แรมโบ้ ฟาด ‘สมศักดิ์-สุริยะ’ บิดเบือนข้อเท็จจริงโจมตีรัฐบาลบิ๊กตู่ บริหารบ้านเมืองล้มเหลว เตือนพฤติกรรมแบบนี้ ประชาชนรับไม่ได้
วันที่ 24 มี.ค.2566 ที่จ.นครราชสีมา นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรมว.ยุติธรรม และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรมว.อุตสาหกรรม ลาออกจากรัฐมนตรีและพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ย้ายกลับไปเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.)ว่า ในโซเชียลขณะนี้ กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทั้ง 2 คน โดยเฉพาะนายสุริยะ ที่เคยประกาศจะไม่รับตำแหน่งใดๆ หลังเลือกตั้ง 2562 แต่สุดท้ายกลับคำ รับตำแหน่งรัฐมนตรี
ที่ผ่านมาในการทำงานรัฐบาลร่วมกัน ตนให้ความนับถือและชื่นชมทั้งสองท่าน แต่พอเห็นทั้งสองย้ายค่าย แล้วอ้างว่าไปอยู่ในค่ายประชาธิปไตย ตนคิดว่าประชาธิปไตยในร่างเผด็จการธุรกิจการเมืองมากกว่า และยิ่งมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้งที่ 4 ปีที่ผ่านมา ทั้งสองก็ร่วมในรัฐบาล ร่วมบริหารประเทศดังนั้น ถ้ารัฐบาลจะบริหารผิดพลาด ทั้งสองก็ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้เลย
พอกลับเข้าคอกของนายโทนี่ กลับตาลปัตรเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ แสดงว่า 4 ปีที่ผ่านมาที่ทั้งสองเป็นรัฐมนตรีนั้น ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ไม่ได้คิดช่วยกันทำอะไรให้บ้านเมืองเลย จึงกล่าวหารัฐบาลมีปัญหาในการแก้เศรษฐกิจ บริหารบ้านเมืองล้มเหลว ทั้งที่ทั้งสอง ก็รู้ดีว่ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ได้แก้วิกฤตโควิด-19 วิกฤตเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และอีกหลายๆ เรื่อง จนได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
นายเสกสกล กล่าวอีกว่า กระทรวงยุติธรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เสนออะไรเข้าครม. นายกฯ ก็ให้ความเห็นชอบและให้ไปดำเนินการตามโครงการที่เสนอเข้า ครม. ร้อยละ 99.99 ผ่านเกือบทุกโครงการ ดังนั้น การใช้วาทะเพียงเพื่อย้ายค่ายแล้วโจมตีรัฐบาล โจมตีนายกฯ บริหารบ้านเมืองล้มเหลวนั้น ถือเป็นการป้ายสี บิดเบือนข้อเท็จจริง
พฤติกรรมแบบนี้ เชื่อว่าประชาชนจะรับไม่ได้ จึงอยากฝากเตือนสติทั้งสอง ให้เลิกพฤติกรรมแบบนี้ อย่าทำให้การเมืองน้ำเน่าลงไปมากกว่าเดิมอีกเลย และอย่าให้ประชาชนกล่าวขานขนานนามว่า เป็นพวกเขี้ยวลากดิน หรือพวกไดโนเสาร์เต่าล้านปี ตนไม่อยากให้ใครเรียกพวกท่านเช่นนั้นเลย