ไคยาน ปรินซ์ คือนักเตะที่จะถูกเพิ่มเข้ามาในเกม FIFA21 ในเร็วๆนี้ และถ้าคุณไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร?..
.. ชยันธร ใจมูล นักเขียนจาก Main Stand จะเล่าให้เข้าใจว่า เหตุใดเด็กหนุ่มที่เสียชีวิตในวัย 15 ปี จึงได้เกิดใหม่ในเกมฟุตบอลที่ได้รับความนิยมที่สุดเกิดหนึ่งของโลก
เตรียมทิชชู่มาเช็ดน้ำตากับเรื่องนี้ได้เลย..
พ่อเจ้าคือแชมเปี้ยน
เด็กคนหนึ่งจะเติบโตมาเป็นคนแบบไหน? วิธีดูและคาดเดาได้ง่ายที่สุด คือ การดูจากพ่อแม่ หรือผู้ปกครองของเขา.. ดั่งคำที่ว่า พ่อแม่นั้นคือกระจกเงาของลูก แม้คำๆนี้อาจดูเชยและใช้ไม่ได้จริงเสมอไป แต่ก็เป็นคำโบราณที่พอจะทำให้เห็นอะไรได้ง่ายขึ้น
สำหรับ ไคยาน ปรินซ์ เป็นเด็กหนึ่งภาพสะท้อนของ มาร์ค ปรินซ์ พ่อของเขาได้เป็นอย่างดี.. ย้อนกลับไปในวันที่ “มาร์ค” ยังเป็นเด็กหนุ่มและเต็มไปด้วยความฝัน เขาเป็นเด็กผิวดำที่ชื่นชอบการชกมวยเป็นชีวิตจิตใจ และหวังว่าจะได้เป็นนักชกอาชีพในสักวันหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ย้อนกลับไปเมื่อสัก 40 ปี ก่อน ปัญหาเรื่องการเหยียดผิวไม่ได้ถูกมองว่าเป็นอาชญากรรมเหมือนทุกวันนี้ มาร์ค ปรินซ์ จึงต้องประสบพบเจอกับชีวิตที่ค่อนข้างยากลำบาก โดนต่อต้าน กีดกัน และรังแก ซึ่งโชคไม่ดีที่ ณ เวลานั้นความแข็งแกร่งของจิตใจสำหรับ มาร์ค ยังไม่มากพอ..
เขาเหมือนกับเด็กที่โดนบูลลี่เอารอบด้าน ทำอะไรก็โดนเยาะเย้ยถากถางและมันมากเกินไปสำหรับเขา มาร์ค ปรินซ์ จึงถอดใจกับฝันแชมป์มวยโลกของตัวเองและเข้าสู่ด้านมืด เขาคิดว่าแค่ว่า เมื่อดีไม่ได้ ก็ร้ายไปเสียให้มันรู้เเล้วรู้รอด
“ผมโดนสอนให้รู้จักวิธีการต่อสู้มาตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ตอนนั้นปัญหาการเหยียดผิวมีมากจริงๆ ผมยังจำภาพความลำบากของครอบครัวในวันนั้นได้ดี มันเปลี่ยนผมให้กลายเป็นคนที่หันหน้าเข้าสู่โลกแห่งอาชญากรรม เรื่องนี้นอกจากมันเป็นความผิดของผมเองแล้ว ผมยังคิดว่ามันยังเป็นปัญหาในระดับโครงสร้าง พวกเราไม่มีบ้านอยู่ เร่ร่อนไปเรื่อย ยิ่งผมทำเลวมากขึ้นเท่าไหร่ ชีวิตผมก็ออกห่างจากสิ่งดีๆและความสำเร็จมากเท่านั้น” มาร์ค เล่าย้อนกลับไปวัยเด็ก
การเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เรื่องง่ายๆสำหรับใครสักคนที่เดินหลุดออกจากพื้นฐานของความดีไปไกลอย่างเขา สิ่งเดียวที่ทำให้ มาร์ค ระลึกขึ้นได้ว่าควรจะต้องทำอะไรสักอย่าง คือครั้งที่ภรรยาของเขาตั้งท้องลูกชายคนแรก เขาคิดได้ทันทีว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้ลูกได้ลืมตาดูโลก และพบว่าเขาเป็นพ่อที่สมควรได้รับความเคารพและความภาคภูมิใจของลูกชาย
