คอลัมน์ ใบตองแห้ง
ดราม่าอำนาจนิยม
โศกนาฏกรรมหมอกระต่าย ทำให้หน่วยงานรัฐขมีขมัน สาวโพสต์ทางม้าลายเพลินจิตซีดจาง ชั่วข้ามคืน การทางพิเศษฯ เนรมิตให้ใหม่ เพจอุบลโพสต์ภาพร้านกาแฟริม ฟุตปาธ ตรงทางม้าลายหน้าโรงพยาบาล ขายมาตั้งนาน ตำรวจจับปรับทันใจ
บช.น.ก็ปฏิบัติการ “จับม้าลาย” ครั้งใหญ่ พบจุดเสี่ยง 110 จุด ให้ กทม.ปรับปรุง ตั้งกล้อง AI ผู้ว่าฯ จังหวัดต่างๆ ก็สั่งตีเส้นใหม่ ประชาสัมพันธ์จังหวัดออกข่าวฉับไว
ประยุทธ์รายวัน ให้เสียงพากย์โดยธนกร ก็ไม่พลาดอยู่แล้ว “นายกฯ ห่วงใย” สั่ง กทม.ติดตั้งไฟข้ามทางม้าลาย มีปัญหาอะไรธนกรมาตามสูตรขุนทอง “นายกฯ ห่วงใย สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องล้อมคอกแล้ว” หมูแพงไก่แพง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฯลฯ นายกฯสั่งแล้ว จบนะ
ประเทศไทยน่าจะบริหารด้วยเจ้าหน้าที่ 2 คน นั่งหน้าจอมอนิเตอร์ คนหนึ่งเฝ้าดูรายการจำพวกโหนกระแส ทนายคลายทุกข์ คนหนึ่งติดตามดราม่าออนไลน์ ชาวเน็ตไม่พอใจเรื่องอะไร แจ้งรัฐบาลใช้อำนาจจัดการเฉียบขาด
น.อ.กร่าง แอบอ้าง เป็นคลิปดังก็โดนปลด พ.จ.อ.เมาป่วนอ้างเป็นองครักษ์ ฟันธงเลยไม่รอด เพราะกองทัพต้องสนองอารมณ์สังคม กำลังพลจะอวดเบ่งออกคลิปไม่ได้ แต่ถ้าเป็นคดีพลทหารถูกซ้อมตาย รอสิบปีกว่าศาลทหารจะรับฟ้อง
ตำรวจก็เหมือนกัน ชาวเน็ตล่าชื่อกดดันไม่ให้ช่วยเหลือ ส.ต.ต. ปัดโธ่ ตำรวจบรรจุใหม่ ลูกนายดาบที่เพิ่งได้เป็นนายร้อย ไม่ใช่ลูกนายพล เกียรติตำรวจของไทยสำคัญกว่า จะช่วยมันทำไม ต้องเอาสถาบันตำรวจรอดไว้ก่อน ผู้กำกับโจ้ยังไม่รอดเพราะคลิปถุงดำ แต่ถ้าไม่มีคลิปแพร่ให้ดูทั้งบ้านทั้งเมือง ร้อยบาทเอาขี้หมากองเดียว ก็ไม่มีใครกล้าเดิมพันว่าท่านผู้กำกับจะรอดมาเป็นวีรบุรุษปราบยาหรือไม่
เออ ถ้าม็อบฟ้อง คฝ.ใช้กำลังสลายม็อบเกินกว่าเหตุ ฟ้องตำรวจออกหมายมั่ว ยัดข้อหา แบบนั้นสิรับประกันช่วยเหลือกันทั้งกระบวนการยุติธรรม
แต่ถ้าเป็นดราม่าเอาใจสังคม ย้อนดูเถอะเสร็จทุกราย ตลาดนัดป้าทุบรถ พริตตี้ตาย โจ๋งานบวช ฯลฯ รัฐตำรวจรัฐราชการกระบวนการยุติธรรม เอาเป็นเอาตาย เพื่อให้คนไทยตระหนักว่ากฎหมายศักดิ์สิทธิ์
รัฐอำนาจนิยมหวังว่าจะอยู่บนสังคมดราม่าแบบนี้ ใช้อำนาจสนองอารมณ์สังคมฉาบฉวย เดี๋ยวโศกนาฏกรรมจาง วันที่ 1 วันที่ 16 คนก็หันไปแทงหวย ตามข่าวดารา เผือกปัญหาชาวบ้าน ขายดราม่าดันยอดวิวในยูทูบ ยอดรีวิวสินค้า เดี๋ยวๆ ปัญหาใหม่มา มีตำรวจทหารทำผิด มีเรื่องสะเทือนใจ ก็จัดการไปทีละเรื่องแบบไฟไหม้ฟาง
