เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2567 เวลา 19:30 น. นางสาวชลิตา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ มูลนิธิเป็นหนึ่ง ได้ลงพื้นที่บ้านพักแห่งนึง ในซอยรามคำแหง 138 แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ เพื่อพูดคุยและหาทางช่วยเหลือเคสแม่ร้อง ลูกสาว 6 ขวบถูกพี่ชายของสามีอนาจารลูกสาว
จากการลงพื้นที่สอบถาม นางสาวเอ (นามสมมุติ) แม่เด็ก เล่าเปิดใจให้กับทางมูลนิธิเป็นหนึ่งว่า ลูกสาวเล่าให้ฟังหลังจากเกิดเหตุไม่กี่วัน บอกว่าพี่ชายของพ่อเด็กมักทำอนาจารลูกสาวโดยจะจับไปนั่งตักที่หน้าตู้ปลา ก่อนจะอาศัยจังหวะไม่มีใครเห็นอนาจารลูกสาว ในขณะที่ภรรยาของพี่ชายก็ยังนั่งดูทีวีอยู่ใกล้ ๆ
จากนั้นพี่ชายก็อาศัยจังหวะที่ภรรยาของเขา ไปอาบน้ำแค่ช่วงเวลาไม่กี่นาที บังคับให้ลูกสาวตนอมอวัยวะเพศของเขา แล้วก็หลอกล่อไม่ให้ลูกสาวตนบอกใคร ด้วยการพาไปซื้อขนมที่ร้านสะดวกซื้อทุกวัน แล้วก่อนที่ตนจะเข้าแจ้งความ ก็ได้คุยกับพี่ชายของแฟนเพื่อถามความจริง เขาก็มีการเสนอเงินเยียวยามาให้ตนก็ปรึกษากับสามีและสามีก็ขอให้ตนไม่แจ้งความแล้วรับเงินเยียวยา ด้านของพี่ชายของสามีจึงให้เงินมา 3 ครั้งใน 2 เดือนคือ 40,000 , 30,000 และ 6,000 บาท แต่สุดท้ายแล้วตนก็รู้สึกว่าเงินไม่ได้แก้ปัญหาอะไร จึงตัดสินใจไปแจ้งความ
หลังจากตนแจ้งความเสร็จ สามีก็มาแจ้งความกลับว่าตนแจ้งความเท็จ บอกว่าตนโกหก เสียสติ ป่วยซึมเศร้าแล้วคิดไปเอง พร้อมกับว่าขู่กรรโชกทรัพย์จากพี่ชายของสามีไปแล้ว และขู่ให้ตนหยุด ไม่งั้นจะไล่ออกจากบ้าน ทำให้ตอนนั้นก็เลยยอมหยุด ตำรวจก็เลยไม่ได้ทำอะไรต่อ
จากการสอบถามอีกว่าตอนนี้อยากให้ช่วยอะไรบ้าง เจ้าตัวบอกว่าต้องการให้ดำเนินคดีกับพี่ชายของสามีจนถึงที่สุด เพราะแค้นกับสิ่งที่เขาทำมาก จนกระทั่งทางมูลนิธิฯ ได้ติดต่อสอบถามทางฝั่งของพ่อเด็ก และได้ให้ทางฝั่งพ่อเด็กเดินทางเข้ามาในพื้นที่ ระหว่างที่พูดคุยสอบถามเรื่องราวพ่อเด็ก พ่อเด็กเล่าว่าก่อนหน้านี้ภรรยาได้เคยเล่นยาเสพติดมาก่อนพอมาคบหากับตน ก็หยุดเล่นยามา 7-8 ปี เพราะมีลูกด้วยกัน แต่สุดท้ายก็ทราบว่าภรรยาได้กลับมาเสพยาอีกครั้งในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา
ที่ตนยังอยู่ในบ้านเพราะเป็นห่วงลูก ไม่อยากให้ลูกอยู่กับภรรยาที่เสพยาแบบนี้กันแค่ 2 คน และไม่อยากให้ถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลเพื่อแย่งลูกกันและยืนยันว่าเรื่องที่ภรรยาพูด เป็นการกล่าวหาพี่ชายตน ซึ่งทั้งหมดไม่เป็นความจริง และพี่ชายไม่เคยให้เงินเยียวยาด้วย มีเพียงแค่คอยส่งเสียเลี้ยงดูในฐานะลุงกับหลานเท่านั้น
- มาจากไหน?! พบฝูงกวางนับ 10 ตัว ยืนเรียงแถว เกาะกลางถนน นึกว่ารูปปั้น
- ลืมไม่ลง! ครบรอบ 1 ปี สังการหมู่ปาเลสไตน์ คร่าชีวิตผู้คน นับแสนราย!?
