โพสต์โวยพวกไม่มีหัวคิด หลังเก๋งขาวจอดขวางหน้าบ้านนานนับชั่วโมง แถมยังล็อกเบรกมืออีก เข้าออกลำบาก สุดท้ายต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

อีกปัญหาที่ยังคงเกิดขึ้นเรื่อยๆ คือการจอดรถขวางทางเข้าออกบ้านคนอื่น แม้จะผิดกฎหมาย แต่ก็ยังพบปัญหานี้อยู่บ่อยครั้ง บางคันจอดนานจนสร้างความเดือดร้อนให้แก่เจ้าของบ้านที่เข้า-ออก ลำบาก หลายคนแก้ปัญหาโดยติดป้ายห้ามจอด แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเมื่อไม่นานมานี้บางรายเรียกรถยกมายกรถที่จอดขวางทางออกเองเลย

ล่าสุดมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์เมื่อ ( 16 ธ.ค. 65 ) หลังประสบปัญหาดังกล่าว เข้าออกบ้านแทบไม่ได้ เพราะรถยนต์จอดขวางนานนับชั่วโมง แถมยังล็อกเบรกมือไว้อีกด้วย จนต้องเขียนข้อความใส่กระดาษติดกระจกรถว่า “จอดรถบังประตูขนาดนี้ ไม่ทราบว่าไม่คิดถึงคนจะเข้าบ้านเลยเหรอไงคะ?” เจ้าของโพสต์ระบุว่า “เบื่อพวกไม่มีหัวคิด แค่จะเดินเข้าบ้านยังเข้าแทบจะไม่ได้ คิดได้ยังไง” ต่อมาเจ้าของโพสต์ได้แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่แล้ว โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ จ.เชียงใหม่

สำหรับจอดรถกีดขวางทางเข้า-ออกหน้าบ้าน หรือไม่ขวางหน้าบ้านแต่ทำให้ผู้อื่นสัญจรไม่สะดวก ผิดกฎหมาย ผู้ขับขี่รถยนต์ไม่มีสิทธิที่จะจอดรถขวางทางเข้า-ออกบ้านผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นพื้นที่เอกชน หรือ ทางสาธารณะ เพราะถือเป็นความผิด ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 55 วรรคหนึ่ง

นอกจากนี้ยังเป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 397 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท และถ้าการกระทำความผิดดังกล่าวเป็นการกระทำในที่สาธารณสถานหรือต่อหน้าธารกำนัล ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 397 วรรคสอง โดยผู้ที่ได้รับความเสียหายจากกรณีนี้ สามารถร้องทุกข์ดำเนินคดีได้

รวมทั้งสามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายละเมิดในทางแพ่งได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 และถ้าเป็นที่สาธารณะยังมีโทษตาม พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่สามารถออกใบสั่งและยกรถได้ ทั้งนี้ หากมีความเสียหายหรือทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ประชาชนมีสิทธิแจ้งความร้องทุกข์ด้วย

ส่วนกรณีที่มีเหตุจําเป็นเพื่อจะป้องกันสิทธิของตนหรือของบุคคลภายนอกจากภยันตรายอันมีมาโดยฉุกเฉิน ไม่สามารถขอความขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐได้ สามารถเคลื่อนย้ายรถด้วยกําลังได้ ถึงแม้จะเป็นการทำให้ทรัพย์นั้นบุบสลาย หรือทำลายทรัพย์นั้น โดยไม่ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหาย หากว่าความเสียหายนั้นไม่เกินสมควรแก่เหตุ เพราะเป็นข้อยกเว้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 450