สมาคมดาราศาสตร์ไทย เผย ในปีนี้ 2567 จะมี “สุริยุปราคา” และ “จันทรุปราคา” เกิดขึ้นอย่างละ 2 ครั้ง โดยทั้งหมดไม่สามารถสังเกตได้จากประเทศไทย
สุริยุปราคาเต็มดวง 8-9 เมษายน 2567
การเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงที่ดวงจันทร์มีขนาดปรากฏใหญ่กว่าดวงอาทิตย์จนสามารถบดบังดวงอาทิตย์ได้มิดหมดทั้งดวง สังเกตเห็นได้ภายในแนวเส้นทางแคบ ๆ เริ่มในมหาสมุทรแปซิฟิก แล้วผ่านประเทศเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา แคนาดา และตอนเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก
จุดที่เห็น “สุริยุปราคาเต็มดวง” นานที่สุดอยู่ในทะเล เกิดขึ้นเวลา 01.17 น. ของวันที่ 9 เมษายน ตามเวลาไทย (ยังเป็นวันที่ 8 เมษายน ตามเวลาท้องถิ่น) คราสเต็มดวงนาน 4 นาที 28 วินาที
ดวงจันทร์มีขนาดปรากฏใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ 1.3% และเงามืดบนผิวโลกมีความกว้างราว 197 กิโลเมตร หลายรัฐของสหรัฐอเมริกาอยู่ในแนวคราสเต็มดวง ได้แก่ เท็กซัส โอคลาโฮมา อาร์คันซอ อิลลินอย อินดีแอนา เคนทักกี โอไฮโอ เพนซิลเวเนีย นิวยอร์ก เวอร์มอนต์ นิวแฮมป์เชอร์ และเมน
แนวคราสเต็มดวงเคลื่อนผ่านทะเลสาบอีรีและทะเลสาบออนแทรีโอซึ่งอยู่ในแนวพรมแดนระหว่างสหรัฐอเมริกากับแคนาดาและผ่านด้านตะวันออกของแคนาดา ได้แก่ พื้นที่บางส่วนของรัฐออนแทรีโอ ควิเบก นิวบรันสวิก ส่วนเล็ก ๆ ของโนวาสโกเชีย พรินซ์เอดเวิร์ดไอแลนด์ รวมถึงรัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ เมืองโทรอนโตและออตตาวาอยู่นอกเขตเงามืด จึงเห็นเป็น “สุริยุปราคาบางส่วน” ที่ดวงอาทิตย์เหลือเสี้ยวบาง ๆ แต่มอนทรีออลเห็นสุริยุปราคาเต็มดวงได้นาน 1 นาที
บริเวณที่เห็น “สุริยุปราคาบางส่วน” ครอบคลุมด้านตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิก เกือบทั้งหมดของทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกากลาง ตอนเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก รวมทั้งพื้นที่ส่วนน้อยทางตะวันตกเฉียงเหนือของยุโรป
วันที่เกิดสุริยุปราคาเป็นช่วงที่ดาวหาง 12พี/ปงส์-บรุกส์ (12P/Pons-Brooks) ผ่านใกล้ดวงอาทิตย์ ผู้ที่อยู่ในแนวสุริยุปราคาเต็มดวงมีโอกาสจะสังเกตดาวหางดวงนี้ได้ด้วยกล้องสองตา หรือถ่ายภาพ “สุริยุปราคาเต็มดวง” โดยมีดาวหางอยู่ในภาพ (ดาวหางอยู่ห่างดวงอาทิตย์ 25°) คาดว่า อาจมีโชติมาตรประมาณ 4-5
อย่างไรก็ตาม หากอยู่ในแนวคราสเต็มดวง ไม่แนะนำให้มองหาดาวหางเพราะการดูสุริยุปราคาเต็มดวงในเวลาที่จำกัด ย่อมสำคัญกว่าดาวหางที่ไม่ค่อยสว่างนัก ดาวหางดวงนี้เป็นดาวหางรายคาบที่เข้ามาใกล้ดวงอาทิตย์เฉลี่ยทุกประมาณ 71 ปี การกลับมาในคราวนี้สังเกตได้ไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากขณะสว่างที่สุด ดาวหางอยู่ห่างจากโลก และมีตำแหน่งปรากฏอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์
จันทรุปราคาเงามัว 25 มีนาคม 2567
วันที่ 25 มีนาคม 2567 เกิดจันทรุปราคาเงามัว บริเวณที่เห็นจันทรุปราคาครั้งนี้ ได้แก่ ทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ ดวงจันทร์ผ่านเข้าไปในเงามัวเท่านั้นโดยไม่ผ่านเงามืด ทำให้ดวงจันทร์เต็มดวงมีความสว่างลดลงเพียงเล็กน้อย ดวงจันทร์เริ่มเข้าสู่เงามัวของโลกเวลา 11:53 น. บังลึกที่สุดเวลา 14:13 น. (ขนาดอุปราคาเงามัว = 0.9575) และดวงจันทร์พ้นจากเงามัวของโลกเวลา 16:33 น.
