“ช้างศึก” ทีมชาติไทย ถล่ม พม่า 4-0 ประตู พร้อมผลงานสุดฮอต “เจ้ามุ้ย” ทำสถิติเทียบเท่าตลอดกาลดาวซัลโว 17 ประตู ในศึกฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 รอบแบ่งกลุ่ม ที่ สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ เมื่อค่ำวันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม 2564
ทัพ “ช้างศึก” ภายใต้การคุมทีมของ “มาโน่ โพลกิ้ง” ปรับระบบเป็น 4-4-2 นอกจากนี้ยังปรับทัพถึง 4 ตำแหน่ง ส่ง ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีราทร บุญมาทัน, ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร และศุภชัย ใจเด็ด มาแทนที่ของ สุภโชค สารชาติ, ทริสตอง โด, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, บดินทร์ ผาลา ที่หลุดโผเป็นแค่ตัวสำรอง
ด้านเมียนมา ภายใต้การวางเกมของ อองตวน เฮย์ เฮดโค้ชชาวเยอรมนี วัย 51 ปีคุมทัพ เกมนี้วางระบบ 4-1-4-1 จัดขุมกำลังที่ดีที่สุดลงสนามเช่นกัน นำโดย กัปตันทีมมอง มอง ลวีน กองกลางจอมทัพวัย 26 ปี, ธาน เพง หัวหอกตัวเป้าวัย 25 ปี โดย 2 คนนี้เพิ่งยิงประตูได้คนละเม็ดจากเกมล่าสุดที่เอาชนะ ติมอร์ เลสเต 2-0
เริ่มเกมผ่านไปถึงนาที 23 ไทยทำเกมรุกขึ้นมาทางฝั่งขวา แล้วเป็น นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ที่จ่ายบอลตัดเข้าในให้ ธีรศิลป์ แดงดา ง้างเท้าซัดเต็มข้อส่งบอลพุ่งเรียดตุงตาข่ายให้ ทีมชาติไทยขึ้นนำ 1-0
จากนั้นเกมเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ถึงนาที 29 เฮน พโย วิน แนวรับพม่าโดนใบเหลืองไปอีกคน หลังพุ่งไปสไลด์ใส่ นฤบดินทร์ วีรวัฒนโนดม ที่พาบอลกระชากหนีไปได้แล้วบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ไทยบุกเพลินจึงโดนโต้กลับเร็ว นาที 40 พม่าเกือบได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะได้บอลโอกาสสวนกลับเร็วเมื่อ เฮน เทะ ออง พาบอลตะลุบขึ้นมาทราบกราบซ้าย ก่อนปาดบอลเข้ากลาง บอลกำลังจะถึง ธาน เพง ที่พุ่งสไลด์เข้ามาเพื่อที่จะยิงอยู่แล้ว แต่มานูเอล ทอม เบียร์ ยังตามมาสกัดทิ้งออกหลังไว้ได้ทัน จบครึ่งแรก ทีมชาติไทย ยังคงขึ้นนำ เมียนมา อยู่ 1-0
ครึ่งหลัง ถึงนาที 53 ทีมชาติไทย หนี เมียนมา 2-0 จากการสังหารจุดโทษของ ธีรศิลป์ แดงดา และประตูนี้ทำให้ “มุ้ย” ยิงในรายการนี้ครบ 17 ลูก ขึ้นแท่นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลเทียบเท่า “นอห์ อลัม ชาห์” ทันที ถึงนาที 66 ทีมชาติไทย ขยับเปลี่ยนตัว 3 คนรวด ถอดทาง ศุภชัย ใจเด็ด, สารัช อยู่เย็น, ชนาธิป สรงกระสินธ์ และส่ง ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์, สุภโชค สารชาติ ลงมาเล่นแทน ถึงนาที 75 โอกาสลุ้นแฮตทริกอีกครั้งสำหรับ ธีรศิลป์ แดงดา คราวนี้เป็นลูกเตะมุม ธีราทร บุญมาทัน โยนเข้ามาเหมือนเดิม แต่ ธีรศิลป์ แดงดา ที่โฉบเข้ามาโหม่งเต็มๆ ดันโหม่งบอลลงกับพื้นกระเด้งข้ามคานออกหลังไปอีก
ถัดมา นาที 76 ทีมชาติไทย ขยับเปลี่ยนตัวส่งทาง วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ มิดฟิลด์ป้ายแดงบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ลงมาเล่นแทน ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร กองกลางจากเลสเตอร์ ซิตี้ เพียงสองนาทีถัดมา วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ที่เพิ่งลงมาสัมผัสบอลเพียงแปปเดียว ซัดให้ทีมชาติไทย หนี เมียนมา 3-0 ในนาที 78
ท้ายเกมไทยขยับเปลี่ยนตัวคนสุดท้าย ส่ง ทริสตอง โด ลงมาเล่นแทน นฤบดินทร์ วีรวัฒนโนดม ล่วงเข้าทดเวลาเจ็บ สุภโชค สารชาติ ซัดเต็มข้อตุงตาข่ายปิดท้าย ย้ำชัยให้ ทีมชาติไทย ตอกฝาโลง พม่า 4-0 ประตู เก็บสามแต้มคว้าชัย แถมยังเป็นสถิติให้ “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา พัง 17 ประตูในรายการนี้ เทียบ นอห์ อลัม ชาห์ ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์อาเซียนทันที
สรุป ไทยเตะ สองนัด มี 6 แต้มเต็มเท่าเจ้าภาพสิงคโปร์ ขณะที่ พม่า มี 3 แต้ม เตะ 2 นัดเท่ากัน