หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า “โอลิมปิกฤดูร้อน” และ “โอลิมปิกฤดูหนาว” มาบ้าง แล้วทั้งสองรายการมันแตกต่างกันอย่างไร? รายการไหนยิ่งใหญ่กว่า? พื้นที่ตรงนี้ ขอพาไปรู้จักทั้งสองโอลิมปิกพร้อมๆกัน
กีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน หรือ ซัมเมอร์โอลิมปิกเกมส์ (Summer Olympic Games) เป็นการแข่งขันกีฬาหลายชนิดระหว่างประเทศ ซึ่งตามปกติจะมีการจัดแข่งขันทุก 4 ปี โดยคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (International Olympic Committee หรือ IOC) ในแต่ละครั้งจะมีการมอบเหรียญรางวัล ผู้ชนะเลิศได้เหรียญทอง, อันดับสองได้เหรียญเงิน และอันดับสามได้เหรียญทองแดง การมอบเหรียญนี้เป็นประเพณีตั้งแต่ปี 1904
การแข่งขันนั้นเริ่มต้นครั้งแรกด้วยกีฬาเพียง 42 ประเภท และนักกีฬาชายเพียง 250 คน จนมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึงมากกว่า 10,000 คน ของนักกีฬาชายและหญิงจาก 202 ประเทศทั่วโลก เกร็ดที่น่าสนใจคือ มีเพียง 4 ประเทศเท่านั้นที่ส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันในโอลิมปิกฤดูร้อนทุกครั้ง ได้แก่ ออสเตรเลีย, สหราชอาณาจักร, กรีซ และ สวิตเซอร์แลนด์ และมีเพียงประเทศเดียวเท่านั้นที่ชนะและได้รับเหรียญทองอย่างน้อย 1 เหรียญจากการแข่งขันทุกครั้ง คือ สหราชอาณาจักร
สำหรับกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนครั้งที่ 33 หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ ปารีส 2024 ที่เพิ่งจบลงไปนั้น มีการชิงชัย 329 เหรียญทองใน 32 ชนิดกีฬา และเจ้าเหรียญทอง ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ที่คว้าไป 40 เหรียญทอง เท่ากับ จีน แต่จำนวนเหรียญเงินมากกว่าที่จำนวน 44 ต่อ 27
ส่วน โอลิมปิกฤดูหนาว (Winter Olympic Games) เป็นการแข่งขันระดับโอลิมปิกด้านกีฬาฤดูหนาวที่จัดขึ้นทุก 4 ปี ลักษณะของกีฬาฤดูหนาวจะจัดขึ้นในภูมิประเทศที่เป็นน้ำแข็งหรือหิมะ เช่น สเกตน้ำแข็ง และ สกี โดยคณะกรรมการโอลิมปิกของชาติต่างๆ (NOCs) บางประเทศนั้นจะเป็นคณะเดียวกันกับโอลิมปิกฤดูร้อนที่จะเป็นผู้ส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันกับนักกีฬาของชาติอื่น เพื่อชิงเหรียญทอง, เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง
โดยจำนวนประเทศที่มีส่วนร่วมในกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวน้อยกว่าโอลิมปิกฤดูร้อน ด้วยเหตุผลชัดเจนของสภาพภูมิประเทศ และประเทศส่วนใหญ่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร ซึ่งไม่มีโอกาสที่จะเข้าถึงการฝึกกีฬาฤดูหนาวนั่นเอง ทั้งนี้ การแข่งขันครั้งแรกจัดขึ้นที่เมืองชาโมนิกซ์ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี 1924 ส่วนการแข่งขันครั้งล่าสุด คือครั้งที่ 24 จัดขึ้นที่เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน ปี 2022 มีนักกีฬาจาก 91 ประเทศ รวม 2,871 คน ชิงชัย 109 เหรียญทอง ใน 7 ชนิดกีฬา เจ้าเหรียญทองคือ นอร์เวย์ คว้าไป 16 ทอง ตามมาด้วย เยอรมนี และ จีน ที่ 12 กับ 9 ทอง ตามลำดับ
ดังนั้น สรุปได้ว่า ทั้ง โอลิมปิกฤดูร้อน และ โอลิมปิกฤดูหนาว ต่างมีเกียรติยศศักดิ์ศรีเท่ากัน เนื่องจากเป็นการแข่งขันของเหล่านักกีฬาระดับโลก และจัดขึ้นทุก 4 ปีเหมือนกัน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ในประเทศเกาหลีใต้ ค่านิยมต่อนักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิกฤดูหนาวจะได้รับความนิยมจากแฟนกีฬาไม่ต่างจากนักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิกฤดูร้อนเลยทีเดียว