โหดเกิน! คนร้ายฆ่าหนุ่มใหญ่รับจ้างเลี้ยงวัว ลากศพมาทิ้งกว่า 200 เมตร

Home » โหดเกิน! คนร้ายฆ่าหนุ่มใหญ่รับจ้างเลี้ยงวัว ลากศพมาทิ้งกว่า 200 เมตร
หนุ่มใหญ่ ถูกฆ่า

หนุ่มใหญ่รับจ้างเลี้ยงวัว ถูกฆ่าโหด โดนของแข็งตีหน้าจนเละ คาดทะเลาะกันในวงเหล้า จนบาดหมาง ตร.เร่งนำตัวนายจ้างสอบปากคำ

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 10.20 น. พ.ต.ท.ธีรวัฒน์ วังแสง พงส.สภ.ภูเพียง จ.น่าน ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุนครน่าน 191 ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน ว่ามีชาวบ้นพบศพผู้เสียชีวิตที่ บ้านสวนไม่มีเลขที่ ม.11 ต.เมืองจัง อ.ภูเพียง จ.น่าน จึงรายงานให้พล.ต.ต.ดเรศ กัลยา ผบก.ก.จ.น่าน ,พ.ต.อ.ชาญยุทธ ไชยมะโน ผกก.ส.ภ.ภูเพียงฯ , พ.ต.ท.วาณัฐพงษ์ สันติพงศธร รอง ผกก.สส.ส.ภ.ภูเพียงฯ , พ.ต.ต.ดนุทัช กิติยศ สว.สส.ส.ภ.ภูเพียง, ร.ต.อ.บุญส่ง สุยาว รอง สว.สส.สภ.ภูเพียง , ร.ต.อ.อภิวิชญ์ ใจจันทร์ ร.ต.อ.พัฒนา ดีปานา , ร.ต.อ.สมบัติ จินจ๊ะนา , ร.ต.ต.เพชรสุพร สีทา ร.ต.ต.สอ พินยา,จนท.ตร.ชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม จนท.ตร.พฐ.น่านกับทีมแพทย์ รพ.น่าน ตำรวจพิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดน่าน แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลน่าน กู้ชีพกู้ภัย อบต.เมืองจัง มูลนิธิเพชรเกษมน่านเขตเมือง

ที่เกิดเหตุจุดที่พบศพเป็นลานข้างห้องครัวกระท่อมที่พักอาศัยของผู้ตาย ทราบชื่อในเวลาต่อมาชื่อ นายเกรียงศักดิ์ สงคราม อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121 หมู่ที่ 10 ตำบลเมืองจัง อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน แต่มารับจ้างเลี้ยงวัว ที่สวนที่เกิดเหตุและมี สภาพศพนอนหงายไม่สวมเสื้อหน้าและลำตัวอาบไปด้วยเลือด โดยเฉพาะที่ใบหน้า จากการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นพบบาดแผลถูกทุบด้วยของเข็งไม่คมจนหน้าตาแตกยับแทบจำเคล้าโครงหน้าไม่ได้ ทางเจ้าหน้าที่ร่วมกันชันสูตรพลิกศพที่เกิดเหตุ และ ทางมูลนิธิเพชรเกษมน่านเขตเมืองได้รับมอบหมายให้นำร่างผู้เสียชีวิตไปทำการชันสูตรอย่างละเอียดที่ที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลน่านรพ.น่านอีกครั้ง

439061534 940897481375591 3463602640870763603 n (1)

เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจสอบบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุ พบว่ามีร่องรอยหยดเลือดและร่องรายการลากร่างของผู้เสียชีวิต เป็นทางยาวจากบริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่งที่นายเกรียงศักดิ์ ผู้ตายมารับจ้างเลี้ยงวัว ระยะทางประมาณ 150 เมตร จึงเข้าไปตรวจสอบบริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว พบว่าเป็นโต๊ะที่เอาไว้นั่งเล่นนั่งดื่มกินกัน ใกล้กันพบคราบเลือดจำนวนมากส่งกลิ่นคาว บางส่วนถูกน้ำล้าง คาดว่าเพื่อทำรายหลักฐาน

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้น ให้การว่า วานนี้ เวลาประมาณ 20.00 น. ผู้ตายกับผู้ต้องสงสัยและคู่สามีภรรยาเจ้าของบ้านและเป็นนายจ้างของผู้ตาย ได้ตั้งวงดื่มเหล้ากันบริเวณหน้าบ้านตรงโต๊ะที่ตั้งหน้าบ้าน โดยคู่สามีภรรยาอ้างว่าพวกตนได้เข้าไปนอนก่อนและไม่ได้ยินเสียงอะไร ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พอตื่นเช้ามาออกบ้านมาเหม็นกลิ่นคาวเลือดจึงฉีดน้ำล้างเลือด และได้ออกมาเตรียมตัวเพื่อแยงไข่มดแดง ขณะเดินเข้าไปเพื่อเข้าป่าต้องผ่านข้างที่พักนายเกรียงศักดิ์ พบนายเกรียงศักดิ์นอนแน่นิ่งอยู่เมื่อเข้าไปดูพบว่านายเกรียงศักดิ์ เสียชีวิตแล้วจึงโทรแจ้ง 191 เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทราบ

โดยทางเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ได้ปักใจเชื่อในคำให้การยังแยกสอบสามีภรรยาอยู่ตั้งเวลาเวลา 15.00 น. โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ติดตามไปเพื่อจะนำตัวผู้ต้องสงสัยอีกรายคือ นานพิทักษ์ ทองอินต๊ะ หรือบี อายุ 39 ปี ผู้ต้องสงสัยอีกรายที่ได้ร่วมดื่มกินตั้งวงไปสอบปากคำ ที่บริเวณสวนแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กัน แต่เมื่อเดินทางไปถึงไม่พบตัวนายบี คาดว่าได้หลบหนีไปแล้ว

438955604 940897694708903 4736215707933595954 n (1)

ต่อมาเวลาประมาณ 15.30 น. จนท.ตร.ชุดสืบสวน สภ.ภูเพียง จำนวนหนึ่ง ได้ร่วมกันตรวจยึด 1.อาวุธปืนลูกซองยาวไทยประดิษฐ์ ขนาด เบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก 2.เครื่องกระสุนปืนขนาด เบอร์ 12 จำนวน 5 นัด พร้อมเครื่องกระสุนปืน ลูกซอง อยู่ในกระเป๋าสะพายสีน้ำตาล จำนวน 1 ใบ เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึด
จากการตรวจที่เกิดเหตุและรวบรวมพยานหลักฐาน ทราบว่า

ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตได้นั่งดื่มสุรากับพวกรวม จำนวน 4 คน เบื้องต้นคาดว่า ทั้ง 4 คน รวมผู้ตายได้ตั้งวงดื่มเหล้าบริเวณหน้าบ้าน โดยตัวผู้ตายทางญาติก็ยอมรับว่า เวลาเมาจะพูดจาเสียงดัง แต่ไม่เคยมีประวัติทำร้ายใคร ส่วนผู้ต้องสงสัยคือนายบี มีประวัติเคยฆ่าคนตายมาก่อนเมื่อประมาณปี 2563 และพึ่งพ้นโทษมาเมื่อปี 2560 หลายคนยืนยันว่ามีพฤติกรรมก้าวร้าว ชอบไปหาเรื่องทะเลาะต่อยตีคนอื่นไปทั่ว คาดว่าได้ดื่มกินกันจนเมาแล้วเกิดทะเลาะวิวาทต่อยตีกัน และคิดว่าผู้ตายยังไม่เสียชีวิต จึงลากร่างผู้ตายไปไว้ริมกระท่อม เบื้องต้นยังไม่ทราบว่า นายบีก่อเหตุคนเดียวหรือร่วมกันก่อเหตุ เพราะมีการพยายามล้างคราบเลื้อดเพื่อทำลายหลักฐาน

ด้าน แม่อุ๋ย สงคราม พี่สาวของผู้ตาย เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ผู้ตายเป็นหนุ่มใหญ่ไม่มีครอบครัว มารับจ้างเลี้ยงวัวที่สวนดังกล่าว วานนี้ตอนเย็นผู้ตายยังขับรถเข้าไปหาซื้อของกินพวกไข่ไก่กับข้าวเย็นยังเอามาฝากให้แล้วก็ขับออกไป แม่ไม่รู้ว่ามันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น แต่การกระทำดังกล่าวมองว่าเกินกว่าเหตุมาก ทำร้ายกันถึงตาย หากจะต่อยตีเพื่อสั่งเพื่อสอนก็ไม่มีใครว่าอะไร เพราะทางครอบครัวก็รู้ว่า น้องชายเวลาเมาก็จะพูดเสียงดัง แต่ไม่เคยทำร้ายใคร อยากให้ตำรวจติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุให้ได้ อยากเห็นหน้าคนที่ทำน้องชาย ลากร่างมาทิ้งเหมือนหมูเหมือนหมา

ด้าน นางแอ็ด อุปกิจ น้องสาวของผู้ตาย ช่วงเวลา 17.00 น. ได้พากันมาเก็บข้าวของ ของผู้ตาย โดยได้พูดอันเชิญดวงวิญญาญของน้องชายว่า ให้กลับบ้านเราไปอยู่กับพ่อกับแม่ดีกว่า อย่าอยู่ตรงนี้อยู่ตรงที่คนใจร้ายมาทำร้ายจนตาย พร้อมบอกให้ดวงวิญญาณของน้องไปติดตามตัวผู้กะทำผิดมาลงโทษให้ได้

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