ใบตองแห้ง – ไหนด่า 'ประชานิยม'

Home » ใบตองแห้ง – ไหนด่า 'ประชานิยม'


ใบตองแห้ง – ไหนด่า 'ประชานิยม'

“บัตรคนจน” โดนจิ๊กไปเป็นบัตรประยุทธ์ ประกาศนโยบายเพิ่มเงิน 1,000 บาท ปาดป้ายหาเสียงพลังประชารัฐ 700 บาท

นับถอยหลังไม่กี่วันยุบสภา ทิ้งทวนขึ้นเงินเดือน อบต. “เบิ้ล” ค่าป่วยการ อสม. จาก 1,000 บาท เป็น 2,000 บาท ทั้งที่ช่วงโควิดขึ้นให้ชั่วคราวแค่ 1,500 บาท

อยู่มาตั้งนานไม่ขึ้น เพิ่งคิดได้ตอนหาเสียง วิษณุ เครืองาม เรียกความหนาว่า “เนียน” หาเสียงโดยเอาเงินภาษีฟาด พรรคฝ่ายค้านจะวิจารณ์ก็น้ำท่วมปาก บัตรคนจน 14.5 ล้านคน อสม. 1 ล้านกว่าคน อบต.ใหญ่คับทุกตำบล ขู่พรรคไหนค้านจะไม่เลือก

อ้อ เพิ่งรู้ว่า อบต.สั่งชาวบ้านซ้ายหันขวาหันได้ ไหนว่าเลือกตั้งมาตามระบอบประชาธิปไตย ทำงานรับใช้ประชาชน ไม่ใช่ขาใหญ่ผู้มีอิทธิพล โดนติติงเรื่องเงินเดือนแค่นี้ไม่ได้?

ก็วัดใจว่า อบต.ส่วนใหญ่เลือกใคร ระหว่างผู้นำรัฐประหารที่สั่งแขวน อปท.ระนาว เอาข้าราชการเข้ามานั่ง แช่แข็งเลือกตั้งท้องถิ่น ตบหัวแล้วลูบหลัง กับพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยที่มุ่งกระจายอำนาจจริงจัง

บัตรคนจน 14.5 ล้านคน คนละพัน ใช้เงินปีละ 1.7 แสนล้าน แต่ 14.5 ล้านเสียงเชียวนะนั่น ใครจะกล้าขวาง ทั้งที่รู้ว่ามีปัญหา คนจนจริงบางส่วนไม่ได้ คนได้บางส่วนไม่จนจริง เป็นการสงเคราะห์ตามระบบราชการ ต้องยุ่งยากไปลงทะเบียนยืนยันตนเอง และเอาเข้าจริงก็ไม่ได้ช่วยให้ลืมตาอ้าปาก

แต่พรรคฝ่ายค้านก็ไม่สามารถประกาศยกเลิกบัตรคนจน เดี๋ยวจะโดนแอนตี้ ได้แต่ประกาศอย่างทักษิณว่าจะทำให้คนมีรายได้เกินแสน พ้นเกณฑ์บัตรคนจน

อสม.ก็เหมือนกัน ไม่มีใครปฏิเสธ เป็นกำลังสำคัญช่วงโควิด แต่ขึ้นค่าป่วยการโดยปกติมักต้องศึกษาปัจจัยผลกระทบแล้วเสนอทีละขั้น เช่น 1,500 ก่อน แล้ว 2,000 ขึ้นปุบปับอย่างนี้เห็นชัดๆ ว่าหาเสียง แถมแย่งกันเป็นพระเอกขี่ม้าขาว 3 พรรค

นึกถึงสมัยไล่ทักษิณยิ่งลักษณ์ ใครนะด่า “ประชานิยม” มาวันนี้หายหัวหมด นักเศรษฐศาสตร์ สถาบันวิชาการ ไม่ยักวิจารณ์การใช้งบประมาณหาเสียง ซ้ำร้ายบางคนบอกนี่ไงประชาธิปไตย แข่งกันเสนอนโยบายให้ผลประโยชน์ประชาชน

การเสนอนโยบายให้ประโยชน์ปากท้อง เป็นการหาเสียงในระบอบประชาธิปไตย ใช่เลยครับ แต่มันต้องมีทิศทางหลัก ว่าจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างไร จะเพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายอย่างไร ไม่ใช่เป็นหนี้อยู่แล้ว 10.5 ล้านล้าน ก็ยังแจกโดยไร้ทิศทาง ยิ่งแจกยิ่งจน “แจกทิ้งทวน” อย่างไม่รับผิดชอบ

