ลูกสาววัย 14 ทำอาหารรอแม่กลับมากิน ชาวเน็ตยกเป็น “ลูกสาวในฝัน” แต่สุดท้ายหน้าเจื่อน แม่แท้ๆ ไม่ชม แถมอัดคลิปตำหนิลงโซเชียลฯ
คุณแม่ชาวจีนโพสต์คลิปวิดีโอโซเชียลเน็ตเวิร์ก วิพากษ์วิจารณ์ลูกสาวของตัวเองอย่างเย็นชา ไม่พอใจที่หยิบวัถุดิบในตู้เย็นมาทำอาหารมากเกินจำเป็น แต่สุดท้ายกลายเป็นโดนกระแสตีกลับอย่างรุนแรง
ตามรายงานระบุว่า ในวันที่เกิดเหตุการณ์เวลาประมาณ 11.00 น. เด็กหญิงวัย 14 ปีเข้าครัวทำอาหารและจัดจานอย่างสวยงาม ระหว่างที่แม่ของเธอออกไปซื้อของที่ตลาด โดยตั้งใจว่าหากแม่กลับมาจะได้สามารถทานได้ทันที
โดยชาวเน็ตต่างคิดเห็นตรงกันว่า หากเป็นครอบครัวของพวกเขา เมื่อพบว่าลูกตั้งใจเตรียมอาหารไว้เต็มโต๊ะ คงตื้นตันใจจนน้ำตาไหลแน่ๆ นี่มันลูกสาวในฝัน และโต๊ะอาหารในฝันชัดๆ แต่ปรากฏว่าคุณแม่ในคลิปดังกล่าวไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ทันทีที่กลับมาถึงบ้าน เธอขมวดคิ้วมองอาหารบนโต๊ะ และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา กล่าวโทษลูกสาวที่ไม่รู้จักคำนวนปริมาณอาหาร เพราะในครอบครัวมีกันแค่ 2 คน แต่กลับการทำอาหารมากเกินไป ซึ่งจะทำให้อาหารเหลืออย่างแน่นอน
“กินกันสองคนแล้วทำอาหารเยอะขนาดนี้ แม่ยังต้องชมอีกเหรอ ขอดูหน่อยว่าจะกินเข้าไปได้มากแค่ไหน!” แม่วิพากษ์วิจารณ์ด้วยถ้อยคำแสนเย็นชา ทำให้ลูกสาวทำอะไรไม่ถูก สีหน้าของเธองุนงงและเวทนาตัวเอง
แน่นอนว่าชาวเน็ตที่ได้รับชมคลิปต่างก็รู้สึกสับสนกันปฏิกิริยาไม่คาดฝันของคุณแม่เช่นเดียวกัน ไม่แน่ใจว่าโดยปกติแล้วเธอปฏิบัติต่อคนนอกบ้านอย่างไร แต่กับลูกสาวแท้ๆ ไม่จำเป็นต้องรุนแรงและเหยียบย่ำความตั้งใจขนาดนั้น! โดยมีผู้แสดงความคิดเห็นว่า
“ดูสิ เด็กถึงกับเตรียมผลไม้มาวางไว้ให้ป้าคนนี้ด้วย แต่สุดท้ายกลับไม่ได้เพลิดเพลินกับมื้ออาหาร ไม่รู้ว่าจะมีความสุขกับสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไรด้วยซ้ำ”
“แทนที่จะใช้ประโยคแบบนั้น คุณสามารถชมลูกที่มีความสามารถและไหวพริบ ทำอาหารอร่อยๆ เต็มโต๊ะไว้รอ แล้วค่อยอธิบายให้เธอฟังว่าครอบครัวเรากันแค่ 2 คน ทำอาหารแบบนี้ก็เยอะเกินไป ครั้งนี้เก็บไว้กินเป็นมื้อเย็นต่อได้ แต่ครั้งต่อไปช่วยใส่ใจให้มากขึ้น”
“ได้ฟังคำพูดด้วยน้ำเสียงตำหนิแบบนั้น ถ้าฉันเป็นเด็กผู้หญิงในคลิป ฉันจะพลิกโต๊ะทั้งโต๊ะ กินก็กิน ไม่กินก็ไม่ต้องกิน!!”
“เด็กหญิงตัวเล็กๆ ถูกดุจนหน้าซีด แต่เธอยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงถูกดุด้วยซ้ำ เพราะมีแม่ไร้เหตุผลขนาดนี้ไง!”
“ถ้ามีลูกที่ทำอาหารและทำงานบ้านไม่เป็น คุณอาจจะดุบ้าง แต่ถ้าลูกทำอาหารแล้วดูน่าอร่อยแบบนั้น คุณจะดุลูกลงจริงๆ เหรอ”
“พูดตามตรงนะ การได้อยู่กับแม่แท้ๆ แบบนี้มันเจ็บปวดยิ่งกว่าอยู่กับแม่เลี้ยงซะอีก! มองแต่ด้านที่บกพร่องของลูกเสมอ โดยไม่เห็นความพยายามหรือตระหนักถึงความสำเร็จของลูกเลย”
“อย่าโทษลูกถ้าอ่อนแอหรือดื้อรั้นเมื่อโตขึ้น ส่วนใหญ่เป็นเพราะรูปแบบการเลี้ยงดูของพ่อแม่ที่นิสัยไม่ดีแบบนี้! ฉันสงสัยจริงๆ ว่าเธอจะบันทึกคลิปลูกสาวอย่างใจเย็นได้อย่างไร ทั้งที่ลูกกำลังรู้สึกเสียใจกับตัวเองอยู่แบบนั้น?”