ไขข้อสงสัยละคร พรหมลิขิต! “เจ้าฟ้าพร” น้องชาย “พระเจ้าท้ายสระ” ร่วมมือกับพ่อตา “เจ้าพระองค์ดำ” คิดก่อการกบฏเพื่อหวังชิงบัลลังก์ จริงหรือไม่?
เดินทางมาถึง Ep.8 กันแล้ว สำหรับละคร พรหมลิขิต ภาคต่อของละคร บุพเพสันนิวาส ที่กลับมาทำให้แฟนๆ ได้รื้อฟื้นความรู้ทางประวัติศาสตร์กันอีกครั้ง และในตอนนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ เจ้าฟ้าพร หรือ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ น้องชายของ เจ้าฟ้าเพชร หรือ พระเจ้าท้ายสระ และเจ้าพระองค์ดำ อาของ พระเจ้าท้ายสระ และ เจ้าฟ้าพร อีกทั้งยังเป็นพ่อตาของเจ้าฟ้าพรอีกด้วย
โดยเรื่องราวใน Ep.8 นี้กำลังเข้มข้นขึ้นมากๆ หลังจากที่ พระเจ้าท้ายสระ (เกรท วรินทร) ได้ทรงทราบแล้วว่ากำลังจะมีการก่อกบฎขึ้น ซึ่งคนที่จะกบฎนั่นก็คือ เจ้าพระองค์ดำ พ่อตาของ “เจ้าฟ้าพร” นั่นเอง และนั่นทำให้ พระเจ้าท้ายสระ จำเป็นต้องขอความร่วมมือจากน้องชาย “เจ้าฟ้าพร” ในการสืบหาความจริง และเหตุผลในการคิดกบฎต่อพระเจ้าท้ายสระในครั้งนี้ว่าเป็นเพราะเหตุอันใด
ประวัติ “เจ้าฟ้าพร” กษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 31 แห่งอาณาจักรอยุธยา
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ หรือ สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชที่ 2 มีพระนามเดิมว่าเจ้าฟ้าพร (แสดงโดย : เด่นคุณ งามเนตร) เสด็จพระราชสมภพเมื่อ พ.ศ. 2223 ในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (พระเจ้าเสือ) มีพระเชษฐาคือ เจ้าฟ้าเพชร (พระเจ้าท้ายสระ)
เจ้าฟ้าพร เป็นพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 31 แห่งอาณาจักรอยุธยา และเป็นพระองค์ที่ 4 ในราชวงศ์บ้านพลูหลวง เรียกกันอย่างสามัญชนว่า ขุนหลวงบรมโกษฐ หรือ พระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกษฐ รัชสมัยของพระองค์เป็นยุครุ่งเรืองยุคสุดท้ายของกรุงศรีอยุธยาก่อนที่อาณาจักรจะล่มสลาย หลังจากพระองค์เสด็จสวรรคต 9 ปี
“25 ปีในรัชสมัยของพระองค์มีความสำคัญคือ เป็นยุคสงบสุขยุคสุดท้ายของอยุธยา เป็นยุคที่งานวรรณกรรม ศิลปกรรม เฟื่องฟู”
ต้นเหตุการเกิด ‘สงครามกลางเมือง’
เมื่อเจ้าฟ้านเรนทร ปฏิเสธการขึ้นครองราชสมบัติสืบต่อจากพ่อ พระเจ้าท้ายสระจึงได้เบนเข็มในการยกราชสมบัตินี้ให้แก่เจ้าฟ้าอภัย (พระราชโอรสองค์รอง) และนี่เองจึงเป็นสาเหตุให้เกิดการต่อสู้แย่งชิงราชบัลลังก์กันจนกลายเป็นสงครามกลางเมือง กินระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปี ต่อมาภายหลังจากสงครามสงบลง กรมพระราชวังบวรสถานมงคลจึงได้ขึ้นครองราชย์เฉลิมพระนามว่าพระมหาธรรมราชา (แต่ในบัญชีพระนามเจ้านายว่าพระเจ้าบรมราชา) และสำเร็จโทษเจ้าฟ้าอภัย และ เจ้าฟ้าปรเมศร์
พระอุปนิสัยของ เจ้าฟ้าพร
