ไมค์ ไม่ตอบเรื่องซาร่า ขอโฟกัสที่แม็กซ์เวลล์ – ปลื้ม THE MISFITS ได้ฉายในไทย
ไมค์ ไม่ตอบเรื่องซาร่า / วันที่ 10 พ.ย. 64 ที่ โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย พารากอนซีเนเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน นักแสดงหนุ่ม ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล เดินทางมาชมภาพยนตร์เรื่อง “THE MISFITS พยัคฆ์ทรชนปล้นข้ามโลก”
ก่อนเข้าโรงภาพยนตร์ได้ให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์เปิดใจถึงเรื่องที่ได้มีโอกาสร่วมแสดงภาพยนตร์ดัง และได้ร่วมงานประกบนักแสดงระดับฮอลลีวูด เพียร์ซ บรอสแนน
หนังได้เข้าฉายแล้วรู้สึกยังไงบ้าง “ก็ตื่นเต้นครับ รู้สึกเหมือนวันนี้เป็นวันของไมค์ เพราะที่อเมริกาเขาฉายไปพักหนึ่งแล้ว ทีนี้ก็ได้ให้แฟนๆ ชาวไทยได้ชมกัน วันนี้ก็ตื่นเต้นหัวใจแต้นแรงเลยครับ”
แฟนชาวไทยจะได้ดูแล้วสักที “ด้วยความที่แฟนๆ ชาวต่างชาติเขาได้ดูก่อนแล้ว ส่วนของเราโรงหนังเพิ่งเปิดเนอะ ตอนนี้ก็เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ก็อยากให้คนไทยได้ดูกันครับ”
ฟีดแบ็กที่ต่างประเทศเป็นยังไงบ้าง “ดีครับ เพื่อนๆ ผมเขาก็มีโอกาสได้ดูแล้ว เขาก็ชอบกันครับ”
ความภูมิใจเป็นยังไงบ้าง ที่ได้ร่วมงานกับฮอลลีวูด “เอาจริงๆ เป้าหมายฮอลลีวูด เป็นเป้าหมายของผมตั้งแต่อายุสิบกว่าขวบได้ ก็ไม่คิดว่าจะได้มาทำงานที่ฮอลลีวูดด้วย ตอนนั้นภาษาอังกฤษก็พูดไม่เป็นเลย อยากจะบอกกับทุกคนว่า ถ้าเรามีความฝันก็ต้องทำให้มันเป็นจริงให้ได้ อย่าให้ใครมาบอกว่า ว่าเราทำไม่ได้ครับ”
เรื่องการทำงานเป็นยังไงบ้าง “คือตอนแรกผมกดดันนะครับ แต่ก็เหมือนไปพักผ่อนไปเที่ยวมากกว่า ด้วยโลเกชั่นที่เราถ่ายเป็นที่ดูไบ ได้อยู่ที่นั่น 1 เดือน ส่วนตัวผมเป็นคนชอบที่จะไปถ่ายทำงานต่างถิ่นอยู่แล้ว”
ได้ทำงานกับ เพียร์ซ บรอสแนน เป็นยังไงบ้าง “ก็สนุกดี ทีแรกก็มีความตื่น อย่าเรียกว่าตื่นเต้นเลยครับ เรียกตื่นตระหนกมากกว่า เพราะว่าเราก็โตมากับหนังของเขา อย่าง 007 เพราะฉะนั้นก็ค่อนข้างตื่นเต้น แต่พอเจอเขา เขาเป็นกันเอง เฟรนด์ลี่มากเลย ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายขึ้น ไม่ตึงเครียดในกองมากเกินไป ทั้งๆ ที่เป็นหนังที่ต้องพูดภาษาอังกฤษเรื่องแรกของเรา”
