โพลชี้ การเมืองไทยร้อนแรงมากขึ้น เชื่อมียุบสภาเลือกตั้งใหม่ ฝ่ายค้านได้เปรียบ

Home » โพลชี้ การเมืองไทยร้อนแรงมากขึ้น เชื่อมียุบสภาเลือกตั้งใหม่ ฝ่ายค้านได้เปรียบ


โพลชี้ การเมืองไทยร้อนแรงมากขึ้น เชื่อมียุบสภาเลือกตั้งใหม่ ฝ่ายค้านได้เปรียบ

สวนดุสิตโพลชี้ การเมืองไทยร้อนแรงมากขึ้น ประชาชนเชื่อมียุบสภาเลือกตั้งใหม่ พรรคฝ่ายค้านได้เปรียบ ระบุพรรคที่สังกัดมีผลต่อการตัดสินใจของประชาชน

วันที่ 7 ก.ย.2565 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,128 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 3-6 ก.ย. 2565 เกี่ยวกับสัญญาณเลือกตั้งใหม่ ปี 2566 พบว่า จากกระแสข่าวความเคลื่อนไหวทางการเมืองในช่วงนี้ ทำให้ประชาชนสนใจติดตามข่าวการเมืองมากขึ้น ร้อยละ 50.45 สนใจติดตามข่าวเหมือนเดิม ร้อยละ 40.98 และสนใจติดตามข่าวน้อยลง ร้อยละ 8.57

ส่วนกระแสข่าวอาจจะมีการ “ยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่” หลังจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกฯ 8 ปี) ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ร้อยละ 53.92 ระบุน่าจะเป็นไปได้ ร้อยละ 35.74 ไม่น่าจะเป็นไปได้ และร้อยละ 10.34 เป็นไปไม่ได้

ทั้งนี้ ร้อยละ 52.75 คิดว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปผู้สมัครในพรรคฝ่ายค้านน่าจะได้เปรียบ ร้อยละ 41.84 คิดว่าผู้สมัครในพรรคฝ่ายรัฐบาล และร้อยละ 5.41 พอๆกัน

ส่วนการเลือกตั้งครั้งต่อไป ร้อยละ 56.56 การซื้อสิทธิขายเสียงน่าจะมากขึ้น ร้อยละ 38.71 เหมือนเดิม และร้อยละ 4.73 การซื้อเสียงน่าจะน้อยลง

สิ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจของประชาชนในการเลือก ส.ส. ครั้งต่อไป ร้อยละ 70.10 ระบุพรรคที่สังกัด ร้อยละ 64.51 ตัวผู้สมัคร ร้อยละ 59.98 เป็นคนดี ประวัติดี ร้อยละ 52.80 เป็นคนรุ่นใหม่ มีวิสัยทัศน์ และร้อยละ 50.67 ขยัน ตั้งใจทำงาน

ส่วนการทำตามสัญญาที่หาเสียงไว้ของพรรคการเมืองและส.ส. มีผลต่อการตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ร้อยละ 90.84 ระบุมีผล ส่วนร้อยละ 9.16 ระบุไม่มีผล

สถานการณ์การเมืองไทยหลังจากนี้ ร้อยละ 68.29 จะร้อนแรงมากขึ้น ร้อยละ 27.18 เหมือนเดิม และร้อยลั 4.53 ลดลง

โดยการเมืองเชิงสร้างสรรค์ที่ประชาชนอยากเห็นคือ นักการเมืองต้องทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติและประชาชน ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ร้อยละ 24.35 รองลงมาร้อยละ 19.56 แข่งขันกันด้วยความรู้ความสามารถ และผลงาน ไม่ใส่ร้ายป้ายสี

ประชาชนมองว่าความเคลื่อนไหวทางการเมืองในช่วงนี้เป็นการส่งสัญญาณของการเลือกตั้งใหญ่ ซึ่งในการตัดสินใจเลือกผู้แทนครั้งนี้ ประชาชนจะให้ความสำคัญกับ พรรคที่สังกัด มาเป็นอันดับแรก จึงได้เห็นการขยับตัวของพรรคทั้งพรรคเล็ก พรรคใหญ่ชัดเจนยิ่งขึ้น แต่ไม่ว่าจะงัดยุทธวิธีใด หากนักการเมืองไม่ได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน คาดว่าเลือกตั้งครั้งใหม่ไม่ง่ายนัก เพราะประชาชนมองเชื่อมโยงไปยังผลงานที่ผ่านมา รวมถึงยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นตัวบุคคล นิสัยใจคอ การเข้าถึงพื้นที่ ผลโพลในครั้งนี้จึงเป็นสัญญาณจากประชาชนส่งถึงไปยังนักการเมืองด้วยเช่นกัน

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