ไบเดน จะยกหนี้การศึกษา 1 ล้านบาท แก่ผู้มีรายได้ปีละไม่ถึง 4.5 ล้านบาท

Home » ไบเดน จะยกหนี้การศึกษา 1 ล้านบาท แก่ผู้มีรายได้ปีละไม่ถึง 4.5 ล้านบาท



ไบเดน จะยกหนี้การศึกษา 1 ล้านบาท แก่ผู้มีรายได้ไม่ถึง 4.5 ล้านบาทต่อปี

วันที่ 25 ส.ค. บีบีซี รายงานว่า ประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน จะยกหนี้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาของรัฐบาลกลางเป็นจำนวน 10,000 ดอลลาร์ (ราว 1 ล้านบาท) แก่ชาวอเมริกันหลายล้านคนที่มีรายได้น้อยกว่า 125,000 ดอลลาร์ต่อปี (เกือบ 4.5 ล้านบาท)

นอกจากนี้ จะยกหนี้ 20,000 ดอลลาร์ (ราว 2 ล้านบาท) แก่ผู้กู้ยืมเงินจากเพน แกรนต์ส (Pell Grants) เงินอุดหนุนจากรัฐบาลกลางที่จัดสรรแก่ผู้ต้องการเรียนปริญญาตรีด้วย ส่วนการพักการชำระหนี้เพื่อการศึกษาชั่วคราวที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนมี.ค. 2563 นายไบเดนจะขยายออกไปอีก “เป็นครั้งสุดท้าย” จนวันที่ 31 ธ.ค.ปีนี้

 

ชาวอเมริกันราว 43 ล้านคนเป็นหนี้เพื่อการศึกษาของรัฐบาลกลางรวม 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 57 ล้านล้านบาท) และเกือบ 1 ใน 5 ของลูกหนี้เป็นหนี้น้อยกว่า 10,000 ดอลลาร์

ขณะที่การวิจัยของสถาบันบรูกิงส์ระบุว่า นักศึกษาผิวดำมีแนวโน้มมากกว่าที่จะกู้ยืมเพื่อการศึกษาของรัฐบาลกลาง และมีจำนวนสูงกว่าอเมริกันคนอื่นๆ และปี 4 หลังได้รับปริญญาตรี ผู้กู้ยืมที่เป็นคนดำมีหนี้เกือบ 25,000 ดอลลาร์ (เกือบ 900,000 บาท) มากกว่าคนผิวขาวรุ่นเดียวกันโดยเฉลี่ย

 

นายไบเดนกล่าวจากทำเนียบขาวเมื่อวันพุธที่ 24 ส.ค. ว่า แผนดังกล่าวจะทำให้ครอบครัวคนทำงานและครอบครัวชนชั้นกลางหายใจโล่งมากขึ้น

“ภาระดังกล่าวหนักมากจนต่อให้คุณจบการศึกษา คุณไม่อาจขยับขึ้นมามีชีวิตชนชั้นกลางอย่างที่ปริญญามหาวิทยาลัยเคยให้” นายไบเดนโดยย้อนความอัปยศที่พ่อของผู้นำสหรัฐ ซึ่งเป็นพนักงานขายรถยนต์ รู้สึกเมื่อพยายามดิ้นรนจ่ายค่าเล่าเรียนของลูกๆ

“ราว 1 ใน 3 ของผู้กู้ยืมมีหนี้เพื่อการศึกษาแต่ไม่มีปริญญา เป็นความเลวร้ายที่สุดของโลกทั้งสองกลุ่ม ในที่สุดประชาชนสามารถหลุดออกมาจากหนี้กองโตเท่าภูเขาก้อนนั้นได้” นายไบเดนกล่าว

 

การประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังการอภิปรายภายในทำเนียบขาวอย่างเข้มข้นเป็นเวลากว่า 1 ปี และส.ว.เดโมแครตที่มีเสียงข้างมากในวุฒิสภา ได้แก่ นายชัก ชูเมอร์ จากรัฐนิวยอร์ก และอลิซาเบธ วอร์เรน จากรัฐแมสซาชูเซตส์ เป็นหัวหอกผลักดันให้นายไบเดนใช้อำนาจฝ่ายบริหารเพื่อล้างหนี้ดังกล่าว แต่ยังไม่เป็นไปตามคาดหวังของ 2 ส.ว. ที่ต้องการยกหนี้ 50,000 ดอลลาร์ (ราว 5 ล้านบาท)

ขณะที่แบบจำลองงบประมาณเพนน์ วอร์ตัน ที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ประเมินว่า การยกหนี้ครั้งเดียวคนละ 10,000 ดอลลาร์แก่ผู้กู้ยืมที่มีรายได้น้อยกว่า 125,000 ดอลลาร์ต่อปีจะทำให้รัฐบาลกลางต้องแบกรับค่าใช้จ่ายราว 300,000 ล้านดอลลาร์ (10.7 ล้านล้านบาท)

 

นายไบเดนตอบโต้ข้อวิจารณ์นี้โดยระบุว่า แผนการยกหนี้เพื่อการศึกษาเป็นแนวทางที่รับผิดชอบทางเศรษฐกิจ “ผมจะไม่มีวันยกหนี้เพื่อช่วยเหลือคนทำงานชาวอเมริกันและชนชั้นกลาง ไม่มีบุคคลรายได้สูงหรือครัวเรือนรายได้สูงได้รับประโยชน์จากแผนการนี้” นายไบเดนกล่าว

อย่างไรก็ตาม ส.ส.พรรครีพับลิกันและส.ส.พรรคเดโมแครตสายกลางบางคนกล่าวว่า การยกหนี้จะเพิ่มอัตราเงินเฟ้อด้วยการให้เงินชาวอเมริกันใช้จ่ายมากขึ้น ส่วนคนอื่นๆ บอกว่าการยกหนี้แบบครอบคลุมไม่ยุติธรรมกับผู้ชำระเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาแล้ว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