จันทรุปราคาบางส่วน 18 กันยายน 2567
วันที่ 18 กันยายน 2567 เกิดจันทรุปราคาบางส่วน สังเกตได้ในทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ยุโรป และแอฟริกา ขณะบังลึกที่สุด เงามืดของโลกบังดวงจันทร์ประมาณ 9% เมื่อวัดตามแนวเส้นผ่านศูนย์กลาง ดวงจันทร์เริ่มเข้าสู่เงามัวของโลกเวลา 07:41 น. เริ่มเกิดจันทรุปราคาบางส่วนเวลา 09:13 น. เข้าไปในเงาลึกที่สุดเวลา 09:44 น. (ขนาดอุปราคาเงามืด = 0.0868) สิ้นสุดจันทรุปราคาบางส่วนเวลา 10:16 น. และดวงจันทร์พ้นจากเงามัวของโลกเวลา 11:48 น.
สุริยุปราคาวงแหวน 2-3 ตุลาคม 2567
วันที่ 2 ตุลาคม 2567 เกิดสุริยุปราคาวงแหวน เป็นช่วงที่ดวงจันทร์อยู่ห่างโลกจนมีขนาดปรากฏเล็กกว่าดวงอาทิตย์ แนวคราสวงแหวนครั้งนี้ส่วนใหญ่อยู่ในมหาสมุทร แผ่นดินที่เห็นสุริยุปราคาวงแหวนคือตอนใต้ของประเทศเปรูและอาร์เจนตินาในทวีปอเมริกาใต้
ที่กึ่งกลางคราสเกิดสุริยุปราคาวงแหวนนาน 7 นาที 25 วินาที เงาคราสวงแหวนกว้างราว 267 กิโลเมตร ดวงจันทร์มีเส้นผ่านศูนย์กลางปรากฏ 95.2% ของดวงอาทิตย์ แนวคราสวงแหวนผ่านเกาะอีสเตอร์ (ดินแดนปกครองของประเทศชิลี) เกิดสุริยุปราคาวงแหวนนานประมาณ 6 นาที บริเวณที่เห็นสุริยุปราคาบางส่วน ได้แก่ ส่วนใหญ่ของมหาสมุทรแปซิฟิก ทางใต้ของทวีปอเมริกาใต้ บางส่วนของแอนตาร์กติกา รวมทั้งส่วนเล็ก ๆ ของเม็กซิโก
สุริยุปราคาในประเทศไทย
ปรากฏการณ์สุริยุปราคาแบบบางส่วนครั้งถัดไปในประเทศไทยนั้น จะปรากฏให้เห็นอีกครั้ง ก็ในวันที่ 2 สิงหาคม 2570 คนไทยจะเห็นได้ทั่วประเทศ
ส่วน สุริยุปราคาวงแหวนครั้งถัดไป ในประเทศไทย จะเห็นได้ดังนี้
- 21 พฤษภาคม 2574 ผ่านภาคใต้ตอนล่าง สตูล ยะลา นราธิวาส
- 14 ตุลาคม 2585 ผ่านภาคใต้ตอนล่าง ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง สตูล นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ยะลา
ขณะที่ สุริยุปราคาเต็มดวง ครั้งถัดไป ในประเทศไทย จะเกิดขึ้นในวันที่ 11 เมษายน 2613 หรืออีก 46 ปีข้างหน้า ผ่าน อ.บางสะพานน้อย ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และ ตราด (เกาะช้าง)