โม ฟาราห์ เผยตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ – ถูกย้ายมาใช้แรงงานในอังกฤษ

Home » โม ฟาราห์ เผยตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ – ถูกย้ายมาใช้แรงงานในอังกฤษ


โม ฟาราห์ เผยตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ – ถูกย้ายมาใช้แรงงานในอังกฤษ

โม ฟาราห์ ยอดนักวิ่งระยะไกลแห่งสหราชอาณาจักร เผยเรื่องราวสุดช็อกว่าตัวเองตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ที่โซมาเลีย ก่อนถูกเปลี่ยนชื่อ และย้ายมาอังกฤษแบบผิดกฎหมาย

สำหรับ ฟาราห์ ถือเป็นหนึ่งในนักวิ่งระยะไกลที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยคว้าเหรียญทอง 5,000 เมตร และ 10,000 เมตรชาย ในโอลิมปิกเกมส์ 2012 และ 2016 นอกจากนี้ยังได้มาแล้ว 6 เหรียญทองในการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์โลก ก่อนเมื่อช่วงต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าตัวจะยืนยันว่า อำลาจากการแข่งขันวิ่งระยะไกลประเภทลู่

FILE – Britain’s Mo Farah, right, runs as a pacemaker during the London Marathon in London, England, Oct. 4, 2020. Four-time Olympic champion Farah has disclosed he was brought into Britain illegally from Djibouti under the name of another child. “The truth is I’m not who you think I am,” the 39-year-old Farah told the BBC in a documentary called “The Real Mo Farah.” (Adam Davy/Pool via AP, File)

 

และล่าสุดปอดเหล็กวัย 39 ปีได้เผยเรื่องราวปูมหลังที่สุดช็อกของตัวเองว่า แท้จริงแล้วเขาคือหนึ่งในเหยื่อของการค้ามนุษย์ในโซมาเลีย หลังถูกพรากจากคุณแม่ และเปลี่ยนชื่อจาก ฮุสเซน อับดี คาฮิน เป็น โมฮาเหม็ด ฟาราห์ เพื่อส่งมาที่อังกฤษแบบผิดกฎหมายตอนอายุ 9 ปี ซึ่งขัดกับเรื่องราวก่อนหน้านี้ที่ ฟาราห์ เคยบอกว่าตัวเองลี้ภัยมาที่อังกฤษพร้อมกับคุณพ่อ และคุณแม่

หลังจากนั้น ฟาราห์ ถูกใช้แรงงานด้วยการดูแลเด็กๆ เพื่อแลกกับอาหาร จนกระทั่งในตอนที่เขาอายุ 12 ปีปอดเหล็กรายนี้จะเจอจุดเปลี่ยนของชีวิตเมื่อเข้าไปเรียนในเกรด 7 ที่วิทยาลัยชุมชนเฟลแฮมป์ และที่นั่นเขาได้พบกับ อลัน วัตคินสัน ครูพละที่เห็นว่า ฟาราห์ มีพรสวรรค์ด้านการวิ่ง

จนกระทั่งสุดท้ายแล้ว ฟาราห์ ได้เล่าเรื่องราวของตัวเองให้กับครู วัตคินสัน ฟังก่อนเขาจะได้รับการช่วยเหลือด้วยการมีชาวโซมาเลียอีกครอบครัวหนึ่งมาอุปภัมถ์ นอกจากนั้นยังช่วยเหลือให้เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัยได้สัญชาติอังกฤษ เพื่อลงแข่งขันวิ่ง และประสบความสำเร็จมาจนทุกวันนี้

“หลายปีที่ผ่านมาผมแค่ปิดมันไว้ แต่คุณสามารถปิดมันได้นาน ผมยังคิดถึงครอบครัวที่แท้จริง แต่จากช่วงเวลานั้นทุกอย่างก็ดีขึ้น ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรหลายอย่างออกจากบ่าของผม และผมก็รู้สึกเหมือนว่า นั่นคือตอนที่ โม ตัวจริงออกมา”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