ใส่สบง แล้วทรงอนาจาร! พระแสบไม่ทำกิจของสงฆ์ ล่วงละเมิดทางเพศเด็กชาย ก่อนหลบหนี

Home » ใส่สบง แล้วทรงอนาจาร! พระแสบไม่ทำกิจของสงฆ์ ล่วงละเมิดทางเพศเด็กชาย ก่อนหลบหนี
ใส่สบง แล้วทรงอนาจาร! พระแสบไม่ทำกิจของสงฆ์ ล่วงละเมิดทางเพศเด็กชาย ก่อนหลบหนี

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยคต อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี นำหมายศาล จับออกติดตามจับกุม พระฤทธิไกร (หรือวิไล) อายุ 53 ปี  

ในข้อหา 1.พาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ไปเพื่อการอนาจาร

2. กระทำอนาจารแก่เด็กอายุสิบห้าปี โดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้

3. พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าสิบ ไปเสียไปเสียจากผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุอันควร โดยกระทำเพื่ออนาจาร เหตุเกิดที่สำนักสงฆ์ใน ต.ทองหลาง อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี ในพื้นที่ติดแนวป่าห้วยขาแข้ง

เหตุเกิดเมื่อ 1 ส.ค.66จนถึง 27 ก.ย.66 ภายในกุฏิ ที่พักสงฆ์ใน ต.ทองหลาง อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี พระอาจารย์สายันต์ เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ที่พระฤทธฺไกร เคยไปอาศัย เล่าเหตุที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า ก่อนหน้าพระฤทธิไกร ได้ขอเข้าพักที่วัดพร้อมเณร 2 คน(จาก อ.แม่เปิน จ.นครสวรรค์) จึงให้ไปพักกุฏิที่ด้านหลังสำนักสงฆ์ฯ อยู่กับเณร

แต่ล่าสุด หนึ่งในสองเณร เผยว่า พระฤทธิไกร ว่าได้บังคับล่วงละเมิดทางเพศ กว่า 40 ครั้ง (เหตุเกิดระหว่าง 1 ส.ค.66 – 27 ก.ย.66) โดยเณรที่ถูกล่วงละเมิด(อายุ 14 ปี) เผยว่า พ่อกับแม่ตนไปทำงานต่างจังหวัด ทางบ้านมีฐานะยากจน จึงไปอาศัยอยู่ญาติ

กระทั่งปลายเดือน กรกฎาคม 2566 ได้มีเพื่อนขับขี่ จักรยานยนต์ไปรับตน บอกว่า หลวงตาพระฤทธิไกร ให้มารับพาไปที่วัด(วัดเขาแหลม ต.แม่เปิน) เมื่อไปถึงนั่งพูดคุยสักครู่ พระฤทธิไกร พูดว่า “มึงไม่ต้องกลับเลย” พร้อมนำมีดอีโต้มาข่มขู่ ตนกลัวจึงไม่กล้ากลับบ้าน และได้นอนพักอยู่ที่วัดเขาแหลม นานถึง 2 สัปดาห์

จากนั้นพระฤทธิไกร จากนั้น ติดต่อ พระสายันต์ เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ฯ เพื่อให้ พระฤทธฺไกร และเณรทั้งสอง ไปอยู่ที่สำนักสงฆ์

โดยพระฤทธิไกร เลือกไปอยู่ที่กุฏิด้านหลังสำนักสงฆ์นอนอยู่กับเพื่อนในห้อง ส่วนตนนอนหน้าห้องคนเดียว ช่วงตกกลางคืน พระฤทธิไกร ได้เปิดมุ้งตนเข้ามาหาตน จากนั้นได้นอนลูบคลำตามร่างกาย เลิกผ้าสบงช่วงล่าง ที่ตนไม่กล้าร้อง เพราะอยู่ในป่าและกลัว

พระฤทธิไกร ได้ลงมือกระทำอนาจารเกือบทุกคืน หลายครั้ง ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.66 เป็นต้นมา กระทั่งวันที่ 27 ก.ย. 66 บิดาและมารดา ของเพื่อนเณรรับตนเองจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง พร้อมให้ช่วยไปบอกกับญาติๆ ตน ให้มารับ

ทั้งยังเล่าอีกว่า เคยหลบหนีออกจากสำนักสงฆ์ฯ แล้วครั้งหนึ่ง แต่พระฤทธิไกร ไปตามกลับมาได้ เนื่องจากตนรู้จะไปไหน เพราะไม่ใช่คนพื้นที่ และถูกพระฤทธิไกร ดุด่า จนชาวบ้านละละแวกนั้นคิดว่าทะเลาะกัน

จากนั้น ได้มีผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.แม่เปิน พร้อมกับ พ่อและญาติตน ไปรับออกจากสำนักสงฆ์ฯ ตนเล่าจึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง จากนั้นได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.ดิเรก เอี่ยมเล่ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรห้วยคต ดังกล่าว

นายสันต์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.แม่เปิน เล่า เผยว่า นายฤทธิไกร เดิมเป็นชาวบ้าน ต.แม่เปิน หลังบวชไปอยู่ในเขตพื้นที่ ต.แม่เปิน มีพฤติกรรมไม่ดี ไม่เคยออกบิณฑบาต กินข้าวเย็นทุกวัน เมื่อชาวบ้านต่อว่า ก็อ้างว่าเจ็บป่วย จนวัดไม่ยอมรับ จึงหนี พร้อมพาเด็ก 2 คน ที่เพิ่งบวชเณร ไปอยู่สำนักสงฆ์ในพื้นที่ จ.อุทัยธานี

โดยช่วงแรกคนในหมู่บ้านไม่รู้ข่าวว่าไปไหน กระทั่ง มีผู้แจ้ง พ่อกับแม่ เณรให้ไปรับตัว และทราบเรื่อง ดังกล่าว ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจฯ แจ้งว่า กำลังติดตามตัว พระฤทธิไกร มาดำเนินคดี

ขณะนี้ยังไม่ทราบว่า หลบหนีไปอยู่วัดใดหรือที่ใด ถ้ามีผู้พบหรือรู้เบาะแส ขอให้แจ้ง สถานีตำรวจภูธร ห้วยคต อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี โทร 056-518129 หรือ 191 อุทัยธานี บุคคลดังกล่าวถือเป็นบุคคลที่เป็นภัยสังคม 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