ได้ประสบการณ์อะไรมาบ้าง “จริงๆ ทุกการถ่ายทำต่างถิ่น ผมได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ค่อนข้างเยอะอยู่แล้ว ในเรื่องนี้ก็ได้ไปเห็นโปรดักส์ชั้นอีกแนวหนึ่ง อีกประเภทหนึ่งเป็นครั้งแรก ได้รวมงานกับคนที่ต่างวัฒนธรรมกันครับ”
เขาเป๊ะขนาดไหน “เอาจริงๆ ในทุกๆ กองก็จะมีเรื่องที่คาดไม่ถึง คงไม่มีกองไหนเพอร์เฟ็กต์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็มีเหตุการณ์ อากาศ อะไรพวกนี้ด้วยครับ นอกนั้นก็เป๊ะอยู่ครับ”
ความประทับใจยังไงบ้าง “ผมประทับใจทุกโมเมนต์เลยในการทำงาน ทั้งในระหว่างการทำงาน หรือระหว่างหลังเสร็จงาน แล้วเราไปพักกันต่อ คือมีความเป็นกันเองค่อนข้างเยอะ อย่างที่ผมบอกไม่เหมือนไปทำงาน เหมือนไปพักผ่อนเสียมากกว่า”
กดดันขนาดไหน เพราะเป็นงานระดับอินเตอร์ “คือผมคิดว่าบางสิ่งที่เราคาดหวังไว้ว่ามันจะน่ากลัว แต่จริงๆ มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เราคิด ก่อนไปประมาณ 1 เดือนกดดัน บินไปถึงแล้วก็กดดัน ตอนลงไปนั่งก่อนเจอนักแสดงก็กดดัน พอหลังจากได้เจอนักแสดงทุกคนแล้ว คือความกดดันนั้นก็หายไปเลยครับ”
มีคุยอะไรกันบ้างหลังจากเสร็จงาน “มีคุยกันบ้าง ไม่เยอะเท่าไหร่ เพราะต่างคนต่างยุ่งกับงานของตนเอง”
คาดหวังกับกระแสตอบรับมากน้อยขนาดไหน “ผมแค่หวังให้ทุกคนเพลิดเพลินกับการดูหนังเรื่องนี้ ไม่อยากให้คิดอะไรมาก ก็แค่สนุกไปกับการดูหนัง”
ถูกทาบทามเรื่องต่อไปหรือยัง “จริงๆ มีติดต่อมาหลายงานครับ แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ การเดินทางต่างๆ มันค่อนข้างที่จะลำบาก แต่คาดว่าอาจจะปีหน้าหรือปีใหม่ น่าจะเป็นการเริ่มใหม่ที่ดี”
เป็นงานฮอลลีวูดอีกไหม “มันก็มีครับ แต่บางทีมันก็ต้องแคสติ้ง เราก็ต้องรอครับ”
ไปแคสไว้เยอะไหม “แคสบ้างครับ นิดๆ หน่อยๆ เมื่อประมาณ 1-2 เดือนที่แล้วก็มีส่งไป เนื่องจากเราอยู่ต่างประเทศ ก็ต้องส่งเป็นสเกลเทสต์ไปครับ”
งานแบบไหนที่อยู่ในความสนใจของเรา “จริงๆ ผมก็เปิดโอกาสให้ทุกอย่างที่เข้ามานะครับ ไม่ได้ปิดกั้นอะไร”
จะไปทางฮอลลีวูดเลยไหม “ผมก็ยังโฟกัสในประเทศจีนอยู่ครับ”
แสดงว่าปีหน้าจะไปที่จีนก่อน “ใช่ครับ ปีหน้าคงได้กลับจีน”
การทำงานหลักๆ ยังอยู่ที่จีนใช่ไหม “จริงๆ หลักของไมค์อยู่ที่จีนมาหลายปีแล้วครับ แล้วก็ไม่เคยเปลี่ยน ในอนาคตผมว่าก็คงไม่เปลี่ยนมากไปกว่าเดิม”
คาดว่าจะกลับไปช่วงไหน “จริงๆ มีแพลนหลายรอบแล้วครับ แต่ต้องแคนเซิลไป เพราะว่าโดยส่วนตัวผมมีอย่างอื่นที่ต้องจัดการเคลียร์ปัญหาที่เมืองไทย ก็เลยคิดว่าจะเคลียร์ทุกอย่างให้จบก่อน จะได้ไปทำงานได้โดยไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลัง”