ตามที่ พระราชพงศาวดารกรุงสยาม จากต้นฉบับของบริติชมิวเซียม ได้มีการบันทึกเอาไว้เกี่ยวกับพระอุปนิสัยของ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ หรือ เจ้าฟ้าพร ระบุว่า อันสมเด็จพระบรมราชาธิราชเจ้า [สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ] แผ่นดินนี้ มีพระกมลสันดานต่างกันกับพระบรมพระบิดา [สมเด็จพระเจ้าสุริเยนทราธิบดี] และพระเชษฐาธิราช [สมเด็จพระที่นั่งท้ายสระ] ปาณาติบาตพระองค์ทรงเว้นเป็นนิจ ทรงประพฤติกุศลสุจริตธรรม สมณพราหมณาประชาราษฎร มีแต่สโมสรเป็นสุขสนุกทั่วหน้า พระองค์ทรงพระราชศรัทธากระทำทานแก่สมณพราหมณา กระยาจกวณิพก เดียรฉานต่าง ๆ ทุกอย่างสิ้น บางทีเสด็จไปชมพระตำหนักบางอออิน [บางปะอิน] และพระนครหลวง บางทีลงที่นั่งใหญ่ ใช้ใบล่องออกปากน้ำพระประแตง ชมชเลและมัจฉา ถึงหน้านวดข้าว ก็เสด็จไปนวดที่ทุ่งหันตรานาหลวง แล้วเอาข้าวใส่ระแทะ [รันแทะ] และให้พระราชบุตร พระราชธิดา กำนัลนางทั้งปวงลากไปวังใน แล้วเอาพวนข้าวทำฉัตรใหญ่และยาคู [ข้าวยาคู] ไปถวายราชาคณะที่อยู่อารามหลวงทุก ๆ ปี มิได้เว้น พระองค์ทรงสรรพจะเล่นมิได้เบื่อ ทั้งวิ่งวัว ควาย และพายเรือ เสือกับช้างให้สู้กัน มีแต่สนุกทั่วกันทุกฤดู
ประวัติ ‘เจ้าพระองค์ดำ’ ผู้เป็นอาและพ่อตาของ เจ้าฟ้าพร
เจ้าพระองค์ดำ หรือ พระองค์เจ้าดำ (แสดงโดย : เอ-พศิน เรืองวุฒิ) เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระเพทราชา พระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 28 ในสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์บ้านพลูหลวง ซึ่งเป็นพระอนุชาต่างพระมารดากับ สมเด็จพระเจ้าเสือ มีศักดิ์เป็นพระปิตุลา (อา) ของสมเด็จพระเจ้าท้ายสระ และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
ในบันทึกพระราชพงศาวดาร ไม่ได้ปรากฏเรื่องราวของเจ้าพระองค์ดำมากนัก แต่ในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ได้กล่าวเอาไว้เพียงว่า “เจ้าพระองค์ดำนั้นกระด้าง ลางทีเสด็จเข้าในออกนอกขึ้นบัลลังก์กลาง ไม่สู้เกรงกลัวพระราชอาญาเลยจึ่งทรงพระกรุณาสั่งให้สำเร็จเสียด้วยท่อนจันทน์”
‘เจ้าพระองค์ดำ’ คิดก่อการกบฎ จนถูกหลานตัวเองสำเร็จโทษ
ในบันทึกพระราชพงศาวดารกรุงสยาม ฉบับบริติชมิวเซียม ได้ปรากฏหลักฐานว่า ‘เจ้าพระองค์ดำ’ ได้กระทำการกระด้างกระเดื่องต่อพระราชอำนาจพระเจ้าท้ายสระผู้เป็นหลาน ซึ่งตอนนั้นเพิ่งได้ขึ้นครองราชสมบัติได้เพียงปีกว่าๆ เท่านั้น โดยเจ้าพระองค์ดำ ได้ล่วงเข้าเขตพระราชฐาน ซึ่งเป็นที่หวงห้าม ด้วยการนี้เอง สมเด็จพระเจ้าท้ายสระจึงได้มีการปรึกษากับเจ้าฟ้าพร ผู้เป็นน้องชาย และเป็นลูกเขยของเจ้าพระองค์ดำ ในขณะนั้นดำรงพระยศเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล เห็นเป็นมหันตโทษจึงโปรดให้พันธนาการพระองค์เจ้าดำ และสำเร็จโทษเสีย ณ วัดโคกพระยา
“ขณะนั้นพระองค์จ้าวดำกอประด้วยทิฐิมาณะ กระทำการหยาบช้า กระด้างกระเดื่อง ลลาบลล้าวเข้าไปในพระราชถานตำแหน่งที่ห้ามเปนหลายครั้งมิได้เกรงกลัวพระราชอาชญา จึ่งสมเดจ์พระเจ้าอยู่หัวก็มีพระราชดำหรัสปฤกษาด้วยสมเดจ์พระอนุชาธิราช กรมพระราชวังบวรตรัสเหนว่าโทษพระองค์จ้าวดำนั้น ผิดเปนมหันตโทษ จึ่งให้จับพระองค์จ้าวดำพันทนาไว้แล้วให้เอาไปสำเหรจ์โทษเสียด้วยท่อนจันทน์ เอาพระศพไปฝังเสีย ณะ วัดโคกพญา แลพระองค์จ้าวแก้วซึ่งเปนบริจาพระองค์จ้าวดำนั้นเปนม่ายอยู่ จึ่งเสดจ์ไปทรงผนวดเปนพระรูปอยู่ ณะ พระตำหนักวัดดุษิต กับด้วยสมเดจ์พระไอยกีกรมพระเทพามาศนั้น”
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY
