ให้โบนัส 1 แสนกว่าบาท คำพูดของสาวใช้ทำให้เจ้านายตกใจจนแทบช็อก และเผยให้เห็นความลับที่ถูกซ่อนไว้ในบ้านมานาน
เว็บไซต์ SOHA เผยแพร่เรื่องราวที่แชร์โดยผู้หญิงชื่อ เจียเจีย จากมณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่นานมานี้ในครอบครัวของเธอ ในช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่
โดยเธอเล่าว่า “เพื่อแสดงความขอบคุณต่อสาวใช้ที่ทำงานหนักและทุ่มเทตลอดทั้งปี ฉันตัดสินใจให้โบนัสเธอ ประมาณ 134,000 บาท เป็นของขวัญปีใหม่ นี่ไม่ใช่แค่เงินค่าจ้างที่สมควรได้รับ แต่ยังเป็นการแสดงความเคารพต่อผู้ที่ดูแลครอบครัวแทนฉัน โดยเฉพาะลูก ๆ
แต่ทันทีที่เธอรับโบนัสและกล่าวขอบคุณ คำพูดที่ไม่ตั้งใจของเธอกลับทำให้ฉันตกใจ ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า โบนัสก้อนนี้จะทำให้ความลับในบ้านของฉันถูกเปิดเผย และมันเกี่ยวข้องโดยตรงกับวิธีที่ฉันกำลังสอนลูก ๆ
เมื่อรับโบนัสก้อนใหญ่ สาวใช้ทั้งรู้สึกซาบซึ้งและมีความลังเลเล็กน้อย เธอบอกว่า “ขอบคุณมากนะคะ ลูกของคุณเป็นเด็กที่ดีมาก แต่ฉันรู้สึกสงสารเขามาก เขามักจะพูดกับฉันว่า เขากลัวที่จะขอพ่อแม่ซื้อของเล่นหรือสิ่งที่ตัวเองชอบ เพราะกลัวว่าพ่อแม่จะไม่พอใจ”
ฉันรู้สึกตกใจอย่างมาก ลูกของฉันกลายเป็นเด็กที่ระมัดระวังกับพ่อแม่ตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่?
ฉันนึกย้อนกลับไปว่า ทุกครั้งที่ลูกขอสิ่งของบางอย่าง ฉันมักจะตอบว่า “ลูกไม่ต้องหรอก ของพวกนั้นแค่เปลืองเงิน” ฉันคิดว่ากำลังสอนลูกให้ประหยัด แต่แท้จริงแล้ว ฉันกำลังทำให้ลูกรู้สึกว่าเขาไม่สามารถแสดงความต้องการ หรือแม้กระทั่งความรู้สึกของตัวเองได้
เหตุผลที่ลูกเล่าความในใจให้สาวใช้ฟังแทนที่จะเป็นฉัน อาจเป็นเพราะลูกไม่รู้สึกว่าพ่อแม่คือคนที่พร้อมจะฟังเขา
เราเป็นครอบครัวที่มีฐานะดี ฉันไม่เคยประหยัดเงินในการส่งลูกเรียนโรงเรียนนานาชาติ ให้เรียนทักษะต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งของเล่นที่แพง ๆ แต่ฉันไม่เคยคิดเลยว่าลูกจะรู้สึกว่าเขาไม่มีความสุขในบ้าน
คำพูดของสาวใช้ทำให้ฉันตระหนักว่า สิ่งที่ลูกต้องการไม่ใช่แค่เงินหรือของขวัญ แต่คือการมีพ่อแม่ที่คอยอยู่เคียงข้างและใส่ใจเขาจริง ๆ การที่ฉันยุ่งอยู่กับการหาเงินและมอบหมายการดูแลลูกให้กับคนอื่น ทำให้ฉันเริ่มห่างเหินจากลูกของตัวเอง
โบนัสที่ฉันมอบให้สาวใช้เป็นการแสดงความขอบคุณ แต่ก็ทำให้ฉันตระหนักถึงความผิดพลาดของตัวเอง จริง ๆ แล้ว คนที่ลูกของฉันควรจะได้แชร์เรื่องราวและความรู้สึกควรจะเป็นฉัน ไม่ใช่เธอ
สาวใช้ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี แต่การที่ลูกเริ่มหาความเข้าใจจากคนอื่นแทนพ่อแม่ นั่นคือสัญญาณเตือนให้ฉันต้องคิดทบทวน ว่าฉันอาจจะเข้าใจผิดระหว่างการให้ทุกสิ่งทุกอย่างกับลูก และร่วมเดินเคียงข้างลูก
แท้จริงแล้ว เงินไม่สามารถทดแทนความรักได้ แม้ว่าบ้านจะมีทุกอย่าง แต่ถ้าพ่อแม่ไม่ใช้เวลาคุณภาพร่วมกับลูก เด็กก็จะรู้สึกเหงา เงินสามารถซื้อของมากมาย แต่ไม่สามารถเติมเต็มช่องว่างทางจิตใจได้
แท้จริงแล้ว เด็กทุกคนต้องการการรับฟังและความเข้าใจ แทนที่จะบังคับว่า “ลูกต้องการอะไรอีกล่ะ” พ่อแม่อย่างฉันควรฟังสิ่งที่ลูกต้องการและเข้าใจว่าทำไมลูกถึงอยากได้สิ่งนั้น การพูดคุยอย่างจริงใจจะทำให้ลูกรู้สึกได้รับการเคารพ
แท้จริงแล้ว ความรู้สึกที่คนอื่นมาทดแทนบทบาทของพ่อแม่มันไม่ง่ายเลย เราอาจขอให้คนช่วยดูแลลูก แต่ไม่มีใครสามารถแทนที่พ่อแม่ในการสอนและสร้างความสัมพันธ์กับลูกได้ ถ้าไม่ระวัง เด็กจะมองคนอื่นเป็นที่พึ่งแทนที่จะเป็นพ่อแม่ตัวเอง เหมือนที่ลูกของฉันได้เล่าความในใจกับสาวใช้แทนที่จะเป็นฉัน
เรื่องโบนัสปีใหม่นี้ทำให้ฉันตระหนักว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเป็นพ่อแม่ไม่ใช่การหาเงินให้ลูกมีชีวิตที่สมบูรณ์ แต่คือการมีตัวตนจริง ๆ อยู่ข้าง ๆ ลูก
หวังว่าเรื่องราวนี้จะเป็นการเตือนใจให้พ่อแม่ท่านอื่น ๆ อย่าห่วงแต่หาเงินเพื่อให้ทุกอย่างกับลูก แต่ให้เวลากับลูกเพื่อให้เขารู้สึกถึงความรักและความใส่ใจ มีเพียงแค่นี้เท่านั้นที่ทำให้วันปีใหม่สมบูรณ์แบบสำหรับลูกและครอบครัว”