ดราม่าไม่จบ! แม่แชมป์หนูน้อยกล้วยไข่ เล่านิทานสอนคนสุดแซ่บ “แพ้แล้วพาล” แต่เจอกระแสตีกลับ ทัวร์ลงจนต้องลบโพสต์
เป็นดราม่าที่หลายคนนึกว่าจบแต่กลับไม่จบ สำหรับ “หนูน้อยกล้วยไข่เมืองกำแพง” เวทีประกวดของจังหวัดกำแพงเพชร ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมา โดยมีตำนานแม่ของหนูน้อยรองอันดับ 1 ขึ้นไปบนเวที ทำการปลดสายสะพายและคืนถ้วยรางวัล พร้อมจูงมือลูกลงจากเวที หลังมองว่าคำตัดสินค้านสายตา
ล่าสุด (5 ต.ค. 65) คุณแม่ของแชมป์หนูน้อยกล้วยไข่ได้ออกมาชี้แจงมุมมองฝั่งตัวเอง โดยระบุว่า จากกรณีที่มีดราม่าเกิดขึ้นแล้วมีกระแสด้านลบให้น้อง ทางคุณแม่ขอใช้พื้นที่ชี้แจงในส่วนของความรู้สึกที่อยากปกป้องลูก
1. เคารพในการตัดสินของท่านคณะกรรมการ ซึ่งขอยืนยันว่าไม่รู้จักท่านคณะกรรมการแต่ละท่าน ไม่ได้เป็นเด็กเส้นหรือรู้จักคนมีชื่อเสียง และเป็นเพียงแม่ขายขนมจีบแป้งสดซึ่งเป็นร้านรถเข็นริมทาง
2. เรื่องทรงผม รู้ว่าน้องทำผมไม่เหมือนเด็กคนอื่น ๆ สำหรับในการประชุม เรื่องการแต่งกาย กฎคือขอเป็นเสื้อแขนกระบอกผ้าซิ่นพื้นเมือง ส่วนเรื่องทรงผม ที่ประชุมเปิดให้มีการเสนอแต่ตอนนั้นไม่มีใครพูดอะไร ทางผู้จัดงานจึงสรุปให้เป็นการขอความร่วมมือทำผมทรงฟาร่าให้เป็นในทางเดียวกัน
และในวันงานทุกคนเห็นว่าน้องทำผมเกล้ามา ทำไมไม่ประท้วงกันตั้งแต่ตอนนั้น หรือแจ้งคณะกรรมการ ผู้จัดงาน ให้น้องเดินแล้วตกรอบแรกไปเลย เพราะถ้าเป็นแบบนั้นทางเราก็เต็มใจ เพราะรู้อยู่แล้วว่าทำผมมาไม่เหมือนคนอื่น แค่ลูกได้เดินขึ้นเวทีรอบแรกก็ดีใจแล้ว
3. ลูกแค่ 5 ขวบไม่เคยเดินสายประกวด ไม่มีประสบการณ์ ไม่เคยเข้าคอร์สการเดินแบบหรือการปรับบุคคลิกภาพ เพราะไม่ได้ตั้งใจมาสายนี้ แต่ที่มาประกวดก็แค่หาประสบการณ์ สร้างความกล้าแสดงออก เด็ก 5 ขวบทำได้ขนาดนี้ ถือว่าเก่งมากแล้ว ลูกสู้มาถึงรอบสุดท้าย คุณคงมั่นใจว่าลูกเราคงไม่ได้ที่ 1 เพราะคุณลงทุนไปเยอะ แต่ผลตอบรับกลับไม่เป็นไปตามคาด พาลค่ะพาล
4. ไม่เคยคาดหวังว่าลูกต้องได้ที่ 1 แค่เข้ารอบ 5 คนสุดท้ายก็มาไกลเกินฝันแล้ว แค่รอบ 10 คนที่มีการตอบคำถาม หลังลงเวทีก็บอกกับลูกว่ากลับบ้านกันลูก พี่ ๆ เขาตอบคำถามเก่งมาก
5. คุณบอกว่าพอประกาศผลว่าน้องได้ที่ 1 มีแต่คนโห่กันทั้งงาน ขอให้คุณฟังดี ๆ ว่าเสียงโห่หรือเสียงปรบมือ เสียงยินดีให้กำลังใจน้อง ไม่ทราบว่ามีปัญหาเรื่องประสาทหูหรือเปล่าค่ะ
6. ลูกมีการซ้อมเดิน ซ้อมตอบคำถาม แต่เป็นเพียงการซ้อมกันเองไม่ได้เข้าคอร์สเป็นพัน คำถามก็เป็นไหวพริบล้วน ๆ เป็นการแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าของเด็ก 5 ขวบ ลูกไม่ได้ท่องจำเพราะไม่รู้คำถาม เพราะคำถามที่เราซ้อมก็มีแต่ซองคำถามนั้นเด็กคนอื่น ๆ จับซองได้ไป คำถามนี้ทางเราก็คาดไม่ถึง เราถือว่าลูกเก่งมากแล้วในสายตาเราและภูมิใจในตัวลูกมาก
พร้อมกล่าวปิดท้ายว่า นิทานเรื่องนี้สอนให้อยู่ว่าอย่าคาดหวังอะไรมากเกินไป เพราะถ้าไม่เป็นไปตามที่หวังมันจะรู้สึกเจ็บมาก และจงยอมรับในผลของการกระทำที่มันเกิดขึ้นเพราะข้อผิดพลาดย่อมสามารถแก้ไขได้เสมอ เหรียญมี 2 ด้าน จงอย่าตัดสินความข้างเดียวถ้ายังไม่ได้ฟังความอีกฝ่าย และที่สำคัญเราไม่ใช่จุดศูนย์กลางของโลกใบนี้
เรียกได้ว่าทันทีที่อ่านจบ ชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นด้วยกับโพสต์ของคุณแม่ ต่างแนะให้คุณแม่อยู่เงียบ ๆ จะดีกว่า อย่าขุดเรื่องขึ้นมาให้เป็นดราม่าอีกเลย
อีกทั้ง บางส่วนยังมองว่า คุณแม่ “ผิด” เองต่างหาก ที่ไม่ทำตามกฎเรื่องทรงผมตั้งแต่แรก และสิ่งที่ทำอยู่อาจไม่ใช่การปกป้องลูก แต่เป็นการสร้างปัญหาให้ลูกแทน