ไบเดน เผยความเสี่ยงวันสิ้นโลกนิวเคลียร์ สูงสุดตั้งแต่วิกฤตขีปนาวุธคิวบา

วันที่ 7 ต.ค. บีบีซี รายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ความเสี่ยงของวันสิ้นโลกนิวเคลียร์ (Nuclear Armageddon) อยู่ที่ระดับสูงสุดตั้งแต่วิกฤตขีปนาวุธคิวบาปี 1962 (พ.ศ. 2505) ที่สหรัฐและสหภาพโซเวียต โดยประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี และนายนีกีตา ครุชชอฟ เกือบประลองนิวเคลียร์ หลังโซเวียตติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ในคิวบา ถือเป็นการเข้าใกล้สงครามนิวเคลียร์เต็มรูปแบบที่สุดในโลกที่เท่าเคยมีมา

นายไบเดนกล่าวที่งานระดมทุนของพรรคเดโมแครตว่า ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ไม่ตลกเมื่อพูดถึงการใช้อาวุธนิวเคลียร์ อาวุธชีวภาพ และอาวุธเคมีด้านยุทธวิธี เนื่องจากการทหารของนายปูตินมีประสิทธิภาพต่ำกว่ามาตรฐานอย่างมากหลังกองกำลังรัสเซียล่าถอยในยูเครน และว่า การใช้อาวุธนิวเคลียร์ อาวุธชีวภาพ และอาวุธเคมีด้านยุทธวิธี อาจลุกลามอย่างรวดเร็วเกินกว่าควบคุม และว่าสหรัฐพยายามหาทางลงให้นายปูตินออกจากสงคราม

“เรามีภัยคุกคามโดยตรงต่อการใช้อาวุธนิวเคลียร์เป็นครั้งแรกตั้งแต่วิกฤตขีปนาวุธคิวบา หากสิ่งเหล่านี้เกิดต่อไปตามแนวทางที่รัสเซียเดินจริงๆ เราไม่ได้เผชิญโอกาสที่จะเกิดวันสิ้นโลกตั้งแต่ประธานาธิบดีเคนเนดีและวิกฤตขีปนาวุธคิวบา” นายไบเดนกล่าวกับพรรคเดโมเครต

ถ้อยแถลงของผู้นำสหรัฐมีขึ้นหลังเจ้าหน้าที่สหรัฐเตือนมาหลายเดือนแล้วว่า รัสเซียอาจหันไปใช้อาวุธอำนาจทำลายล้างสูง หากต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้ในสนามรบในยูเครน และสหรัฐกับสหภาพยุโรประบุควรเอาจริงเอาจังกับการสำแดงแสนยานุภาพนิวเคลียร์ของนายปูติน

ก่อนหน้านี้ นายปูตินขู่จะใช้ทุกวิถีทางเพื่อปกป้องดินแดนรัสเซียลงนามเอกสารสุดท้ายเมื่อวันศุกร์ที่ 30 ก.ย. เพื่อผนวก 4 แคว้นยูเครนที่รัสเซียยึดครองอย่างเป็นทางการ ได้แก่ แคว้นลูฮันสค์ แคว้นโดเนตสค์ แคว้นซาโปริฌเฌีย และแคว้นเคียร์ซอน แม้ว่ากองกำลังยูเครนกำลังรุกคืบยืดคืนพื้นที่จากนายปูติน