ใกล้สิ้นสุดแล้ว! องค์การอนามัยโลกเตรียมหารือ ยุติโควิดเป็นภาวะฉุกเฉิน สาธารณสุขระดับโลก ย้ำทุกประเทศต้องฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มคนที่ถือว่ามีความเสี่ยงสูง

เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน คำแถลงการณ์ของหัวหน้าองค์การอนามัยโลก (WHO) ถึงมุมมองในแง่ดีที่สุดของสถานการณ์ของโลกในปัจจุบันเกี่ยวกับวิกฤตสุขภาพการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ที่ยาวนานหลายปี ซึ่งได้คร่าชีวิตผู้คนไปเกือบ 6.5 ล้านคน และติดเชื้อ 606 ล้านคนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและระบบการรักษาพยาบาลที่ล้นหลาม

การเปิดตัววัคซีนและการรักษาได้ช่วยยับยั้งการเสียชีวิตและการรักษาในโรงพยาบาล และสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้วทำให้เกิดโรคที่รุนแรงน้อยลง หน่วยงานสหประชาชาติรายงานการเสียชีวิตจากโควิด-19 สัปดาห์ที่ผ่านมามียอดเสียชีวิตต่ำที่สุดนับตั้งแต่มีนาคม 2563
นายเท็ดรอส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก กล่าวกับผู้สื่อข่าวในงานแถลงข่าวว่า “ โลกไม่เคยอยู่ในสถานะที่ดีไปกว่านี้ในการยุติการแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด-19 และแม้ว่าเราจะยังไปไม่ถึงจุดนั้นในขณะนี้ แต่เราก็พอจะมองเห็นจุดจบของมันแล้ว”

คำแถลงการณ์ดังกล่าวเป็นการประเมินที่มองโลกในแง่ดีมากที่สุดจากหน่วยงานของสหประชาชาติ นับตั้งแต่ประกาศภาวะฉุกเฉินระหว่างประเทศในเดือนมกราคม 2020 และเริ่มอธิบายว่าโควิด-19 เป็นโรคระบาดใหญ่ในอีก 3 เดือนต่อมา
อย่างไรก็ดี ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกเรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ต้องพิจารณานโยบายของตนอย่างถี่ถ้วน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการรับมือกับโควิด-19 รวมถึงไวรัสอื่น ๆ ในอนาคต พร้อมเรียกร้องให้ทุกประเทศฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มคนที่ถือว่ามีความเสี่ยงสูงและทำการทดสอบเพื่อหาเชื้อไวรัสอย่างต่อเนื่องต่อไป

ทางด้านมาเรีย แวน เคอร์คอฟ นักระบาดวิทยาอาวุโสขององค์การอนามัยโลก กล่าวว่า “เราคาดว่าจะมีการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่เกิดขึ้นอีกในช่วงเวลาต่าง ๆ ทั่วโลกในอนาคต ซึ่งอาจเกิดจากสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอนหรือแม้แต่สายพันธุ์อื่นที่แตกต่างกันออกไป
การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน BA.4 และ BA.5 ในช่วงฤดูร้อน แสดงให้เห็นว่าการระบาดใหญ่ยังไม่สิ้นสุด เนื่องจากไวรัสยังคงแพร่กระจายในยุโรปและที่อื่น ๆ แต่โฆษกขององค์การอนามัยโลกยังกล่าวว่า การประชุมผู้เชี่ยวชาญครั้งต่อไปในเดือนตุลาคมจะมีการพิจารณาว่าการระบาดใหญ่ยังคงเป็นเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุขที่น่าวิตกกังวลระดับนานาชาติต่อไปหรือไม่

ดร.ไมเคิล เฮด นักวิจัยอาวุโสด้านสาธารณสุขระดับโลกที่มหาวิทยาลัยเซาแทมป์ตัน กล่าวว่า “นานาชาติส่วนใหญ่กำลังก้าวไปไกลกว่าระยะฉุกเฉินของการรับมือโรคระบาดใหญ่ ขณะนี้รัฐบาลในประเทศต่าง ๆ กำลังมองหาวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับโควิด-19 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพและการเฝ้าระวังตามปกติ”

อย่างไรก็ตาม ยุโรป สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกาได้อนุมัติวัคซีนที่กำหนดเป้าหมายไปยังสายพันธุ์โอมิครอนและสายพันธุ์ดั้งเดิม เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหรัฐฯ กล่าวว่าการระบาดใหญ่ยังไม่จบสิ้น แต่วัคซีนชนิดไบวาเลนท์ชนิดใหม่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 พวกเขาคาดการณ์ว่าวัคซีนประจำปีเพียงครั้งเดียวที่คล้ายกับไข้หวัดใหญ่ควรให้การป้องกันในระดับสูงและทำให้ประเทศกลับสู่สภาวะปกติ

ขอบคุณที่มาจาก Reuters