ถ้ากำหนดทิศทางแล้วจำเป็น ก็ต้องแจก สมมติเพิ่มบัตรคนจน 500 แต่ตั้งเป้าลดคนจนปีละ 3-5 ล้านคน การเพิ่มเงินผู้สูงอายุ การให้เบี้ยเลี้ยงดูเด็ก ฯลฯ เหล่านี้ทำได้ เพราะเราเข้าสู่สังคมสูงวัย ต้องกระตุ้นให้คนมีลูก ต้องพัฒนาคุณภาพการศึกษา

แต่ไม่ใช่เป็นรัฐบาลมา 4 ปี จู่ๆ ก็ผุดไอเดียจากไหนไม่รู้ “พักหนี้” ดีกว่าเว้ยเฮ้ย “ประกันชีวิตสูงวัย” “ธนาคารหมู่บ้าน 2 ล้าน” ก่อนนี้ทำไมไม่ทำ ใกล้เลือกตั้งเพิ่งจะปิ๊งไอเดีย

นี่ยังขำๆ พรรคประชาธิปัตย์ไม่จำเป็นต้องหาเสียง แจกนมโรงเรียนฟรีทั้งปี ประชุม ครม.ยังมีอีก 1-2 ครั้ง น่าจะดันทิ้งทวนไปเลย

เปรียบเทียบนโยบายพรรคการเมืองย้อนแย้งชวนขำ พรรคเพื่อไทยที่เคยโดนถล่ม “ประชานิยม” จนบัดนี้ยังไม่แจกอะไรเลย ค่าแรง 600 เงินเดือน 25,000 ไม่ใช่แจก เป็นการให้สัญญาประชาคมว่าจะทำเศรษฐกิจให้ดี จีดีพีโต จนขึ้นค่าแรงได้ 600 บาทในปี 2570 ซึ่งถ้าทำไม่ได้ หรือเศรษฐกิจแย่แล้วขึ้นค่าแรง เพื่อไทยก็ต้องรับผิดชอบ

นโยบายไทยรักไทยซึ่งโดนใจคนเมื่อปี 2544,2548 ก็ไม่ใช่แจกดะ ไม่มีเป้าหมาย “30 บาทรักษาทุกโรค” คือระบบหลักประกันสุขภาพ สวัสดิการถ้วนหน้า ที่วันนี้คนชั้นกลางในเมืองได้พึ่งพา ประยุทธ์ อนุทิน ก็ได้หน้า ต่างชาติชมระบบสาธารณสุขไทย กองทุนหมู่บ้านก็ใส่เงินเพิ่มทุกปี

ภูมิใจไทยยังหาเสียงได้อีก รักษามะเร็งฟรี ฟอกไตฟรี โถ หมอหนู บัตรทองรักษาฟรีมา 20 ปี สปสช.ยกระดับทุกปี อยู่เฉยๆ ไม่ไปขวาง หรือจ้องเล่นงานแบบสมัยรัฐประหาร ยังไงก็มีผลงาน

ว่าที่จริง เพื่อไทยไม่ได้ถูกทุกอย่าง “จำนำข้าว” ก็พลาด แต่ไม่ใช่เรื่องโกงอย่างที่พวกนกหวีดกรี๊ดสนั่น จำนำข้าวช่วยชาวนาลืมตาอ้าปาก แต่พลาดที่คิดว่ากักตุนแล้วตลาดโลกจะขึ้นราคา เป็นนโยบายที่ควรทำเฉพาะหน้า 2-3 ปี สุดท้ายเลิกไม่ได้ จมไม่ลง ถ้าไม่เกิดรัฐประหาร เพื่อไทยก็หาทางลงไม่ได้อยู่ดี

แต่นั่นแหละสิ่งที่จะเกิดจากรัฐบาลประยุทธ์ บัตรคนจนยิ่งมายิ่งเพิ่ม การสงเคราะห์ต่างๆ ก็เพิ่มๆๆ ประกันรายได้ ช่วยเหลือไร่ละพัน ฯลฯ รวมแล้วน้องๆ จำนำข้าวแต่เป็นเบี้ยหัวแตก

การหาเสียงด้วยนโยบาย สัญญาประชาคม จะยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ เป็นวิถีประชาธิปไตย แต่การทิ้งทวนใช้เงินภาษีซื้อใจคนเฉพาะกลุ่มในช่วงท้าย เป็นวิถีอย่างหนาหน้าไม่อาย

แย่กว่านั้นคือการทิ้งทวนและการหาเสียง แจกโน่นแจกนี่ ล้วนหวังให้ประชาชนลืมความล้มเหลวในรอบ 9 ปี 4 ปี ทำราวกับว่า “นับหนึ่งใหม่” ทุกพรรคเท่ากัน

วิถีประชาธิปไตยต้องให้ประชาชนประเมินผลงาน ทำเจ๊งมา 9 ปียังหวังว่า 14.5 ล้านเสียงจะเลือกเพราะเงินหนึ่งพัน?

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