โอด ท้วงเมนูไม่ตรงปก ร้านดังบุรีรัมย์ โดนเจ้าของปาเงินใส่หน้า ไล่ออกจากร้าน งงหนักเอาภาพจากอินเตอร์เน็ตมาโชว์เมนู แต่ทำออกมาคนละเรื่อง!

วันที่ 5 ส.ค.65 ผู้สื่อข่าวรับการร้องเรียนจาก นายกันตพงศ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ชาวกรุงเทพฯว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือถูกทำร้ายจิตใจ และไม่คิดว่าเรื่องราวแบบนี้จะเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการด้านบริการ

นายกันตพงศ์ เล่าว่า ตนเดินทางมาจากกรุงเทพฯ เพื่อมาทำธุรกรรมเรื่องอสังหาริมทรัพย์ที่ จ.สุรินทร์ เดินทางมาคนเดียว ขากลับมาแวะพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองบุรีรัมย์ ช่วงเย็นจะออกไปกินข้าว จึงถามพนักงานโรงแรม แนะนำว่าให้ไปกินที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เพราะไม่ไกลจากที่พัก

เมื่อเข้าไปถึงได้สั่งอาหาร 2 อย่างคือปลาหมึกผัดไข่เค็ม และหมูผัดพริกแกง กับข้าวเปล่า 1 จาน เมื่อพนักงานเอามาเสริฟ์ ปรากฏว่าปลาหมึกผัดไข่เค็มที่สั่งไป หน้าตาไม่เหมือนปกที่โชว์ในเมนู ที่สำคัญไม่เห็นมีไข่เค็ม เหมือนปลาหมึกผักพริกหยวกมากกว่า ไม่มีไข่เค็มในจาน

จึงเรียกพนักงานมาสอบถามว่า”เอาอาหารมาวางผิดโต๊ะหรือไม่”จากนั้นพนักงานเสิร์ฟ กลับไปที่แคชเชียร์ ได้คำยืนวันมาว่าไม่ผิดโต๊ะ ระบุว่า“ไข่เค็มน่าจะไม่สุก”จึงกินแค่ผัดพริกแกงเพียงอย่างเดียว

ตอนคิดเงินได้ถามพนักงานเสิร์ฟว่า”ปลาหมึกผัดไข่เค็มเอาอย่างไร”พนักงานบอกว่า ให้ไปคุยกับเจ้าของร้านเลย จึงเดินไปหาเจ้าของร้าน เมื่อดูราคาแล้วเจ้าของร้านคิดราคาหมึกไข่เค็ม 150 บาท ,หมูพริกแกง 130 บาท น้ำกับข้าวเปล่ารวมกัน 30 บาท รวมเป็นเงิน 310 บาท

จึงสอบถามไปเรื่องหมึกผัดไข่เค็ม เจ้าของร้าน บอกว่า”ปลาหมึกไข่เค็มทำไมไม่เหมือนกับภาพในเมนู”ได้รับคำตอบจากแคชเชียร์ว่า ภาพที่เห็นในเมนู เป็นภาพที่เอามาจากอินเตอร์เน็ต จะเหมือนที่ในร้านได้อย่างไร

ตนจึงถามกลับไปอีกว่า ทำไมไม่ถ่ายภาพอาหารภายในร้านใส่เมนู เพราะจะได้ตรงปก ทำให้เจ้าของร้านซึ่งเป็นผู้หญิงไม่พอใจบอกว่า”งั้นไม่คิดเงิน”ตนจึงตอบกลับไปว่าต้องคิดเพราะผมสั่งผมต้องจ่ายเงิน

จึงขอจ่ายเงินแค่ที่กินไปคือ 180 บาท บวกค่าทิปเด็กเสิร์ฟ อีก 40 บาท รวมเป็น 220 บาท เมื่อเอาเงิน ให้ไป เจ้าของร้านได้เอาเงินทั้งหมดปาใส่หน้า พร้อมไล่ออกจากร้าน จากนั้นสามีเจ้าของร้านซึ่งเป็นชาวต่างชาติได้เก็บเงินให้ 120 บาท

ตนรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมและเหมือนถูกเหยียดหยามจิตใจ เพราะมีแขกในร้านเป็นจำนวนมาก จึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ยืนยันและกล้าท้าสาบานว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องจริง สาเหตุที่ตนทักท้วงไปนั้น ตนมั่นใจว่าเมนูที่สั่งไม่ใช่ เพราะตนเปิดร้านอาหารที่กรุงเทพฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมานายกันตพงศ์ เดินทางไปร้องต่อพาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ ว่าขอให้เอาผิดหรือตักเตือนร้านอาหารดังกล่าว ให้ทบทวนการบริหารงาน และควรจะบริการแขกอย่างไร เพราะบุรีรัมย์เป็นเมืองท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวอยากจะมาที่นี่

ด้าน นายสุทธิศักดิ์ พรหมบุตร พาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า เท่าที่ตรวจสอบจากภาพที่นักท่องเที่ยวถ่ายมา ค่อนข้างไม่ตรงปกชัดเจน แต่เพื่อให้ความเป็นธรรม ในวันนี้จะเข้าไปตรวจสอบที่ร้านอาหารดังกล่าว พร้อมกับศูนย์ดำรงธรรม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนในเรื่องคดีขึ้นอยู่กับตำรวจจะแจ้งข้อหาไหน ถ้าเป็นจริงตามที่กล่าวอ้างอาจจะเข้าข่ายหมิ่นประมาทต่อหน้าธารกำนัล