รังสิมันต์ จี้ บิ๊กตู่ ลาออก เปิดทางเลือกนายกฯ ที่เหมาะสม เหน็บ‘มีชัย’มี 2 ร่าง ข้องใจเอกสารเป็นของจริงหรือไม่ ห่วงชี้นำ หวังโยนหินถามทางกระแสสังคม
เมื่อวันที่ 7 ก.ย.2565 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล แถลงถึงกรณีปรากฎเอกสารที่อ้างเป็นความเห็นของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่ให้ความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ว่า หากเอกสารดังกล่าวเป็นฉบับจริง หมายความว่าอาจมีนายมีชัย 2 คนในเวลานี้
คนเก่าคือในฐานะประธาน กรธ. ที่มีความเห็นอีกอย่างหนึ่ง และอีกคนคือ คนที่ให้ความเห็นตามที่มีเอกสารหลุด ซึ่งตนเห็นด้วยกับนายมีชัยคนเก่า และยืนยันว่าหากจะนับในเรื่อง 8 ปีพล.อ.ประยุทธ์ จำเป็นต้องนับต่อเนื่องกัน โดยตัวบทเฉพาะกาลได้เขียนไว้ชัดเจน ว่าการนับระยะเวลาก่อนที่รัฐธรรมนูญ 60 บังคับใช้นั้น หมายความว่าจะต้องนับคณะรัฐมนตรีก่อนรัฐธรรมนูญปี 60 ต่อเนื่องกันมาถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังมีเอกสารบันทึกเอกสารการประชุมของกรธ.ครั้งที่ 501 ซึ่งมีความชัดเจนว่ากรธ.รับรองการประชุมครั้งที่ 500 ดังนั้น หากเอกสารที่นายมีชัย ส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญที่ระบุการจดชวเลขมีความคลาดเคลื่อน แสดงว่า เอกสารบันทึกการประชุมในครั้งนั้น มีน้ำหนักไม่มาก เพราะจะถูกหักล้างโดยเอกสารคำชี้แจงที่อ้างของนายมีชัย
“ถึงที่สุดความเห็นเจตนารมณ์ของกฎหมายมีความชัดเจน และคำพูดใดๆ ในที่ประชุมกรธ. มันได้เป็นนายไปแล้ว และสะท้อนเจตนารมณ์บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญเรื่อง 8 ปีว่าจะต้องตีความอย่างไร ซึ่งการตีความอื่นๆ ของนายมีชัย ไม่สามารถรับฟังได้โดยหลักการ” นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ถ้าเราตีความให้พล.อ.ประยุทธ์ ต้องนับวันแรกของการเป็นนายกฯ คือ 6 เม.ย. 60 เรากำลังตีความขัดแย้งต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนคิดว่าวิกฤตทางการเมืองต่อไปจะเกิดขึ้นจากตรงนี้ ไม่ใช่เกิดขึ้นจากการตีความว่าพล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งนายกฯ มาตั้งแต่ปี 57 และหวังว่าการให้ความเห็นนี้จะเป็นประโยชน์ และผู้มีอำนาจที่วินิจฉัยในเรื่องนี้จะรับฟังและนำไปสู่การตีความที่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญทั้งหมด
“เอกสารหลุดอาจเป็นการโยนหินถามทาง และอาจต้องมองในมิติทางการเมืองเรื่องความสัมพันธ์ภายในรัฐบาล ซึ่งเอกสารที่หลุดมานั้น อาจเป็นการให้กำลังใจและความมั่นใจกับองคาพยพของพล.อ.ประยุทธ์ ว่าอาจจะได้กลับมามีอำนาจเป็นนายกฯ ต่อ” นายรังสิมันต์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ย้ำว่าเรายังไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่าเอกสารฉบับนั้น จะเป็นเอกสารของนายมีชัย จริงหรือไม่ ซึ่งอาจจะเป็นเอกสารที่ใครทำมาก็ได้ แต่หากเป็นเอกสารจริง ก็ไม่สอดคล้องกับที่นายมีชัย เคยให้ความเห็นไว้ในที่ประชุมกรธ.
เมื่อถามว่าหากเอกสารดังกล่าวเป็นจริง นายรังสิมันต์ กล่าวว่า อาจเป็นการชี้นำได้ หลังจากเอกสารดังกล่าวหลุดออกมา ตนกังวลใจว่า แนวทางการตีความของศาล จะเปลี่ยนไป เพราะตอนแรก เชื่อว่าเป็นเรื่องที่ไม่ได้ซับซ้อน แต่เมื่อมีความเห็นของนายมีชัย จึงรู้สึกว่า มีโอกาสที่ธงจะเปลี่ยนไป ดังนั้น หากการวินิจฉัยออกมาแตกต่างจากคำสั่งชั่วคราวที่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ตนคิดว่าศาลต้องมีคำอธิบายต่อเรื่องดังกล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่สังคมอยากเห็นคือ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก จากนั้นเปิดทางให้สภาผู้แทนราษฎรเลือกนายกฯ คนใหม่ ซึ่งอยู่บนเงื่อนไขของการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะปิดสวิตช์ส.ว. เลือกนายกฯ รวมถึงการคืนอำนาจเลือกนายกฯ กลับสู่ประชาชนผ่านสภา เตรียมสู่การเลือกตั้งต่อไป
“พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกดีกว่า ท่านอยู่มานานพอแล้ว เป็นนายกฯ ได้มาทุกอย่างแล้ว 8 ปี เป็นเรื่องมหัศจรรย์แล้ว ดังนั้น ถึงเวลา พอได้แล้ว เพื่อเปิดทางให้สภาเลือกนายกฯ ที่มีความเหมาะสมที่ยึดโยงกับประชาชน” นายรังสิมันต์ กล่าว