หนังสือพิมพ์ The Seattle Times ของสหรัฐฯ รายงานว่าเมื่อวันอังคารบริษัทไมโครซอฟท์เป็นธุรกิจขนาดใหญ่รายล่าสุดของสหรัฐฯ ที่กำหนดให้พนักงานต้องมีหลักฐานยืนยันการรับวัคซีนโควิด-19 ก่อนที่จะกลับเข้าไปทำงานในสำนักงานในสหรัฐฯ ได้
แต่ก็มีระเบียบที่จะผ่อนผันให้ข้อยกเว้นสำหรับพนักงานที่มีปัญหาด้านสุขภาพหรือมีเหตุผลอื่นซึ่งทำให้ไม่สามารถรับการฉีดวัคซีนดังกล่าว นอกจากนั้นบริษัทไมโครซอฟท์ยังประกาศเลื่อนกำหนดเวลาที่จะให้พนักงานกลับเข้าไปทำงานในสำนักงานออกไปอีกหนึ่งเดือนคือเป็นวันที่ 4 ตุลาคมแทน
ส่วนที่ออสเตรเลีย มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้น 262 รายและเสียชีวิต 5 รายเมื่อวันพฤหัสบดี โดยขณะนี้เมืองใหญ่สามแห่งของออสเตรเลียคือซิดนีย์ เมลเบิร์น และบริสเบนยังอยู่ใต้ภาวะล็อคดาวน์โดยเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขของออสเตรเลียคาดว่าการล็อกดาวน์ในออสเตรเลียนั้นคงจะต้องดำเนินต่อไปจนกว่าอัตราการฉีดวัคซีนในประเทศจะอยู่ในระดับสูงกว่านี้
ถึงแม้ว่าออสเตรเลียจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่นก็ตาม แต่อัตราการฉีดวัคซีนของออสเตรเลียก็อยู่ในระดับต่ำเช่นกันคือมีเพียงราว 20% ของผู้ที่มีอายุเกิน 16 ปีเท่านั้นที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบโดสแล้ว