จากกรณี เด็กหญิง อายุ 14 ปี ใช้อาวุธมีดแทงยาย อายุ 48 ปี ยายแท้ๆ เสียชีวิต ภายในห้องเช่าแห่งหนึ่ง หลังวัดบางบอน ถนนเอกชัย สภาพศพถูกของมีคมแทงที่คอ 3 แผล, หลัง 1 แผล และเอว 3 แผล หลังเกิดเหตุเด็กหญิงได้มามอบตัวกับตำรวจ
โดยเหตุเกิดขึ้นช่วงประมาณ 14.00 น.ของเมื่อวานนี้และหลังเกิดเหตุเด็กหญิงได้วิ่งหนีออกไปคาดว่าตกใจกับเหตุการณ์ แต่จากนั้นก็วิ่งกลับมาใกล้กับที่เกิดเหตุเพื่อขอมอบตัวกับตำรวจ โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้ขณะวิ่งมาหาตำรวจ
ขณะที่เช้าวันนี้ทีมข่าวลงพื้นที่ที่เกิดเหตุอาคารห้องเช่าเงียบ เพื่อนบ้านไม่มีใครอยู่ แต่เจอกับนายเจนวุฒิ โรจนอานนท์ 67 ปี สามีผู้เสียชีวิต เล่าว่า หัองเช่าดังกล่าว อยู่กัน 4 คนคือ ตนเอง ผู้เสียชีวิตและหลาน 2 คนอายุ 14 ปี และ 9 ปี และตนเองอยู่กินกับผู้ตายมากกว่า 30 ปี และยังบอกอีกว่า ผู้ตายเป็นคนติดสุราหนักมาก ดื่มสุราทุกวัน พอดื่มเมาก็จะมาทะเลาะ มาด่าหลาน ส่วนมากจะมาขอเงินหลาน เพราะตนเองจะให้เงินหลานวันละ 100 บาทเพื่อซื้อข้าวกิน เพราะหลานอายุ 14 ปีไม่ได้เรียนหนังสือ ส่วนคนเล็กเรียน แต่ผู้ตายเห็นว่าหลานมีเงินก็มักจะมาขอ และมาขโมยไป ก็ทำให้ทะเลาะกันประจำจนชาวบ้านและตนเองชินชา ตนเองยังเคยบอกว่าอย่ากินสุรา เพราะสุราจะพาไปตาย แต่ผู้ตายก็ไม่เชื่อยังไปกิน บางครั้งก็หายออกไป 2-3 วัน ถึงจะค่อยกลับมาบ้านที
เมื่อถามว่า หลานมาระบายอะไรบ้างหรือไม่ ก็บอกว่าหลานไม่ค่อยพูด เก็บตัว ไม่ระบายอะไรให้ตนฟัง ส่วนเมื่อถามถึงพ่อแม่ของเด็ก ก็บอกว่าไม่ได้มาเห็นมาหลายปีแล้ว หลังจากที่คลอดเด็กทั้งสองออกมาก็ทิ้งไว้ให้ยายกับตนเองเลี้ยงและไม่ได้มาส่งเสียแต่อย่างใด
โดยขณะนี้ เด็กหญิง อายุ 14 ปี อยู่ที่ สน.แสมดำ เพื่อสอบปากตำพร้อมกับสหวิชาชีพ และมีรายงานว่าตำรวจสามารถติดต่อแม่แท้ๆของเด็กผู้ก่อเหตุแล้วก็จะเรียกมาสอบภามรายละเอียด ก่อนจะส่งตัวเด็กไปยังศาลเด็กและเยาวชน
ขณะที่มีรายงานข่าวว่าก่อนเกิดเหตุเด็กหญิงถูกยายด่าท่อต่อว่า เธอเสียใจจึงโทรศัพท์ไปฟ้องแม่แท้ๆ บอกว่า ยายด่าอีกแล้ว แม่ก็ปลอบทแต่พอวางสายกับแม่ ยายก็ยังด่าอีกและไปด่าน้องชายวัย 9 ขวบ ว่าเป็นเด็กไม่มีพ่อแม่ ทำให้เด็กหญิงรู้สึกโมโห จึงคว้ามีดที่อยู่ใกล้ตัว เข้าไปทำร้ายร่างกายยายทันที ก่อนจะหนีออกไป แต่สุดท้ายก็วิ่งกลับมามอบตัวกับตำรวจ และเมื่อถามว่าทราบหรือไม่ว่าเมื่อวานเป็นวันเกิดของยายเสียชีวิตด้วย ก็ไม่มีใครรู้ว่าเป็นวันเกิด / ส่วนแม่เด็กทราบว่ามีครอบครัวใหม่ไปแล้วจึงไม่ค่อยได้กลับมาหาลูกแต่ก็พูดคุยกับลูกอยู่เสมอ
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาที่ สน.แสมดำ พนักงานสอบสวนพร้อมเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ ได้นำตัวเด็กหญิง อายุ 14 ปี ขึ้นรถฝากขัง ควบคุมตัวไปยังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดยมีแม่อยู่ใกล้ชิด ซึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามกับแม่ถึงความสัมพันธ์ในครอบครัว และ สาเหตุที่ลูกก่อเหตุครั้งนี้ แต่แม่ก้มหน้า ใช้ฮู้ดเสื้อคลุมปิดบังใบหน้า ไม่ตอบคำถามใด ๆ พร้อมเดินเข้ารถเจ้าหน้าที่ตำรวจไป
