โนวัก ยอโควิช นักเทนนิสชายมือ 7 โลกจากเซอร์เบีย เปิดใจหลังคว้าแชมป์แกรนด์สแลม วิมเบิลดัน สมัยที่ 7 โดยชี้มีความสำคัญอย่างมากหลังต้องเจอช่วงเวลาที่ยากลำบากในช่วงต้นปี
โดย ยอโควิช ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมหลังแซงชนะ นิก เคียร์กิออส มือ 40 โลกจากออสเตรเลีย 3-1 เซ็ต 4-6, 6-3, 6-4 และ7-6 (7-3) เมื่อวันที่ 10 ก.ค.
จากผลดังกล่าวทำให้แร็กเกตวัย 35 ปีซิวแชมป์ วิมเบิลดัน ไปครองเป็นสมัยที่ 7 ในอาชีพ ต่อจากปี 2011, 2014, 2015, 2018, 2019 และ2021 และเป็นแชมป์แกรนด์สแลมรายการที่ 21 ตามหลัง ราฟาเอล นาดาล เจ้าของสถิติสูงสุดเพียง 1 รายการ
หลังการแข่งขัน ยอโควิช ที่พลาดลงแข่งขันในศึกแกรนด์สแลมแรกของปี ออสเตรเลียน โอเพ่น เนื่องจากปัญหาเรื่องวีซ่าหลังไม่ฉีดวัคซีน ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกว่า “ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่สถานที่แห่งนี้มีความเกี่ยวข้องในชีวิต และอาชีพการงานของผม ผมรู้สึกโล่งใจเช่นกันเมื่อพิจารณาถึงสิ่งที่ได้ผ่านมาในปีนี้ มันเพิ่มคุณค่า ความสำคัญ และเรื่องของอารมณ์มากขึ้น”
“แน่นอนว่าปีนี้ไม่เหมือนกับปีที่แล้ว ในช่วงหลายเดือนแรกของปี โดยทั่วไปผมรู้สึกไม่ค่อยสบายนัก ทั้งในด้านจิตใจ อารมณ์ ผมไม่ได้อยู่ในทิศทางที่ดี เมื่อผมออกจากออสเตรเลีย มันเกิดความปั่นป่วนในตัวผม ผมแค่ต้องการเวลาเพื่อฝ่าฟันพายุ”
“ประวัติศาสตร์วิมเบิลดันมาถึงช่วงสำคัญในชีวิต และอาชีพของฉันเสมอมา ในปี 2018 เมื่อฉันเริ่มต้นปีด้วยการผ่าตัดข้อศอก นี่เป็นสแลมครั้งแรกที่ผม และเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับชัยชนะ ยูเอส โอเพ่น และออสเตรเลียน โอเพ่น ในปี 2019 ผมมีแรงบันดาลใจเสมอที่จะเล่นเทนนิสให้ดีที่สุดในลอนดอน” ยอโควิช ระบุทิ้งท้าย