‘โรม’ เผยเตรียมมาตราการรักษาความปลอดภัย วันปราศรัยใหญ่ เวทีเดียวกับ พลังประชารัฐ ย้ำทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง
วันที่ 10 พ.ค.2566 นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ ถึง การปราศรัยใหญ่ของพรรคก้าวไกลในวันที่ 12 พ.ค.ว่า แกนนำหลักของพรรคจะขึ้นปราศรัยโดยพร้อมเพรียงกัน นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล และแน่นอนว่าผู้ช่วยหาเสียงคนสำคัญของพรรคก้าวไกลก็จะได้เจอแน่นอน
ส่วนจะเป็นใครบ้างอยากให้ติดตามในวันนั้นเลย ซึ่งจะเป็นเวทีที่เราเน้นย้ำความมั่นใจ และแสดงให้ประชาชนเห็นว่าเรากำลังจะพาประเทศไปทางไหนซึ่งมากหลายประเด็น แต่เราอยากให้ประชาชนมั่นใจว่าพรรคก้าวไกลมีความพร้อมในการเป็นรัฐบาล และเราอยากให้วันที่ 14 พ.ค.นี้เป็นวันที่เราจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ทำในสิ่งที่พรรคการเมืองหลายๆพรรคไม่กล้าที่จะทำมาก่อน
เมื่อถามว่าจะมีการปล่อยหมัดเด็ดหรือไม่เนื่องเป็นเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ทุกนาทีของการเดินทางของพรรคก้าวไกลเป็นหมัดเด็ดอยู่แล้ว สิ่งที่เราทำในรื่องของความชัดเจน จุดยืน คือสิ่งที่ทำให้สังคมไทยต้องมาพิจารณาพรรคก้าวไกลอย่างจริงจัง เราไม่ใช่พรรคทางเลือกแต่จะเป็นพรรคหลักที่จะทำให้สังคมนี้เปลี่ยน ดังนั้นเราก็จะเดินหน้าต่อไปแบบนี้ และนี้คือหมัดเด็ดของเรา
เมื่อถามว่าคาดการณ์ว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมฟังการปราศรัยเท่าไหร่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า คาดการณ์ลำบากเพราะพรรคก้าวไกลไม่มีการจัดตั้ง ทุกอย่างเป็นออแกนิคขึ้นอยู่กับประชาชน ว่าจะตัดสินใจมาหนือไม่ แต่เราเตรียมสถานที่เอาไว้หลักหมื่นคน หากประชาชนมามากเราเชื่อว่าสถาที่น่าจะเพียงพอ แต่ถ้าเยอะกว่านั้นก็อาจจะลำบากนิดหน่อย แต่เราคิดว่าเราเตรียมการดีพอสมควร เพื่อให้ประชาชนที่มาร่วมสามารถที่จะรับฟังวิสัยทัศน์ สิ่งที่เราจะนำเสนอผ่านการปราศรัยในเวทีนี้ได้
- จับตา บิ๊กป้อม ปล่อยของ ปราศรัยใหญ่ศุกร์นี้ เชื่อไม่ชนเวทีก้าวไกล เวลาเหลื่อมกัน
เมื่อถามว่ามีความกังวลหรือไม่ ที่สถานที่จัดเวทีปราศรัย เป็นสถานที่เดียวกับการจัดปราศรัยของพรรคพลังประชารัฐ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ถ้ามองในด้านความปลอดภัย ก็ต้องมีมาตราการที่ทำยังไงให้ไม่เกิดอุบัติเหตุ หรือสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด ต้องเข้าใจว่าอากาศประเทศไทยร้อน และความคิดทางการเมืองของทั้ง 2 พรรคก็ไม่ตรงกัน
ดังนั้นต้องมีมาตราการรักษาความปลอดภัย แต่ตนเชื่อว่าคงไม่มีอะไรรุนแรงเกิดขึ้น สุดท้ายพรรคก้าวไกลก็ไม่อยากให้มีความรุนแรง เราต้องทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงใดๆ ระหว่างประชาชนที่มาร่วมรับฟัง และคิดว่าทุกอย่างน่าจะเรียบร้อยดี
“ในวันที่ 12 พ.ค.2566 นี้ จะเป็นวันสำคัญ เป็นการปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้ายของพรรคก้าวไกล เป็นการปราศรัยที่จะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงของประเทศไทย เราจะมาหาคำตอบสุดท้าย ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดง บริเวณอาคารกีฬาเวสน์1 และเรายังมีโซน outdoor ที่จะเป็นสนามฟุตบอลข้างสระว่ายน้ำ โดยจะเริ่มเปิดประตูตั้งแต่เวลา 16.00น. และเริ่มปราศรัยเวลา 18.00น. แล้วพบกันครับ หาคำตอบสุดท้ายของประเทศไทยไปด้วยกัน” นายรังสิมันต์กล่าว