"โอเล่" กลับถึงไทยสู่อ้อมกอดแม่ เปิดเงินเดือนที่อิสราเอล เปลี่ยนชีวิต มีเงินล้านสร้างบ้าน

Home » "โอเล่" กลับถึงไทยสู่อ้อมกอดแม่ เปิดเงินเดือนที่อิสราเอล เปลี่ยนชีวิต มีเงินล้านสร้างบ้าน
"โอเล่" กลับถึงไทยสู่อ้อมกอดแม่ เปิดเงินเดือนที่อิสราเอล เปลี่ยนชีวิต มีเงินล้านสร้างบ้าน

โอเล่ แรงงานไทย วัย 30 ปี กลับจากอิสราเอล ถึงบ้านเกิดสู่อ้อมกอดแม่ บ้านเกิด อ.ปลาปาก โชคดีรอดชีวิต รวมเพื่อนแรงงานไทย 32 คน ยอมรับยังคิดถึงอิสราเอล พาหนีความจน โชว์ความสำเร็จจากขายแรงงาน ทำเกษตรกว่า 4 ปี สร้างบ้านราคานับ 2 ล้านบาท เป็นของขวัญแม่สำเร็จ คาดหวังหากสงครามสงบอยากกลับไปทำงานอีก ขอบคุณรัฐบาลช่วยเหลือรอดชีวิต

เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม นับเป็นอีกแรงงานไทยในอิสราเอล อีกคนที่น่าติดตาม สำหรับ นายชลวิทย์ สุธา อายุ 30 ปี หรือโอเล่ ชาวบ้านกอก ต.ปลาปาก อ.ปลาปาก จ.นครพนม หนึ่งในแรงงานไทย ไปทำงานอิสราเอล ที่รอดชีวิตเดินกลับถึงไทย ในวันนี้ โดยได้รับการช่วยเหลือจากทหารอิสราเอล ออกจากพื้นที่สงคราม รัฐบาลไทยจึงประสานการช่วยเหลือรับกลับบ้านเกิดประเทศไทย และมีเพื่อนในแคมป์ คนงานไทย เดียวกัน ได้รับการช่วยเหลือรอดชีวิต รวม 32 คน กลับถึงไทย ทั้งหมดแล้ว

สำหรับ บรรยากาศการกลับบ้านของ หนุ่มโอเล่ แรงงานไทยรอดชีวิตจากอิสราเอล กลับมาบ้านเกิด ที่บ้านกอก ต.ปลาปาก อ.ปลาปาก จ.นครพนม มี นางตุรัตน์ สุธา อายุ 57 ปี แม่ และญาติพี่น้อง ต้อนรับอย่างอบอุ่น ส่วนพ่อเสียชีวิต ตั้งแต่ปี 2559 โดยการเจอหน้ากันครั้งแรกของทั้งสองแม่ลูก หนุ่มโอเล่ ได้สวมกอดแม่ พร้อมหอมแก้ม หลังจากเดินทางไปทำงานที่ อิสราเอล นานกว่า 4 ปี ตามสัญญาจ้าง รวม 5 ปี แต่เกิดภัยสงคราม จึงต้องกลับมาก่อนกำหนด เพื่อเอาชีวิตรอด เสมือนได้ชีวิตใหม่ เพราะไม่คิดจะรอดชีวิตกลับมา เนื่องจากความรุนแรงกว่าทุกครั้ง จากปกติมีการก่อสถานการณ์ ตลอดแต่ไม่รุนแรง

ทั้งนี้ นายชลวิทย์ สุธา อายุ 30 ปี หรือโอเล่ ชาวบ้านกอก ต.ปลาปาก อ.ปลาปาก จ.นครพนม หนึ่งในแรงงานไทย เปิดเผยว่า ยอมรับพื้นฐานครอบครัวมีฐานะยากจน อาชีพหลักทำไร่ทำนา พ่อแม่ต้องดิ้นรนต่อสู้ ส่งเรียนหนังสือ จนจบปริญญาตรี หวังมีงานเป็นเสาหลักครอบครัว จากพี่น้อง สองคน มีน้องสาวอีกคน สุดท้ายต้องยอมไปทำงานต่างประเทศ เพราะหวังสร้างฐานะ ให้ครอบครัว เคยฝันอยากมีบ้านใหม่ ยอมเป็นหนี้ ให้แม่กู้เงินเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ เป็นงาน ฟาร์มเกษตร ถือว่าได้เงินเดือนสูง ประมาณเดือนละ 40,000 – 50,000 บาท ทำให้เป็นแรงจูงใจคนไทย ไปทำงานต่างประเทศจำนวนมาก ถึงแม้จะรู้ว่าเสี่ยงภัยสงคราม ดีกว่ายอมอดตาย

ในรอบ 4 ปี การทำงาน ได้พยายามเก็บเงิน ส่งกลับบ้านให้แม่ สิ่งสำคัญคือบ้านหลังใหม่ ถือเป็นน้ำพักน้ำแรง เป็นความสำเร็จ เปลี่ยนชีวิต มีบ้านหลังใหม่ราคา กว่า 2 ล้านบาท และมีเงินเก็บไว้บางส่วน ถึงแม้จะเกิดภัยสงคราม ยอมรับยังคิดถึงประเทศอิสราเอล เพราะพาหนีความจน มาถึงวันนี้ หากสงครามสงบ ยอมรับว่าอยากกลับไปทำงานอีก เพราะได้ค่าแรงสูง ขอบคุณรัฐบาลไทย รวมถึงทหารอิสราเอล ที่ให้การดูแลช่วยเหลือ รอดชีวิตกลับบ้านเกิด หากอนาคตไม่สามารถกลับไปทำงานอิสราเอลได้ อยากให้รัฐบาลหาแนวทางช่วยเหลือ ส่งไปทำงานประเทศอื่น เพราะยังมีค่าแรงสูงกว่าไทย จึงเป็นความหวังของแรงงานไทย ที่มีฐานะยากจน

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