แบบหมูแพง ก็ไม่ใช่เพราะหมูตาย ไม่ใช่กระทรวงเกษตรฯ กรมปศุสัตว์ ไร้ประสิทธิภาพ แต่เพราะนายทุนกักตุน ตำรวจปกครอง พาณิชย์ปศุสัตว์สนธิกำลัง จับหมูได้ 14 ล้านกิโลกรัม ราคาหมูตรุษจีนลดลงแล้ว ทุกฝ่ายพึงพอใจ แล้วก็กินหมูแพงไปอีกปีครึ่ง
รัฐอำนาจนิยมอยู่ได้ด้วยงาน PR ผสม IO ตีปี๊บข่าวดี บัตรคนจนคนละครึ่ง ซาอุฟื้นความสัมพันธ์ ฯลฯ ประโคมข่าวต่างชาติ(จะ)มาลงทุนอีอีซี จัดอันดับไทยน่าอยู่วัยเกษียณ แต่ไม่พูดถึงดัชนีโปร่งใสที่ตกไปอันดับ 110 แพ้เวียดนาม
ทำเหมือนพวกปั่นหุ้น หลอกแมงเม่าไปวันๆ อีกทางหนึ่งก็ใช้ IO ให้ร้ายปลุกเกลียดชัง ผลักคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงเป็นส่วนน้อยของสังคม
ดราม่าออนไลน์แม้เรียกร้องความถูกต้อง ความปลอดภัยในชีวิต คุณภาพชีวิต ถ้าไปไม่ถึงโครงสร้างก็กลายเป็นเหยื่ออำนาจนิยม ฉวยไปสร้างความนิยมแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ถ้าไปถึงปัญหาโครงสร้างก็กลายเป็นเหยื่อรัฐ ใช้อำนาจเล่นงาน
ปัญหาหมักหมมจะเกิดขึ้นซ้ำซาก ประชาชนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก ทั้งเศรษฐกิจปากท้อง ความไม่ปลอดภัย ไม่ได้รับความยุติธรรม
สังคมไทยตกมาอยู่ในจุดเสื่อม ภายใต้ความสามานย์ แช่นิ่ง ไม่ใช่เฉพาะการเมือง แต่ทั้งสังคม ทั้งระบอบการปกครอง อำนาจรัฐราชการ การศึกษา ศาสนา วัฒนธรรม ความคิดความเชื่อ องคาพยพต่างๆ เหมือนถึงทางตัน ดิ้นไม่พ้นจากปลัก มองไม่เห็นอนาคต ได้แต่วนอยู่ในน้ำเน่า
การเมืองแช่นิ่งวันนี้ใครก็รู้ว่าสามานย์ ทั้งรัฐประหารสืบทอดอำนาจ ทั้งรัฐราชการ ทั้งนักการเมืองผสมพันธุ์ อยู่กันได้เพราะผลประโยชน์ ยิ่งไม่เห็นอนาคต ยิ่งต้องกอบโกยผลประโยชน์เข้าตัว ไม่รู้เมื่อไหร่รัฐบาลจะพัง
แต่ที่แย่กว่านั้นสำหรับประชาชนคือรู้สึกไม่มีความหวัง พูดกันจริงๆ ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ก็ไม่แน่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น การเลือกตั้งซ่อมหลายครั้งยิ่งสะท้อนการเมืองต่ำทราม “แลนด์สไลด์” ก็ไม่แน่ว่าจะรื้อล้างองคาพยพล้าหลังได้ โครงสร้างต่างๆ ยังเป็นอุปสรรค นอกจากเข้ามาแบกหม้อ ก้นดำ ยังอาจจะเป็นฝ่ายถูกทำลาย
ความเสื่อมมันไปไกลเกินกว่าการเปลี่ยนแปลงเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร จะแก้ไขปัญหาประเทศได้ มันต้องการปฏิรูปใหญ่ ทั้งระบบ ที่แทบไม่มีโอกาสเกิดขึ้น
พูดอย่างนี้ไม่ได้ทำลายความหวังของการเปลี่ยนแปลง แค่ให้ทำใจยอมรับว่า รัฐอำนาจนิยมจะคงอยู่ต่อไปบนความเสื่อมลง และเสื่อมลง โดยพวกเขาก็มองไม่เห็นอนาคตเช่นกัน