“ผมอยากประสบความสำเร็จในสายตาของลูก ผมอยากให้ตัวเองเป็นคนใหม่ ผมคิดว่าพอแล้ว ผมไม่อยากจะต้องติดคุกหรือต้องตายในห้องขัง แม้กระทั่งข้างถนน”
“ผมไม่มีเงินเลย สิ่งเดียวที่ผมพอจะมีติดตัวคือวิชาการต่อสู้ ผมผ่านศึกข้างถนนมาก็มาก มันน่าจะพอช่วยให้ผมกลายเป็นนักสู้กับเขาได้บ้าง ผมเริ่มเปลี่ยนไปยึดมั่นกับความเชื่อ การมีลูกเปลี่ยนให้ผมกล้าหาญ และสุดท้ายผมกลายเป็นแชมป์มวยสากลรายการ ABA ลอนดอน ได้สำเร็จ” สิ่งที่ มาร์ค เล่ามาทั้งหมดคือสิ่งที่ ไคยาน ลูกชายของเขาเติบโตขึ้นมาและสัมผัสได้โดยตรง พ่อของเขาคือนักสู้ ไม่ใช่อาชญากร
การได้ลืมตาอ้าปากช่วยให้ มาร์ค สามารถสอนลูกชายของเขาได้เป็นอย่างดี “อย่าคิดรังแกใคร อย่าทำร้ายคนที่อ่อนแอกว่า” นี่คือสิ่งที่เขาพยายามพร่ำสอนลูกชาย เพราะเขาเชื่อว่าศักดิ์ศรีที่แท้จริงของคนเรานั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่ง แต่มันขึ้นอยู่กับความกล้าหาญ ว่าคนๆนั้นกล้าพอที่จะเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่
พ่อของเจ้าคือแชมเปี้ยน.. จงเติบโตอย่างอ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ นั่นคือทั้งหมดที่ ไคยาน ได้ซึมซับมาตลอด จนกระทั่งเจ้าตัวโตขึ้นและได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมเยาวชนของสโมสรฟุตบอล “คิวพีอาร์” หรือ ควีนส์พาร์ค เรนเจอร์ส ทีมเล็กๆในเมืองหลวงที่มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นหลังจากนี้
เด็กหนุ่มของเรา
ไคยาน ปรินซ์ เข้ามาอยู่กับระบบอคาเดมี่ของ คิวพีอาร์ ตอนที่เขาอายุ 12 ปี เขากลายเป็นเด็กระดับหัวแถวของศูนย์ฝึก รวดเร็ว เก่งกาจเกินอายุ เเละเหนือสิ่งอื่นใด เขาคือผู้นำของเพื่อนๆที่อ่อนแอกว่าได้เสมอ
โดยปกติเเล้ว ระบบอคาเดมี่ของสโมสรต่างๆนั้นมีข้อบังคับคือ ให้เด็กๆในสังกัดของพวกเขาเข้าเรียนในสายสามัญกับโรงเรียนที่ทำ MOU ร่วมกับสโมสร ดังนั้น ไคยาน จึงต้องเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมฯ ลอนดอน อคาเดมี่ ซึ่งเป็นที่ที่เขาต้องใช้ความกล้าหาญในแบบที่พ่อของเขาสอนทุกวัน
มีเรื่องเล่าจากโค้ชทีมเยาวชนของ คิวพีอาร์ ว่า ไคยาน นั้นคือเด็กที่เพื่อนๆทุกคนรักมาก โดยเฉพาะเพื่อนๆที่อ่อนแอ เพราะในเวลาที่เด็กเหล่านั้นโดนแกล้ง ไคยาน จะออกหน้ารับแทน และปกป้องคนที่อ่อนแอกว่าเสมอ เหมือนกับที่เขาโดนพ่อสอนมาโดยตลอด
