คอลัมน์ ใบตองแห้ง
ปราบบนเปราะบาง
คําวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญจะมีการขยายทำให้เกิด “6 ตุลาทางกฎหมาย” ไม่ต้องใช้กระทิงแดง ลูกเสือชาวบ้าน ไม่ต้องทำรัฐประหาร ใช้ตำรวจ อัยการ ศาล จับกุมคุมขัง แกนนำราษฎร ท่ามกลางการโหมกระพือของสื่อดาวสยามและนักการเมืองฝ่ายขวา อดีต กปปส. 250 ส.ว.
ในสถานการณ์เฉพาะหน้าทำได้ไหม ได้สิ เครือข่ายอำนาจอนุรักษ์เป็นเอกภาพแข็งแกร่ง ไม่ต้องมีใบสั่งด้วยซ้ำ เพราะการเคลื่อนไหวของคนรุ่นใหม่เขย่าโครงสร้างรัฐราชการเจ้าขุนมูลนาย อำนาจอภิสิทธิ์
มีความเป็นไปได้ด้วยซ้ำที่จะยุบพรรคก้าวไกล จับกุมคุมขังธนาธร ปิยบุตร แม้ก่อนหน้านี้เชื่อว่าอาจไม่ยุบ เพราะคะแนนจะเทไปรวมเพื่อไทย “แลนด์สไลด์” แต่คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ ก้าวไกลเป็นอันตราย ที่ยอมไม่ได้ เพราะจะสะท้อนคะแนนสนับสนุนพรรคแก้ 112 ทั้งยังสะท้อนพลังคนรุ่นใหม่ คน ชั้นกลางในเมืองที่บริจาคภาษีเป็นอันดับหนึ่ง
แต่ยุบก็ตั้งใหม่ได้ พรรคอื่นเช่นสามัญชน พรรคเกรียน ก็พร้อมรับช่วง แม้ไม่ได้ปูฐานเท่าก้าวไกล
รัฐไทยอย่างหนาไม่แยแสโลก ในการประชุมทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของ UN ชาติประชาธิปไตยตะวันตก เบลเยียม แคนาดา ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี นอร์เวย์ สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ เรียกร้องให้ทบทวนแก้ไข 112 สหรัฐแสดงความกังวล สหราชอาณาจักร เกาหลี ญี่ปุ่น แนะนำให้ปรับปรุงเสรีภาพการแสดงออก การชุมนุม ไอร์แลนด์ให้ยุติการจับกุมคุมขัง กระทั่งมาลาวีก็แนะให้ควบคุมการชุมนุมตามมาตรฐานสากล
ไม่แยแสสนใจ เพราะในโลกปัจจุบันที่แบ่งขั้วจีน Vs สหรัฐ ชาติประชาธิปไตยกดดันไม่ได้กระทั่งพม่า เข่นฆ่าประชาชน ของตนอย่างไร ก็ได้รัสเซียกับจีนปกป้อง ประยุทธ์กลับตีปี๊บ เอาหน้า ไทยจะเป็นเจ้าภาพเอเปก เดี๋ยวคงเป็นข้ออ้างไม่ยุบสภา รักษาความสงบ ออกมาม็อบไม่ได้ โดนทุบ เพื่อรักษาหน้าตาประเทศชาติ
รัฐไทยก็คงคิดปราบม็อบแบบฮ่องกง ทั้งที่ต่างกัน รัฐจีนมหึมาเกินคนรุ่นใหม่ฮ่องกงจะต่อต้าน จีนคุมโลกออนไลน์คุมการสื่อสารได้หมด แต่คนรุ่นใหม่ไทยปลุกพลังทางความคิดผ่าน เฟซบุ๊กทวิตเตอร์ ไม่ใช่เว่ยป๋อ
ข้อแตกต่างสำคัญคือ พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นเผด็จการ ที่มีประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชน ตอบสนองทางเศรษฐกิจ รัฐเจ้าขุนมูลนายไทยเป็นรัฐที่ใหญ่โต สิ้นเปลือง แต่ ไร้ประสิทธิภาพในการตอบสนองประชาชน มีไว้ปลูกผักชี