แพลนไว้ช่วงไหนบ้างที่ว่าจะไป “ก็ช่วงกลางปีรอบหนึ่ง แล้วก็คาดว่าน่าจะช่วงปีใหม่น่าจะมีโอกาสได้กลับไป”
ตอนนี้เหลืออะไรที่ต้องเคลียร์อีก “ส่วนใหญ่ก็จะเป็นงานบริษัท ธุรกิจส่วนตัวอะไรพวกนี้ที่ต้องคอยเคลียร์ให้มันจบๆ”
ไปครั้งนี้คือไปเริ่มงานซีรีส์เลยใช่ไหม “จริงๆ มีติดต่อมาหลายรูปแบบ มีทั้งทีวีโชว์ ทีวีซีรีส์”
ก็คงจะไปเริ่มงานยาวๆ ปีหน้าเลย “ปีหน้าก็คงกลับไปยาวครับ เพราะผมไม่ได้ไป 2 ปีแล้ว”
ไม่เลื่อนแล้วใช่ไหม “อันนี้ก็ต้องดูเรื่องของสถานการณ์เนอะ เพราะเราพูดและตอบไม่ได้ว่าสถานการณ์ในอนาคต เรื่องของนโยบายอะไรต่างๆ จะเป็นยังไง เราก็ไม่สามารถตอบได้เหมือนกัน”
แต่ที่จีนตอนนี้ประเทศจีนเข้าได้แล้วใช่ไหม “จากที่ตรวจสอบก็เข้าได้ครับ”
เราพร้อมที่จะกลับไปทำงานหนักที่นู่นแล้วใช่ไหม “จริงๆ ผมก็พร้อมทุกเมื่อครับ”
จะไปหาน้องแม็กซ์เวลล์ก่อนบินไปไหม “จริงๆ เพิ่งลงไปมาครับ ไปภูเก็ตมาครับ ก็สนุกดีครับ”
ได้ใช้เวลากับน้องในรอบกี่เดือน “ตอนนั้นผมก็รอให้สถานการณ์มันคลี่คลาย ให้มันดีขึ้น แล้วก็ลงไปทันทีเลย”
ไปเจอกันนานแค่ไหน “แต่ละครั้งก็ประมาณ 3-5 วันประมาณนี้ครับ”
ครั้งนี้ไปพร้อมกอล์ฟด้วยใช่ไหม “มีรอบที่ไปเจอพร้อมกอล์ฟ กับอีกรอบที่กอล์ฟไม่ได้ไป”
ได้เจอครั้งนี้เต็มอิ่มไหม “เต็มอิ่มครับ เพราะว่าเราอยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมงเลย กินด้วยกัน นอนด้วยกัน ทำกิจกรรมนั่นนี่ด้วยกัน”
น้องพูดเก่งขึ้นไหม “ซนขึ้นครับ เรามีทำกิจกรรมหลายอย่างด้วยกัน ก่อนที่ผมจะไปผมก็คิดว่ากิจกรรมอะไรบ้างที่แม็กซ์เวลล์จะชอบและทำอะไรด้วยกันได้บ้าง เขาก็โตขึ้นเรื่อยๆ ครับ”
บอกเขาไหมว่าเราจะไปทำงานที่จีน “ผมจะคอยบอกเขาทุกครั้งครับ เขาก็เข้าใจ แต่ผมก็จะสัญญากับเขาว่าผมจะกลับมา”
วันพ่อที่จะถึงนี้จะมีโอกาสได้เจอกันอีกไหม “ก็ไม่แน่นะครับ ก็ต้องรอดูจังหวะด้วย สถานการณ์ต่างๆ ด้วยหลายๆ อย่าง ตอนนี้ในหลายๆ เรื่อง ก็ไม่สามารถตอบอะไรได้มาก”
ก่อนหน้านี้ซาร่าโพสต์ว่าต้องทนอะไรหลายอย่าง คนก็มุ่งมาที่เรา “อันนี้ผมไม่ทราบครับ แต่ว่าขออนุญาตไม่ตอบเรื่องบุคคลที่สาม เพราะว่าถ้าตอบไปมันจะยิ่งไม่จบ และลูกผมก็โตขึ้นทุกวัน เพราะฉะนั้นผมคิดว่าจะไม่พูดและไม่ตอบคำถามพวกนี้อีกครับ ขอโฟกัสแต่ลูกเท่านั้นครับ”