“เรื่องราวของ ไคยาน เกิดขึ้นบ่อยๆที่โรงเรียนของเขา ถ้ามีเด็กใหม่ย้ายเข้ามาและเด็กคนนั้นอ่อนแอเกินไป พวกเขามักจะโดนรังแก และ ไคยาน จะเป็นคนที่คอยช่วยเหลือเด็กใหม่เหล่านั้น จนคุณครูที่โรงเรียนมีเรื่องมาบอกเล่ากับผมแทบทุกวันว่า ‘มาร์ค เราไม่ได้พยายามจะบอกว่าลูกคุณเป็นขาใหญ่อะไรอย่างนั้น แต่ ไคยาน เป็นเด็กที่ยอดเยี่ยมจริงๆ’ เด็กผู้ชายทุกคนอยากเป็นเหมือนเขา และเด็กผู้หญิงอีกหลายๆคนก็รู้สึกปลอดภัยเมื่อได้อยู่กับเขาเช่นกัน” มาร์ค เล่าถึงลูกชาย
“ซึ่ง ไคยาน ก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เขาเป็นคนใจเย็น ทำอะไรรอบคอบ นึกถึงคนอื่น ห่วงใยทุกคน แม้กระทั่งตอนที่เขาอยู่กับสัตว์อย่างหมาหรือแมว เขาก็อ่อนโยนเสมอ เขาเเตกต่างกับตัวผมในตอนเด็กอย่างสิ้นเชิง ผมเป็นเด็กที่ต้องต่อสู้เพื่อให้ได้ชัยชนะ จากนั้นจึงจะได้ความเคารพ แต่สำหรับ ไคยาน เขาได้ความเคารพจากเพื่อนโดยไม่ต้องออกแรงอะไรเลยสักอย่าง”
เช่นเดียวกันเมื่อหลังคาบเรียนจบลง ไคยาน จะสวมรองเท้าสตั๊ดและไปประจำการที่ศูนย์ฝึกเยาวชนของสโมสร สิ่งที่โค้ชเยาวชนของทีมบอกเขาเป็นประจำก็คือ “อยากให้ทุกคนมองหา ไคยาน ให้เจอ เขาจะช่วยแบกทีมและพวกนายทุกคนไปเอง” นั่นคือคำยืนยันจาก โจ กัลเลน อดีตโค้ชที่เคยดูแล ไคยาน ในช่วงวัย 15 ปี
“ทีมโค้ชชุดเยาวชนมักจะรวบรวมข้อมูลทั้งวิธีการเล่นและเชิงสถิติมานั่งพูดคุยกัน และเราพบชื่อของ ไคยาน บนหัวกระดาษเสมอ ทุกคนในสโมสรหวังอย่างยิ่งว่าเขาจะเติบโตมาเป็นนักเตะอาชีพที่เก่งกาจได้”
“เขาคือเจ้าสนามในรุ่นอายุไม่เกิน 14 และ 15 ปี ทุกเช้าวันอาทิตย์เมื่อเกมมาถึง เขาจะลงสนามและแสดงบุคลิกของผู้นำออกมา และเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในสนามเสมอ ทุกคนสามารถมองเขาเป็นแบบอย่างได้ เขาขับเคลื่อนทุกคนได้อย่างเหลือเชื่อ” กัลเลน ที่ปัจจุบันเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมของ พอร์ทสมัธ ว่าต่อ
ดูเหมือนทุกคนจะรักเขา ไม่ว่าจะในแง่มุมของเด็กคนหนึ่งหรือนักฟุตบอลคนหนึ่ง เขาเป็นเด็กดีสุดขั้ว แต่โชคร้ายที่วันหนึ่งเขาต้องมาเจอกับพวกเด็กชั่วสุดขีด และยังเป็นเด็กชั่วที่ขี้ขลาดอีกต่างหาก
วันนั้นหลังเกมซ้อม
ฮานนีด ฮาซาน คือชื่อของเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่เป็นรุ่นพี่ของ ไคยาน ปรินซ์ เขาอายุมากกว่า 2 ปี (17 ปี) ในวันที่เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้น..