เครือข่ายอำนาจอนุรักษ์เปิดยุทธการ 6 ตุลาทางกฎหมาย กวาดล้างคนรุ่นใหม่บนความเปราะบางหลายด้าน แม้อยู่ภายใต้อำนาจดิบที่เข้มแข็งเป็นเอกภาพ เชื่อว่าคุมอำนาจปืนอำนาจกฎหมายได้อีกมากกว่าสิบปี
ความเปราะบางทางศรัทธา แม้เชื่อว่ากดคนส่วนใหญ่ไว้ได้ ใต้อาณาจักรแห่งความกลัว ประกอบกับคนไทยจำนวนมากยังถูกครอบงำด้วยความคิดอนุรักษนิยม หรือไม่อยากยุ่งเรื่องเสี่ยง เป็นภัยกับตัว แต่ฐานความคิดจารีตที่เคยมีคนชั้นกลางในเมืองเป็นกลไกสำคัญ เป็นผู้เผยแพร่ความคิดผลิตสื่อผลิตซ้ำ กำลังวูบหายอย่างรวดเร็ว
ความคิดที่จะกวาดล้างคนรุ่นใหม่รุ่นนี้ให้เป็น Lost Generation แล้วหวังครอบงำคนรุ่นต่อๆ ไป ก็ไม่มีทางทำได้ โลกยุคหน้า ยุคไหนกัน ยุค Metaverse ยังจะยัดเยียดเพลงปลุกใจ
ความเปราะบางทางเศรษฐกิจ ที่ถูกซ้ำเติมด้วยโควิด ไม่ฟื้นง่าย ยุคเทคโนโลยียิ่งเหลื่อมล้ำ ตลาดบนเก็งกำไร หุ้น เหรียญ ตลาดชาวบ้านหนี้ครัวเรือนท่วม พึ่งมาตรการรัฐ มีโอกาสผกผันสูงหากวิกฤตอีกครั้ง
ความเปราะบางทางการเมือง เอาเฉพาะหน้า สถานะของรัฐบาลที่จะต้องเข้าสู่การเลือกตั้ง ไม่ว่าจะยื้ออย่างไรก็ตาม รัฐบาลประยุทธ์ล้มเหลวทุกด้าน บริหารจัดการโควิด บริหารจัดการน้ำ มาตรการทางเศรษฐกิจ เปิดปิดประเทศ ยังอวดอ้างเป็นผลงาน
สถานการณ์ที่เครือข่ายอนุรักษ์ผนึกแน่นปิดประตูการเปลี่ยนแปลง ปิดข้อเรียกร้องทุกอย่าง จำกัดสิทธิเสรีภาพ ควบคุมปราบปรามการเคลื่อนไหวเช่นนี้ ทำให้จะต้องผลักดันประยุทธ์เป็นนายกฯ อีกสี่ปี หรือไม่ก็เปลี่ยนคนอื่นมาเป็นตัวแทน “อำนาจดิบ” ปล่อยมือให้พรรคการเมืองไม่ได้
ขณะเดียวกัน ก็ยอมให้พรรคเพื่อไทยชนะไม่ได้ แม้ใครจะว่าสู้ไปกราบไป เพราะถึงอย่างไร เพื่อไทยก็ประกาศจุดยืนปล่อยนักโทษทางความคิด
อำนาจที่ไม่ Compromise จึงยอมให้เพื่อไทยชนะไม่ได้ ต้องดันทุรังแบกประยุทธ์และรัฐบาลไร้ฝีมือให้ชนะเลือกตั้ง
นี่คือความเปราะบางที่จะเกิดขึ้น เพราะทุกวันนี้ประชาชนเบื่อหน่ายรัฐบาลเต็มที ไม่ว่าจะเห็นด้วยเห็นต่างกับม็อบก็ตาม ประเด็นสำคัญคือเศรษฐกิจปากท้อง ซึ่งสู้กันระหว่างเพื่อไทยกับพลังประชารัฐ ส่วนการต่อสู้ในพื้นที่ก็จะเป็นเรื่องของกลไกอำนาจ ระบบอุปถัมภ์ เครือข่ายหัวคะแนน ซึ่งฝ่ายไหน ได้เปรียบก็รู้กัน หากชนะก็จะเป็นการเลือกตั้งสกปรกที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ เพื่อใช้ฐานการเมืองชั่วค้ำเครือข่ายอนุรักษ์
หากแพ้เลือกตั้งเท่ากับคุมอำนาจไม่ได้ ก็คงต้องใช้การยุบพรรคตัดสิทธิอีกครั้ง ซึ่งจะเกิดการต่อต้านไม่รู้จบ
ที่คิดว่าจะใช้อำนาจกดความเปลี่ยนแปลงไว้สักสิบปี จึงมีความเปราะบางสูง ผิดพลาดก็พังทั้งกระดานอย่างไม่มีโอกาสปรับตัวอีก เพราะเสื่อมไปหมดแล้ว