้มาตรการเว้นระยะ ปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention อย่างเคร่งครัดต่อเนื่อง เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 แล้วยังจะสามารถทำให้ป้องกันโรคฝีดาษวานรได้อีกทางหนึ่งด้วย

นอกจากนี้ ระมัดระวัง เรื่องติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพราะฝีดาษลิงลักษณะการติดเชื้อจะคล้ายโรคเอดส์ ถ้ามีการใช้บริการทางเพศ ไปเที่ยวสถานบริการ ก็ถือว่าความเสี่ยง โดยกรมการแพทย์ยืนยันว่า มียารักษาตามอาการได้ และเตรียมพร้อมสถานพยาบาลไว้รองรับแล้ว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