เด็กหนุ่มที่ลี้ภัยจากโซมาเลียมายังอังกฤษ มีประวัติความรุนแรงมากมาย เขาเคยแกล้งเด็กคนหนึ่งด้วยการห้ามเข้าห้องน้ำไปฉี่ จนเด็กคนนั้นฉี่ราดต่อหน้าครูผู้หญิงคนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังมีประวัติการข่มขู่คนอื่นๆอีกเพียบ
กระทั่งวันหนึ่งเขาเจอกับ ไคยาน ที่พอเป็นหมัดเป็นมวยตามที่พ่อได้สอนมาบ้างเล่นงานเข้า จิ๊กโก๋วัย 17 ปี จึงเสียท่า โดน ไคยาน เล่นงานจนน่วม ขณะที่เพื่อนที่อยู่รอบข้างต่างก็หัวเราะที่ได้เห็น ฮาซาน ล้มกลิ้งกับพื้น แพ้เด็กอายุน้อยกว่าถึง 2 ปี
สำหรับคนที่ชอบรังแกคนที่อ่อนแอกว่า การโดนหัวเราะใส่โดยไม่สามารถสู้ได้เพราะสู้ไม่ไหว คือสิ่งที่ทำให้พวกเขาแค้นและเจ็บปวดขั้นสุด และคนประเภทนี้ไม่เคยยอมใคร สู้ไม่ได้ก็ต้องเอาให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการที่สกปรกขนาดไหนก็ตาม และเขาเล็งจะใช้มันกับ ไคยาน ปรินซ์ ในฐานะคนที่เคยทำให้เขาอับอายขายขี้หน้าเสียชื่ออันธพาลประจำโรงเรียน
วันหนึ่งหลังจากที่ทีมเยาวชนของ คิวพีอาร์ ลงซ้อมเสร็จ โค้ชกัลเลนปล่อยเด็กๆเดินทางกลับบ้านเหมือนเช่นทุกวัน ขณะที่ โค้ชกัลเลน ออกไปทำธุระ ไคยาน ก็กำลังจะเดินทางกลับบ้านด้วยรถจักรยานที่พ่อของเขาซื้อให้ หนนี้ ฮาซาน มาดักรอถึงที่ เขาใช้กุญแจมือล็อคให้ ไคยาน ขยับไปไหนไม่ได้จากนั้น เขาใช้มีดที่ดัดแปลงมาจากปากกาแทงเข้าไปที่ลำตัวของ ไคยาน ด้วยการระบายเเค้น
“ทีนี้แกหัวเราะออกอีกมั้ยไอ้โง่” นี่คือสิ่งที่ ฮาซาน กล่าวเมื่อครั้งที่เขาสารภาพในชั้นศาล ขณะที่ ไคยาน พูดออกมาประโยคเดียวว่า “แกทำแบบนี้ทำไม”..
