หญิงชาวไทยและแฟนหนุ่มชาวสหรัฐ ออกมาเรียกร้องเป็นครั้งแรกหลังจากพวกตนและสัตว์เลี้ยงถูกทำร้ายจากครอบครัวหนึ่ง ที่ทำให้พอนซุ แมวของทั้งคู่ตาย เมื่อต้นเดือน

ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ChaRee Pim โพสต์เรื่องราวดังกล่าวลงบนเฟซบุ๊กเมื่อวันจันทร์ (19 เม.ย.) ระบุว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นกับคนไทยและเป็นเรื่องที่โหดร้ายมาก

ผู้โพสต์เล่าว่า รุ้ง หญิงไทยคนดังกล่าวและแฟนหนุ่มนำสุนัขและแมวอีก 2 ตัวมาเดินเล่นเมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งในย่านบรูกลิน นครนิวยอร์ก จากนั้นก็มีเด็กชายคนหนึ่งอายุราว 12 ปี เดินเข้าไปหาพวกตนและกระชากสายจูงแล้วรั้งสายจูงขึ้นทำให้แมวปลิวขึ้นไปบนอากาศแล้วตกลงมาอย่างแรง แมวพยายามหนีออกมา แต่เด็กคนนั้นเหยียบสายจูงเอาไว้

“แมวรุ้งตะเกียกตะกายอยู่บนพื้น รุ้งรีบหันกลับไปมองเด็กคนนั้นทันทีแทนที่จะหยุดแต่เด็กกลับวิ่งลากเอาสายจูงแมวติดไปด้วยอีก 3-4 ก้าว พอนซุ(ชื่อแมว) พยายามดิ้นกระชากออกจากสายจูงจนหลุด แล้ววิ่งหนีไปด้วยความตื่นตกใจสุดขีด โรคหัวใจของพอนซุที่เป็นอยู่ได้กำเริบขึ้นทันที” ผู้โพสต์ เล่า

“พอรุ้งตั้งสติได้ก็รีบวิ่งไปจับเอาพอนซุเอามากอดไว้ที่อกให้แน่น ทำให้พอนซุข่วนรุ้งตามแขน เพราะความที่แมวกลัวสุดขีดแล้วต้องการมีชีวิตรอด รุ้งพยายามปลอบพอนซุแล้วก็สังเกตุเห็นเลือดที่ขาขวาหลังของพอนซุ พอตรวจดูก็เห็นว่าเล็บของแมวหลุดออกไปหมดทั้ง 5 นิ้ว คงเพราะแรงกระชากที่เด็กคนนั้นวิ่งไป”

เหตุนี้ทำให้รุ้งหันไปหาเด็กคนนั้นและถามว่า เมื่อกี๊ทำอะไรลงไป เด็กคนนั้นจึงวิ่งไปหาครอบครัวที่มาด้วยกัน 8 คน แล้วแม่เด็กก็ตะโกนต่อว่าทั้งคู่ด้วยถ้อยคำรุนแรงว่า รุ้งและแฟนต่างหากที่ผิดที่เอาแมวมาเดินเล่น จึงต้องโดนแบบนี้ จากนั้นครอบครัวดังกล่าวก็เข้ามาทำร้ายร่างกายทั้งคู่และสัตว์เลี้ยง แต่ก็แยกย้ายขนรถหนีไปก่อนตำรวจมาถึง

ตำรวจบ่ายเบี่ยงทำคดี

ผู้โพสต์เผยต่อไปว่า ตำรวจไม่กระตือรือร้นที่จะทำคดีนี้ ตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเปลี่ยนนักสืบไปแล้ว 3 คน และคนล่าสุดก็ไม่ฟังความของรุ้งเลย ทั้งยังป้ายความผิดมาให้รุ้งด้วย โดยบอกว่าสาเหตุที่โดนรุมกระทืบเพราะไปตีเด็กคนนั้นก่อน และแทนที่จะทะเลาะกันทำไมถึงไม่เดินกลับบ้านไป ทั้งยังบอกให้รุ้งหยุดบอกว่าแมวเป็นลูกของเธอ เพราะเป็นแค่สัตว์เลี้ยง รุ้งไม่ได้ให้กำเนิดแมวมาจริงๆ

ด้านร้อยตำรวจเอก แคธลีน อี ฟาเฮย์ จากหน่วยตำรวจนิวยอร์กที่ 94 เผยกับเว็บไซต์กรีนพอยเตอร์ส ว่าคดีนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน และเรียกร้องให้ผู้ที่มีหลักฐานติดต่อกับตำรวจ

ขณะเดียวกันในโลกออนไลน์ ก็มีการติดแฮชแท็ก #JusticeForPonzu เพื่อช่วยเรียกร้องความยุติธรรมให้แมวและครอบครัวของรุ้งอีกด้วย