โรม โวย ให้เวลาซักฟอกน้อยเกิน ท้า ถ้ามั่นใจจะชี้แจงก็เพิ่มวันอภิปราย เตือน ส.ส.คิดให้ดีอุ้ม บิ๊กตู่ อาจกลับมาสภาไม่ได้อีก เย้ย ถึงเวลาโยนทิ้งน้ำ

เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2565 นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กำหนดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.-22 ก.ค. รวม 4 วัน ไม่รวมวันลงมติ ว่า ตนคิดว่ารอบนี้เป็นรอบสุดท้ายของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เนื่องจากจะครบวาระ 4 ปีของรัฐบาลชุดนี้ ถือว่าเป็นการอภิปรายครั้งที่ใหญ่ที่สุด ดังนั้น การให้เวลาเท่าเดิม เป็นเรื่องที่น่าเสียดายเพราะเวลาอาจไม่เพียงพอ และไม่สามารถอภิปรายครอบคลุมในทุกประเด็น

นายรังสิมันต์ กล่าว คนที่เป็นนายกฯ ควรใจกว้าง และที่อ้างเรื่องการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ความจริงสามารถประชุมก่อนหน้านั้นได้ ไม่จำเป็นจะต้องประชุมวันที่ 18 ก.ค. ควรจะให้ฝ่ายค้านได้ใช้เวลาอย่างเต็มที่ในการตรวจสอบ และรัฐบาลก็จะได้มีเวลาในการอธิบายถึงข้อกล่าวหาต่างๆ ของฝ่ายค้าน ซึ่งจะเป็นการดีกับทุกฝ่าย และที่สำคัญจะดีที่สุดสำหรับประชาชนที่จะได้ทราบข้อมูลต่างๆ

เมื่อถามถึงกรณีรัฐมนตรีบางคนแสดงความเห็นว่าการอภิปรายไม่ควรเกิน 4 วัน นายรังสิมันต์ กล่าวว่า คนที่ถูกอภิปรายก็ต้องการให้การอภิปรายสั้นที่สุด หรือทางดีที่สุดคือไม่ต้องอภิปรายเลย แต่มันคือการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน ควรให้ฝ่ายค้านได้พูดให้มากที่สุด ไม่ควรจะมาบอกว่าฝ่ายค้านควรทำอะไร ถ้าไม่อย่างนั้นรอบหน้าก็ให้มาทำหน้าที่ฝ่ายค้านเองคงจะดีกว่า

เมื่อถามว่า นายกฯ ยืนยันจะเป็นคนชี้แจงและตอบคำถามด้วยตัวเอง ขณะนี้ได้ทำการบ้านอยู่ และประเมินจากข้อมูลของฝ่ายค้านคาดว่าน่าจะเป็นเรื่องเดิม นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เขาก็พูดอย่างนั้นทุกครั้ง แต่พอถึงหน้างานก็หน้าชา หน้าสั่น เป็นอย่างนั้นตลอดเวลา ก่อนที่จะพูดว่าจะตอบคำถามด้วยตัวเอง ควรมาตอบกระทู้สดของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เสียก่อน

“ถ้านายกฯ มั่นใจมากในเรื่องการชี้แจง ข้อพิสูจน์ความมั่นใจของตัวนายกฯ คือการเปิดให้ฝ่ายค้านได้มีเวลาในการอภิปรายอย่างเต็มที่ เท่านี้ก็ถือว่าเป็นข้อพิสูจน์แล้ว ถ้าท่านมั่นใจก็เปิดให้อภิปรายเลย ไม่ต้องมาบลัฟ ไม่ต้องมาพูดออกสื่อในลักษณะนี้ ผมคิดว่าจะเป็นประโยชน์แก่ประชาชนมากกว่า” นายรังสิมันต์ กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีนายกฯ กำชับให้พรรคร่วมรัฐบาลลงมติในทิศทางเดียวกัน นายรังสิมันต์ กล่าวว่า นายกฯ ไม่ควรกำชับแบบนั้น อยากให้ส.ส.แต่ละท่านคิดให้ดีในรอบนี้ ประชาชนผิดหวังกับการบริหารเศรษฐกิจและการบริหารราชการแผ่นดินของพล.อ.ประยุทธ์ หากพรรคการเมืองต่างๆ ยังคงอุ้ม พล.อ.ประยุทธ์ การอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งถัดไปจะทำโดยประชาชน ผลที่จะเกิดขึ้นอาจจะทำให้ส.ส.ส่วนหนึ่งที่ไปอุ้มพล.อ.ประยุทธ์ อาจจะไม่สามารถเข้ามาสภาได้อีก ดังนั้น คิดให้ดีถ้าจะอุ้มพล.อ.ประยุทธ์ในเวลานี้ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ในตอนนี้เหมือนโลงศพที่น้ำหนักเยอะ บางทีถึงเวลาโยนทิ้งน้ำได้แล้ว

เมื่อถามว่า จากการอภิปรายครั้งที่ผ่านมาผู้ถูกอภิปรายในลำดับท้ายจะถูกอภิปรายน้อยมาก จะแก้ไขอย่างไรเพื่อให้การอภิปรายรัฐมนตรีแต่ละคนใช้เวลาเท่ากัน นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ส่วนใหญ่จะให้น้ำหนักไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ เนื่องจากเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจและเป็นผู้บังคัญบัญชาสูงสุด ซึ่งหลายเรื่องมีความเกี่ยวพันกัน ทั้งนี้ ยืนยันว่าพวกเราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ปริมาณก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ที่สำคัญที่สุดคือคุณภาพ