สิ้นประโยคนั้นเขาก็ล้มลง และกว่าที่รถฉุกเฉินจะมาถึง ไคยาน ปรินซ์ สิ้นลมหายใจ เขาเสียชีวิตในวัยเพียง 15 ปี เท่านั้น
นี่พ่อของลูกเอง
หลังจากที่ได้ยินข่าวของ ไคยาน เสียชีวิต มาร์ค ปรินซ์ ผู้เป็นพ่อแทบหมดสติ และตัดสินใจขึ้นสู้คดีบนชั้นศาลเพื่อลงโทษคนผิดให้ได้
“ชีวิตของ ไคยาน ถูกพรากไปจากเราด้วยวิธีที่โหดร้าย มันได้สร้างความเสียหายที่ไม่อาจมีอะไรมาแก้ไขหรือทดแทนได้ ผมอยากจะขอให้คณะลูกขุนตัดสินใจสิ่งนี้ด้วยใจเป็นธรรม”
“อาชญากรรมจะยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆหลังจากนี้ เว้นแต่รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้จริงๆ เราต้องการให้เกิดการลงโทษสถานหนัก เพราะคนที่พวกเขาได้เอามีดแทงลงไปคือคนที่ทำงานหนักมาเสมอเพื่อครอบครัวของพวกเขา การที่ใครคนหนึ่งตายไปมันไม่ใช่จบแค่นั้น มันคือความตายทั้งเป็นของทั้งครอบครัว ที่ต้องทนทุกข์ทรมานสำหรับการต้องรับกับความจริงที่เกิดขึ้น” มาร์ค ว่าในชั้นศาล
หลังจากสิ้นคำให้การ คณะลูกขุนและศาลมีคำตัดสินให้ ฮาซาน มีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาโดยคู่กรณีไม่มีอาวุธ โทษของเขาคือการติดคุกตลอดชีวิตที่ Old Bailey
“ผมตั้งใจแค่จะขู่เขานิดหน่อย ไม่ได้คิดที่จะแทงไปที่ตัวของเขาเลย ผมไม่ได้อยากจะฆ่าเขา ทุกอย่างที่ทำเหมือนมันเกิดในความฝัน ผมไม่เคยคิดว่าผมอยากจะทำแบบนั้นจริงๆ” หนุ่มลี้ภัยชาวโซมาเลีย กล่าว
“ผมเสียใจกับเรื่องนี้อย่างที่สุด ผมรู้ว่าแม่ของผมจะต้องผิดหวังในตัวผมแค่ไหน” เขาทิ้งท้าย
แม้คดีความจะจบลงเเล้ว แต่ความรู้สึกเสียใจและเคียดเเค้นของคนเป็นพ่อยังคงดำเนินต่อไป มาร์ค ต้องใช้เวลาอยู่กับเรื่องนี้พักใหญ่ และสุดท้ายเมื่อทุกอย่างตกผลึก เขาก็ได้รู้ว่า การแก้เเค้นที่ดีที่สุด คือการทำให้การเสียชีวิตของ ไคยาน ครั้งนี้ เป็นบทเรียนที่ทุกคนต้องจดจำ เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องเศร้าแบบนี้ขึ้นอีก
มาร์ค ได้จัดตั้ง มูลนิธิ ไคยาน ปรินซ์ เพื่อช่วยเหลือและเปลี่ยนแปลงเยาวชนให้ห่างไกลจากความรุนแรง โดยเฉพาะการพกมีดติดตัว เพราะเขาชื่อว่าอนาคตของเด็กคนหนึ่งไม่ใช่การคาดเดาและปล่อยให้มันเป็นไป แต่ที่สุดเเล้ว เราสามารถกำหนดมันได้ด้วยการสั่งสอนที่ดี
“ตลอดชีวิต มีสิ่งเดียวที่ผมไม่เคยเบื่อ คือการพูดถึงลูกชายของผม โลกนี้ยังมีหนุ่มสาวอีกจำนวนมากที่กำลังวิ่งไล่ตามความสำเร็จของพวกเขา ซึ่งบางครั้งมันไม่ใช่เงินหรือทรัพย์สินอะไร มันอาจจะเป็นเพียงคาแร็คเตอร์ของผู้ยิ่งใหญ่ ความมีเมตตา การอุทิศตนทำงานหนัก การเอาใจใส่คนรอบข้าง เหมือนกับที่ลูกชายของผมเป็น”