- รับมือหนัก! น้ำท่วม จ.ลำปาง ฝั่งแม่น้ำวัง เฝ้าระวัง เตรียมขนของขึ้นที่สูง
- ‘หมูเด้ง’ ติด Google Trend ขยายฐานแฟนคลับไกลไปถึงทวีปอเมริกาเหนือ
- X ปรับระบบใหม่! คนโดนบล็อคยังเห็นโพสต์ แต่ถูกจำกัดสิทธิ์การโต้ตอบ
ขณะเดียวกันตลอดทั้งวันตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาจนถึงช่วงที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเด็กหญิงอายุ 14 ปี โดยมีแม่อยู่ใกล้ชิด ขึ้นรถฝากขัง ตาหรือพ่อแท้ ๆ ของผู้ก่อเหตุ ได้ออกมาเฝ้าดูลูก พยายามมองเข้ามาตลอดเวลาด้วยความเป็นห่วง แต่ไม่เดินเข้ามาใกล้
ต่อมา ทีมข่าวจึงเข้าพูดคุยกับตา เพื่อจะสอบถามเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัว ตามที่ชาวบ้านอ้างว่าจริงหรือไม่ ทีแรกตามีท่าทีพยายามจะเดินหนี แต่สุดท้ายก็ยืนคุย
โดยตาอ้างบอกว่า ไม่ค่อยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับลูกเลี้ยง ไม่ค่อยมี เพราะนานมาแล้วหลายปีแล้ว ก่อนจะกลั้นใจยอมรับว่า เคยมีสัมพันธ์กับลูกเลี้ยงของภรรยาจริง ส่วนเด็กหญิงอายุ 14 ปีก็เป็นลูกแท้ ๆ เป็นลูกทางสายเลือด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คาดว่าเป็นสาเหตุนี้หรือไม่ที่ทำให้ยายต้องด่าทอหลาน ตาอ้างว่า ยายพึ่งมาด่าเมื่อห้าปีหลังนี้ หลังจากติดเหล้าจนเป็นแอลกอฮอล์ลิซึ่ม เรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัว เกิดขึ้นนานมาแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เมื่อนึกถึงก็ยังรู้สึกผิดหรือไม่ ตาพยักหน้า และตาบอกอีกว่า ทุกวันนี้ตัวเองก็ไม่ได้คุยกับลูกเลี้ยงมานานแล้ว อ้างว่า หลังจากนี้หากลูกเลี้ยงจะเอาลูกไปเลี้ยงก็ปล่อยมัน ฉันจะได้อยู่คนเดียวสบายใจ มันยังไม่พูดกับฉันเลย
ตาพูดด้วยสีหน้าวิตก อ้างว่า ตอนนี้ไม่เครียด ทุกวันนี้ก็ไม่ได้พูดคุยกับลูก แต่เลี้ยงดูลูกดีมาตลอด ทุกวันนี้ลูกทั้งสองคน ทั้งเด็ก 14 ขวบ และ 9 ขวบ ก็เรียกตัวเองว่าพ่อหมด ซึ่งเด็กอายุ 14 ปีเป็นลูกของตัวเอง ส่วนเด็กอีกคนหนึ่งเป็นลูกของพ่อคนอื่น
ตาให้ข้อมูลอ้างว่า ที่ผ่านมา 14 ปี ไม่ทราบว่าลูกจะทราบหรือไม่ว่าตัวเองเป็นตาและเป็นพ่อแท้ ๆ และไม่ทราบว่าคนอื่นหรือชาวบ้านจะบอกหรือไม่ ที่ผ่านมา หากลูกเลี้ยงจะเข้ามาที่บ้านก็เข้ามาได้ ไม่มีใครทำอะไร หรือจะส่งเงินมาช่วยเลี้ยงลูกบ้างก็ย่อมได้(แต่ไม่มา)
ส่วนยายนั้น เวลาเมาแล้วทะเลาะกันกับหลาน ยายไม่เคยพูดพาดพิงถึงตัวเอง แต่บางครั้งก็จะพาลด่ามาถึงตนเองว่าไปมีเมียน้อย ตัวเองไม่เคยมีเพราะทำแต่งาน แล้วยังบอกพาดพิงภรรยากลับว่า ทีตัวเองไปนอนบ้านคนอื่น ไปมีอะไรกับคนอื่นยังไม่เคยพูด ไปที 3-4 วัน บางทีไปครึ่งเดือน ยังไม่เคยพูด แต่มากล่าวหาตน ยังเคยบอกภรรยาว่าหากตนเองทำจริงให้ไปเอาหลักฐานมา ซึ่งตนเองทราบเรื่องภรรยาเพราะมีคนบอกเหมือนกัน
สุดท้าย ตาพูดทิ้งท้ายด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า ตัวเองคิดอยู่แล้วว่าสักวันหนึ่งเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็ว ไม่ต้องเป็นหมอดูก็ดูรู้ เพราะฉันเลี้ยงมานิสัยใครเป็นอย่างไรฉันรู้ทุกคน