โลกร้อนไวสุดช่วง2.4หมื่นปี นักวิทย์เผยผลวิจัยภูมิอากาศตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง
โลกร้อนไวสุดช่วง2.4หมื่นปี – วันที่ 11 พ.ย. เว็บไซต์PHYS.ORGรายงานว่า คณะนักวิจัยจากประเทศสหรัฐอเมริกา เผยผลวิจัยใหม่พบอัตราการเพิ่มของค่าเฉลี่ยอุณหภูมิโลกช่วง 150 ปีที่ผ่านมา สูงยิ่งกว่าตลอดช่วง 24,000 ปีที่ผ่านมา หรือตั้งแต่สิ้นสุดยุคน้ำแข็ง
รายงานระบุว่า ปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง หรือโลกร้อน กำลังเป็นวิกฤตร้ายแรงที่มนุษยชาติใกล้หมดเวลาแก้ไขตามที่นักวิทยาศาสตร์กำหนดเกณฑ์ไว้ว่าต้องไม่ให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นเกิน 1.5 ถึง 2 องศาเซลเซียส
ข้อมูลล่าสุดมาจากคณะนักวิจัยมหาวิทยาลัยรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐฯ ที่จัดทำโมเดลจำลองพัฒนาการของสภาพภูมิอากาศบนโลกตั้งแต่ยุคน้ำแข็งครั้งล่าสุด หรือสมัยไพลสโตซีน (2,588,000-11,700 ปีก่อน)
โมเดลจำลองดังกล่าวยืนยันข้อเท็จจริงของปัญหาโลกร้อนในปัจจุบัน ว่าความรุนแรงนั้นแปรผันตามปริมาณความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจก และแปรผกผันกับปริมาณการลดลงของแผ่นน้ำแข็งบนโลก
ข้อมูลแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศตลอดระยะเวลา 1 หมื่นปีที่ผ่านมา โดยนักวิจัยพบว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของค่าเฉลี่ยอุณหภูมิโลกของช่วง 150 ปีที่ผ่านมานั้นสูงกว่าตลอดช่วง 24,000 ปีที่ผ่านมาอย่างชัดเจน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ เจสซิกา เทียร์นีย์ ผู้เชี่ยวชาญทางธรณีวิทยาจากม.รัฐแอริโซนา กล่าวว่า ข้อมูลบ่งชี้ว่าอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นของโลกหลังยุคน้ำแข็งครั้งล่าสุดนั้นสูงมาก โดยการเพิ่มขึ้นจากน้ำมือของมนุษย์นั้นเป็นสาเหตุที่มีผลมากที่สุด
นายแมทธิว ออสมัน นักศึกษาปริญญาเอก หนึ่งในคณะนักวิจัย ระบุว่า ข้อเท็จจริงที่น่าตกใจนี้ยังไม่น่าตื่นตะลึงเท่ากับท่าทีของมนุษย์บนโลกจำนวนมากที่ยังไม่รู้ร้อนรู้หนาว เพราะคิดว่าเป็นเรื่องปกติ หรือแม้กระทั่งเรื่องลวงโลก
ทั้งนี้ การเปิดเผยดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางการประชุมสมัชชาภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 26 (COP26) ที่นครกลาสโกว์ สกอตแลนด์ สหราชอาณาจักร ซึ่งนักต่อต้านโลกร้อนหลายคนโจมตี ว่าผลที่ออกมายังไร้รูปธรรมชัดเจน