มูลินิธิ ไคยาน ปรินซ์ และการเคลื่อนไหวเพื่อความถูกต้องของ มาร์ค ปรินซ์ คือสิ่งที่ได้รับความชื่นชมจากสังคมเป็นอย่างมาก เขารณรงค์ให้เด็กๆอยู่ห่างไกลความรุนแรงอย่างแข็งขัน จนได้รับพระราชทานยศเป็นถึงระดับ OBE ขณะที่สโมสร คิวพีอาร์ ได้ให้เกียรติแก่ “เด็กหนุ่มของพวกเขา” ด้วยการเปลี่ยนชื่อสนามเหย้าของทีมในปี 2019 จาก ลอฟตัส โร้ด เป็น Kiyan Prince Foundation อีกด้วย
สิ่งที่เกิดขึ้นในปี 2021 นี้ ก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน เมื่อ EA บริษัทผลิตเกมฟุตบอลดังอย่าง FIFA ได้ตัดสินใจเพิ่มเอานักเตะที่ชื่อว่า ไคยาน ปรินซ์ ลงเป็นหนึ่งในนักเตะของสโมสร คิวพีอาร์ เพื่อเป็นการให้เกียรติเด็กหนุ่มที่เป็นคนดีของสโมสรและผู้คนท้องถิ่นเสมอมา
EA ตัดสินใจรวบรวมเอาความคิดเห็นของผู้คนรอบตัวของ ไคยาน ที่เคยเห็นเขาเล่นฟุตบอลเมื่อครั้งยังมีชีวิต มารวบรวมและวิเคราะห์ออกมาเป็นค่าพลังที่สมดุลกับเกมที่สุด ซึ่งในตัวเกมภาคใหม่นี้ ไคยาน ปรินซ์ จะกำเนิดใหม่ในฐานะนักเตะวัย 30 ปี (นับอายุจริงตามปีเกิดของเขา) ซึ่งเรื่องนี้ถึงกับทำให้นักมวยแชมป์อินเตอร์คอนทิเนนทัลอย่าง มาร์ค ปรินซ์ พ่อของไคยาน ต้องเสียน้ำตาลูกผู้ชายเลยทีเดียว
“ผมกับ ไคยาน เล่น FIFA ด้วยกันบ่อยมากในตอนที่เขามีชีวิตอยู่ เราบอกกันว่าเราจะเล่นกันแค่ชั่วโมงเดียว แต่จริงๆแล้วมันก็เลยเถิดไปเป็น 2-3 ชั่วโมงทุกครั้งไป ถ้าเขารู้เขาคงจะดีใจแทบคลั่งเลยแหละที่ได้เห็นตัวเองปรากฎในเกมนี้” มาร์ค กล่าวอย่างตื้นตัน
ขณะที่ เลส เฟอร์ดินานด์ ที่ปัจจุบันเป็นผู้บริหารของสโมสรกล่าวถึงเหตุผลที่สโมสรสนับสนุนเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เพราะเชื่อว่าที่สุดเเล้วการกำเนิดใหม่ของ ไคยาน ปรินซ์ ในเกม FIFA จะช่วยทำให้เด็กๆทั่วโลกได้ตระหนักรู้ถึงการมีความฝัน และที่สำคัญคือการไม่ตัดสินใจทำอะไรแบบใช้ความรุนแรง เพราะที่สุดเเล้ว ไม่เคยมีใครได้ประโยชน์จากการลงมือกับคนที่อ่อนแอกว่าเลย
“เด็กๆรุ่นนี้เกือบทุกคนเล่น FIFA กันทั้งนั้น พวกเขาจะได้เห็น ไคยาน ปรากฎตัวในเกม และถ้ามันเปลี่ยนแปลงหัวใจใครเพียงสักคนเดียว มันก็คุ้มค่าแล้ว” เฟอร์ดินานด์ กล่าวสรุป
ที่สุดเเล้วแม้การเสียชีวิตของ ไคยาน ปรินซ์ อาจจะยังคงเป็นที่เสียใจสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ทว่าการปล่อยให้ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกลายเป็นบทเรียนสอนใจเด็กๆทุกคน คือสิ่งที่น่าจะทำให้อย่างน้อยๆ สังคมวัยรุ่นได้เข้าใจถึงความสำคัญของชีวิตที่ได้ลืมตาขึ้นมาดูโลก
เมื่อมีฝันจงไล่ล่า เมื่อมีคนเรียกร้องหาจงกล้าหาญเพื่อช่วยเหลือ และสุดท้าย คือ อย่าแสดงความขี้ขลาดออกมา ด้วยการทำร้ายผู้อื่น