ไบเดนเตือน – วันที่ 28 ม.ค. บีบีซี รายงานว่า ทำเนียบขาวของสหรัฐอเมริการะบุว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวเตือนว่ามีความเป็นไปได้ที่ชัดเจนว่า รัสเซียอาจรุกรานยูเครนในเดือนก.พ.ที่จะถึงนี้ หลังรัสเซียระดมกำลังทหารกว่า 130,000 นายเข้าประชิดชายแดนทางตะวันออกของยูเครน แม้ว่ารัสเซียปฏิเสธแผนการรุกรานยูเครนมาตลอด
น.ส.เอมิลี ฮอร์น โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว แถลงว่าประธานาธิบดีไบเดนพูดเรื่องนี้ต่อสาธารณชน และทำเนียบขาวเตือนเรื่องนี้มาหลายเดือนแล้ว โดยระหว่างสนทนาทางโทรศัพท์กับนายโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เมื่อวันพฤหับสดีที่ 27 ม.ค. นายไบเดนย้ำเตือนถึงความกังวลดังกล่าวรวมทั้งยืนยันความพร้อมของสหรัฐ ชาติพันธมิตร และหุ้นส่วนของสหรัฐเพื่อตอบโต้อย่างเด็ดขาดหากรัสเซียบุกยูเครนต่อไป
ขณะที่ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวว่า ตนและประธานาธิบดีไบเดนหารือถึงความพยายามทางการทูตล่าสุดในการลดระดับความรุนแรง และตกลงการดำเนินภารกิจร่วมกันในอนาคต
เว็บไซต์ข่าวอเมริกัน แอ๊กเซียส อ้างแหล่งข่าวเปิดไม่เผยชื่อ ชี้ว่าสองผู้นำไม่เห็นด้วยกับภัยคุกคามที่ใกล้เข้ามา และผู้เชี่ยวชาญทางทหารบางคนแนะนำว่ารัสเซียอาจกำลังรอให้ภาคพื้นดินในยูเครนกลายเป็นน้ำแข็งเพื่อให้รัสเซียสามารถเคลื่อนตัวในยุทโธปกรณ์หนักได้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นก่อนนายเอ็มมานูเอ็ล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส จะสนทนาทางโทรศัพท์สายตรงกับนายวลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ในวันที่ 28 ม.ค. ตามเวลาท้องถิ่น
ด้านนายดมีตรี เปสคอฟ โฆษกทางการรัสเซีย กล่าวถึงกรณีที่สหรัฐปฏิเสธข้อเรียกร้องของรัสเซียในการให้การรับรองความปลอดภัยจากชาติตะวันตก รวมถึงการยับยั้งยูเครนเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ว่า ทำให้เหลือพื้นที่มองโลกในแง่ดีน้อยมากในการแก้วิกฤตดังกล่าว แต่เสริมว่ามีโอกาสเสมอสำหรับการเจรจาต่อไปเพื่อประโยชน์ของทั้งชาวรัสเซียและชาวอเมริกัน
ก่อนหน้านี้ นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ออกแถลงการณ์อย่างเป็น
ทางการเพื่อปฏิเสธข้อเรียกร้องหลักดัวกล่าวของรัสเซีย แต่กล่าวว่า การตอบสนองของสหรัฐเป็นการ แสดงจุดยืนต่อหลักการสำคัญอย่างชัดเจน รวมถึงการเคารพในอำนาจอธิปไตยของยูเครน และสิทธิในการเลือกเป็นส่วนหนึ่งของพันธมิตรด้านความมั่นคง เช่น องค์การนาโต
อย่างไรก็ตาม นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวถึงการตอบโต้อย่างเป็นทางการของสหรัฐไม่ได้ระบุ “ความกังวลหลัก” เกี่ยวกับการขยายตัวขององค์การนาโตด้วย
ทั้งนี้ รัสเซียเคยผนวกคาบสมุทรไครเมีย ทางใต้ของยูเครน ในปี 2557 มาแล้ว นอกจากนี้ ให้การสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนยึดพื้นที่กว้างใหญ่ของภูมิภาคดอนบัสส์ ทางตะวันออกของยูเครนหลังจากนั้นไม่นาน และมีผู้เสียชีวิตราว 14,000 รายในการสู้รบที่นั่น