หลอกกันได้ลงคอ! หญิงชาวฟลอริดาสุดแสบหลอกเอาเงินเก็บทั้งชีวิตของคุณปู่วัย 87 ปีเป็นเงินเกือบ 100 ล้านบาท เอาเงินไปใช้ชีวิตสุดหรูนานกว่า 4 ปี

เว็บไซต์ นิวยอร์กโพสต์ รายงานคดีสุดสะเทือนใจ วันที่ 14 เม.ย. 66 อัยการนิวยอร์กทางตอนใต้ของสหรัฐ เผยว่า “พีชเชส สเตอร์โก” หญิงสาวชาวฟลอริดาวัย 36 ปี ผู้ต้องหาในคดีหลอกลวงและฉ้อโกงทรัพย์ด้วยการทำธุรกรรมผ่านระบบ ยอมรับสารภาพผิดต่อหน้าศาลว่า เธอได้หลอกลวงคุณปู่วัย 87 ปี ซึ่งเป็นผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ฮอโลคอสต์หรือฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยหวังทรัพย์สิน โดยคุณปู่ได้ส่งเงินให้เธอไปแล้วถึง 2.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 96 ล้านบาท

ทางด้านนายเดเมียน วิลเลียมส์ อัยการรัฐ กล่าวว่า คดีนี้เป็นเรื่องที่น่าเศร้าสะเทือนใจ นางสาวสเตอร์โกผู้ต้องหารายนี้ได้ใช้เงินหลายล้านที่เธอหลอกลวงจากคุณปู่ เพื่อชีวิตหรูหรา เช่น ซื้อบ้านในย่านคนรวย รถยนต์ยี่ห้อดังหลายคัน ไปเที่ยวพักผ่อนในโรงแรมหรูระดับห้าดาว และซื้อเสื้อผ้าแบรนด์เนมจำนวนมาก ในขณะที่เจ้าของเงินต้องสูญเสียอพาร์ตเมนต์ ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของเหยื่อ

ตามรายงาน ระบุว่า สเตอร์โกพบกับคุณปู่ผู้นี้ผ่านทางเว็บไซต์หาคู่เมื่อหลายปีก่อน โดยใช้นามสมมติว่า ‘อลิซ’ จากนั้น เธอก็เริ่มออกปากขอยืมเงินฝ่ายชายในปี 2560 โดยอ้างว่า เพื่อจ่ายค่าทนายความในการดำเนินการ เพื่อรับกองทุนและทรัพย์สินจากการชนะคดี ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ารายการต่างๆ ไม่มีอยู่จริง

ภาพประกอบ

อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริง คือไม่มีการฝากเงินกองทุนใดๆ เข้ามาในบัญชีธนาคารของเธอเลย แต่เธอก็ยังคงขอเงินจากเหยื่อมาตลอดระยะเวลา 4 ปีครึ่ง โดยคุณปู่ผู้โชคร้ายรายนี้เขียนเช็คสั่งจ่ายเงินให้เธอทั้งสิ้น 62 ฉบับ รวมเป็นเงินกว่า 2.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 96 ล้านบาท

นอกจากนี้ สเตอร์โกยังปลอมตัวเป็นพนักงานธนาคาร และปลอมเอกสารใบเรียกเก็บเงินจากธนาคาร เพื่อล่อลวงคุณปู่ให้หลงเชื่ออีกด้วย

ขณะเดียวกัน สเตอร์โกได้นำเงินไปใช้จ่ายเพื่อซื้อเสื้อผ้าแบรนด์เนม เช่น หลุยส์ วิตตอง และ แอร์เมส รวมทั้งเธอยังซื้อเรือและรถยนต์หลายคัน ไปเที่ยวต่างประเทศอย่างหรูหรา และพักในโรงแรมสุดหรู อย่าง โรงแรมริตซ์-คาร์ตันอีกด้วย ขณะที่คุณปู่ผู้ตกเป็นเหยื่อนั้นสูญเสียเงินเก็บสะสมตลอดชีวิตไปทั้งหมด รวมทั้งอพาร์ตเมนต์ที่ใช้อยู่อาศัยของตนเอง

ทั้งนี้ สเตอร์โกยอมรับสารภาพผิด และยินยอมที่จะจ่ายเงินชดใช้เป็นจำนวน 2.83 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 97 ล้านบาท รวมทั้งยินยอมให้ยึดเสื้อผ้าและเครื่องใช้แบรนด์เนมที่เธอซื้อมาทั้งหมด สุดท้ายทางศาลได้ตัดสินจำคุกเธอสูงสุดนาน 20 ปี นับตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค. ที่จะถึงนี้