สพฐ.–ไทยฮอนด้า วิ่ง 31 ขา สามัคคี ปีที่ 18 รอบชิงฯ สุดมัน โรงเรียนบ้านริมใต้ จ.เชียงใหม่ คว้าแชมป์ 3 สมัยต่อเนื่อง! พร้อมครองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ระเบิดศึกความสามัคคี เค้นฝีเท้า “สพฐ.–ไทยฮอนด้า วิ่ง 31 ขา สามัคคี ปีที่ 18” ภายใต้แนวคิด “กล้า ก้าว สามัคคี” รอบชิงชนะเลิศ! 20 ทีมตัวแทนจากทั่วประเทศร่วมชิงชัย โดยแชมป์ตกเป็นของโรงเรียนบ้านริมใต้ จ.เชียงใหม่ ที่รวมใจเค้นฝีเท้าเข้าเส้นชัยด้วยความพร้อมเพรียงได้เร็วที่สุดด้วยเวลา 9.103 วินาที พร้อมครองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ผนึกกำลังร่วมกับ บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด จัดการแข่งขันวิ่ง 31 ขาสามัคคี “สพฐ.–ไทยฮอนด้า วิ่ง 31 ขา สามัคคี ปีที่ 18” รอบชิงแชมป์ประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “กล้า ก้าว สามัคคี” เฟ้นหาทีมเยาวชนระดับประถมศึกษาปีที่ 4-6 อายุระหว่าง 10-12 ปี ที่รวมพลังวิ่งด้วยความเร็วและความสามัคคีที่สุดเพียงหนึ่งเดียวจากทั่วประเทศ ครองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2565 ที่สนามฟุตบอล 1 การกีฬาแห่งประเทศไทย (หัวหมาก)
คุณธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า ขอแสดงความชื่นชมในความตั้งใจของทางบริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ที่ได้ตระหนักและได้มองเห็นความสำคัญของการจัดกิจกรรมการแข่งขัน สพฐ.-ไทยฮอนด้า วิ่ง 31 ขา สามัคคี ขึ้นในประเทศไทย ซึ่งกิจกรรมนี้ถือได้ว่าเป็นกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อเยาวชนของประเทศในการพัฒนาขีดความสามารถทางด้านกีฬา และที่สำคัญยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างความสามัคคีให้กับเยาวชน ซึ่งตรงกับนโยบายของทาง สพฐ. ผมเชื่อมั่นว่าการสนับสนุนกีฬาวิ่ง 31 ขา นี้ จะส่งเสริมให้นักเรียนได้ฝึกฝนทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ได้เรียนรู้ด้วยตนเองถึง การอดทน รู้แพ้ รู้ชนะ และหล่อหลอมความสามัคคีให้เกิดขึ้นในหมู่เยาวชนได้อย่างเป็นรูปธรรม
คุณสาวิตรี แก้วพวงงาม กรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า ภายใต้โครงการ ไทยฮอนด้าเพื่อสังคมไทย เรามีความตั้งใจที่จะสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ คืนสู่สังคมในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงการทำกิจกรรมเพื่อเยาวชน ดังเช่นการแข่งขัน สพฐ.-ไทยฮอนด้า วิ่ง 31 ขา สามัคคี ซึ่งเป็นกีฬาที่ช่วยเสริมสร้างทั้งร่างกาย จิตใจและความคิด ทำให้เยาวชนรู้จักความสามัคคี ความเสียสละ การทำงานเป็นทีม และสร้างภาวะความเป็นผู้นำ ซึ่งจะทำให้เด็กๆ เติบโตขึ้นเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่า เพื่อเป็นรากฐานไปสู่ความมั่นคงของประเทศชาติต่อไป โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีเยาวชนเข้าร่วมแข่งขันแล้วกว่า 470,000 คน และยังได้รับความสนใจจากโรงเรียนใหม่ๆ มากขึ้นในทุก ๆ ปี จนครั้งล่าสุดในปีนี้มีนักกีฬาที่ลงแข่งขันตั้งแต่รอบคัดเลือกในแต่ละจังหวัดรวมแล้ว 160 ทีม
ผลการแข่งขันปรากฏว่า ทีมแชมป์ตกเป็นของ รร.บ้านริมใต้ จ.เชียงใหม่ สนับสนุนโดย บริษัท นัติมอเตอร์ จำกัด ที่ทำเวลาได้ดีที่สุด 9.103 วินาที คว้าแชมป์ประเทศไทยไปครองเป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน ตามด้วยอันดับ 2 รร.ท่าปลาอนุสรณ์ 1 จ. อุตรดิตถ์ สนับสนุนโดย ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชูโชคชัย 1992 ทำเวลาได้ 9.173 วินาที และอันดับ 3 รร.อามานะศักดิ์ จ.ปัตตานี สนับสนุนโดย บริษัท อริยะมอเตอร์ (ปัตตานี) จำกัด เวลา 9.499 วินาที
สำหรับ กติกาการแข่งขัน แต่ละทีมต้องมีนักกีฬาตัวจริง 30 คน (หัวหน้าทีม 1 คน) นักกีฬาตัวสำรอง 4 คน และครูผู้ควบคุมการฝึกซ้อม 1-3 คน ซึ่งผู้เข้าแข่งขันทั้ง 30 คน จะผูกขาติดกัน แล้ววิ่งเป็นระยะทาง 50 เมตร โดยไม่ล้ม แต่ละทีมสามารถวิ่งได้ 2 ครั้ง และคณะกรรมการจะบันทึกเวลาครั้งที่ดีที่สุดของแต่ละทีม เพื่อหาผู้ชนะที่สามารถทำเวลาได้ดีที่สุดเพียงหนึ่งเดียว นอกจากนี้ยังมีรางวัลพิเศษให้แก่ทีมที่สามารถทำลายสถิติประเทศไทยที่สร้างขึ้นโดย ทีมโรงเรียนชลประทานผาแตก จ.เชียงใหม่ ด้วยสถิติ 8.53 วินาทีอีกด้วย ส่วนสถิติโลกที่ Guinness World Records บันทึกไว้เป็นของทีมโรงเรียนศิลปะป้องกันตัว เส้าหลิน ประเทศจีน เวลา 8.41 วินาที
ทั้งนี้ กีฬาวิ่ง 31 ขา สามัคคี มีจุดเริ่มต้นขึ้น ณ ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 โดยรูปแบบเกมกีฬาชนิดนี้ ถูกคิดค้นเพื่อท้าทายความสามารถ และสร้างประสบการณ์แห่งความสามัคคีให้กับนักเรียนโรงเรียนประถมศึกษาจนกลายเป็นกีฬายอดนิยมทั่วประเทศญี่ปุ่น ก่อนเข้าสู่ประเทศไทยครั้งแรกในปี พ.ศ. 2548 โดยกลุ่มบริษัทฮอนด้าในประเทศไทย เป็นผู้สนับสนุนหลักในการจัดการแข่งขัน พร้อมผนึกกำลังร่วมกันระหว่างคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กับ บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด และผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศ ได้ขยายการจัดการแข่งขันสู่ทีมโรงเรียนประถมศึกษาทั่วประเทศจนถึงปัจจุบัน เพื่อฝึกฝนให้เยาวชนไทยได้รู้จักการเล่นกีฬาร่วมกันเป็นทีม มีความอดทน มุ่งมั่น สามัคคี รวมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อพัฒนาศักยภาพของตนเองสู่การเป็นผู้นำในอนาคตมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 18 ปี