- จนท.กรมชล เชียงใหม่ เร่งช่วยกัน ทำความสะอาดเมือง หลังน้ำลด
ส่วนสาเหตุที่พี่ชายออกจากบ้านไป ก็เพราะไม่อยากปะทะกับภรรยาของเขาและเรื่องที่ตนไปแจ้งความว่าภรรยาแจ้งความเท็จนั้น เป็นเรื่องจริงซึ่งภรรยาก็เซ็นรับทราบยืนยันข้อเท็จจริงนั้น ในใบแจ้งความบันทึกประจำวันเองด้วย แต่ทางเราก็ไม่ได้ปักใจเชื่อเสียทีเดียว เนื่องจากมีเรื่องเงินเยียวยาอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ฝ่ายหญิงเต็มใจลงบันทึกประจำวัน เพื่อให้เรื่องจบ ๆ ไปหรือไม่อย่างไร เรื่องราวจุดนี้ขึ้นอยู่ที่เจ้าหน้าที่สอบสวนจะขยายผลต่อไปอย่างไร
ทั้งนี้พ่อของเด็กได้เล่าอีกว่าสาเหตุที่ตนออกจากบ้านไปเมื่อเช้า เพราะจู่ ๆ ภรรยาก็ชวนทะเลาะ และเอาน้ำมาราดคอมพิวเตอร์ของตนจนพัง และเอามีดมาแทงล้อรถตน ตนก็เลยทนอยู่ไม่ได้จึงต้องยอมปล่อยให้ลูกอยู่กับเขาเพราะรู้ดีว่าต่อให้ชวนลูกไป ลูกก็ติดแม่ ส่วนสิ่งที่ตนต้องการมากที่สุดคือต้องการแยกลูกสาวออกมาจากภรรยา เพราะห่วงเรื่องความปลอดภัย แล้วตนก็มีกำลังมากพอที่จะดูแลลูกด้วย
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางชัน และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กกรุงเทพฯ ได้พาตัวแม่มาสงบสติอารมณ์ที่ สน. และนำตัวส่งเข้ารักษาจิตเวช ส่วนตัวเด็กทางด้านเจ้าหน้าบ้านพักเด็กได้ทำข้อตกลงกับพ่อ จากนั้นจะนำตัวเด็กเข้าบ้านคุ้มครอง เพื่ออยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ก่อน เพราะสุขภาพจิตของน้องค่อนข้างแย่ น้องแสดงออกถึงความชินและเฉยชากับเรื่องราววุ่นวายที่เกิดขึ้นวันนี้
ราวกับว่าน้องเห็นเรื่องราวลักษณะนี้เป็นเรื่องปกติซึ่งน่าเป็นห่วงมากๆในด้านสภาพจิตใจ หลังจากนี้น้องจะเข้าสู่กระบวนการรัฐในการคุ้มครองและดูแลสภาพจิตใจ ส่วนเรื่องข้อเท็จจริงเรื่องที่น้องถูกล่วงละเมิดจริงหรือไม่เราจะติดตามเรื่องนี้ต่อ หากมีความคืบหน้าจะอัพเดทให้ทราบเพิ่มเติม