‘โทนี่’ ปัดดีล ‘ป้อม’ ดันสูตรหาร 100 เผยไม่ได้คุยกันเลย ถามยังจำชื่อได้หรือเปล่า โอดไม่เหมือนวันวานที่หวานอยู่ เชื่อเพื่อไทยแลนสไลด์
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 16 ส.ค. 2565 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือโทนี่ วู้ดซัม กล่าวผ่าน CareTalk x Care ClubHouse วิเคราะห์พายุการเมืองไทยหลัง 8 ปีประยุทธ์ โดยก่อนเข้ารายการ นายทักษิณได้กล่าวพร้อมประนมมือถวายพระพรสมเด็จพระพันปีหลวง ขอให้ทรงพระชนมายุยิ่งยืนนาน เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม
จากนั้นนายทักษิณ กล่าวว่า เรื่องหาร 100 หาร 500 เถียงกันอยู่นาน แล้วมีหมอปัดเศษมาบอกว่าตนไปจับมือกับป้อม (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ความจริงแล้วตนกับป้อมไม่คุยกันเลย ตั้งแต่ผมออกมายังไม่เคยคุยกับป้อมเลย บังเอิญว่าพรรคพลังประชารัฐก็อยากได้หาร 100 เพื่อไทยก็คิดว่าหาร 100 ถูกต้องตามหลักการเลือกตั้ง ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องหลักการที่สู้กันเลยจบที่หาร 100 ซึ่งถูกต้องตามหลักการอย่าไปคิดอะไรมาก
“สุดท้ายแล้วประชาชนตัดสินไม่ว่าจะหารเท่าไหร่ ยืนยันไม่มีดีล ดีลกับผมก็ไม่มีประโยชน์ ผมไม่เคยคุยกับป้อมเลย ไม่รู้ว่าป้อมจำชื่อผมได้หรือเปล่า มันไม่เหมือนวันวานที่หวานอยู่”
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ตนนั่งดูการเมือง ดูจากการแย่งกันตั้งพรรคการเมืองแล้ว เราจะมีพรรคเบี้ยหัวแตกเยอะอยู่ อย่าลืมว่าทุกพรรคมีสิทธิ์เสนอชื่อนายกฯ แต่จะได้รับการพิจารณาหรือไม่ ต้องได้ ส.ส.ไม่น้อยกว่า 25 คน ซึ่งพรรคที่ตั้งขึ้นมาต่ำ 25 เยอะมาก ดังนั้น เหลือไม่เกิน 5 พรรคที่เสนอชื่อนายกฯ แล้วมีสิทธิ์ได้รับการพิจารณา ตนไม่อยากวิเคราะห์พรรคอื่น แต่เท่าที่ดูพรรคเพื่อไทยแล้ว ผมบอกว่า 250 บวกก็แล้วกัน ฝั่งประชาธิปไตยเกิน 300 แบบสบายๆ เพราะคุณประยุทธ์ช่วยหาเสียงให้กับฝ่ายประชาธิปไตยได้ดี
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ส่วนพรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อคุณประยุทธ์หรือเปล่า ต้องถามแค่นี้ ตนไม่เชื่อว่าพลังประชารัฐจะเสนอชื่อคุณประยุทธ์ แต่พรรคของนายพีระพันธ์ุ สาลีรัฐวิภาค เสนอแน่ แต่จะได้ ส.ส.ถึง 25 คนหรือไม่ ไม่แน่ใจ ตนเชื่อว่าพรรคฝั่งประชาธิปไตยก็รวมกัน ส่วนฝั่งเผด็จการก็รวมกัน จะข้ามฟากนั้นน้อยมาก ตนเดาว่าคนจะข้ามฟากมารวมกับฝั่งประชาธิปไตยมีหนึ่งพรรคแน่นอน ผมเดาเอาสมัยตั้งแต่คุณพ่อเขา คือพรรคชาติไทยพัฒนา
นายทักษิณ ระบุต่อว่า หากฝ่ายประชาธิปไตยรวมกัน 300 กว่า แล้วคุณประยุทธ์จัดตั้งรัฐบาล โดยให้ส.ว.มายกมือ ถามว่าจะทำงานได้หรือ พอเสนอนโยบายเสร็จก็ล้มเลย ต้องยอมรับความจริง ต้องฟังเสียงประชาชน หากประชาชนถล่มทลายกับฝั่งประชาธิปไตย ก็ต้องยอมรับว่าต้องเปลี่ยนข้าง การเมืองเป็นเรื่องที่ต้องฟังประชาชน ประชาชนต้องการคำตอบกับชีวิตเขา 8 ปีไม่มีคำตอบมีแต่ปัญหาให้เขา
“สมัยผมเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส แต่วันนี้รายได้ลด รายจ่ายเพิ่ม ไม่มีโอกาส คนก็ทนไม่ไหว สงสารชาวบ้านจริงๆ ต้องหาทางบรรเทาทุกข์ ไม่ใช่แจกบัตรคนจน การช่วยเป็นสิ่งที่ดีแต่การมีบัตรคนจนมันเท่ไหม วันนี้ต้องสร้างโอกาสให้คน เงินที่กู้มาต้องสร้างงานให้ประชาชน ไม่ใช่มาแจกแล้วแจกก็ไม่ทั่วถึง สุดท้ายเศรษฐกิจก็ไปไม่ได้ ความตั้งใจดี ความขยันมี แต่ทำไม่เป็น ไม่เข้าใจปัญหาจริงๆ ไม่เข้าใจเหตุแห่งทุกข์จริงๆ”
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า วันนี้ภาคใต้เหมือนฐานแตก ประชาธิปัตย์ถูกตีฐานแตก ต้องไล่เก็บพื้นที่ตัวเอง ขณะเดียวกันต้องยอมรับว่าระยะหลังทางใต้ถูกซื้อเยอะ มีพรรคประชาชาติยึดฐานสามจังหวัดภาคใต้แล้ว ส่วนทางอันดามันเมื่อก่อนเป็นของประชาธิปัตย์ แต่ภูมิใจไทยก็อยากจะตี เพราะภูมิใจไทยเตรียมตีอีสานเต็มที่ แต่ตียากเพราะเพื่อไทยแข็งแรง อยากได้จำนวนเยอะๆ ก็เลยบุกมาตีภาคกลางและภาคใต้ เพราะมันมีช่องว่างให้เข้าถึง
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ส่วนพลังประชารัฐและภูมิใจไทยพยายามเจาะอีสานและเหนือตอนบนของเพื่อไทย แต่เจาะไม่ได้ ขณะที่พลังประชารัฐต้องยอมรับว่าเอาพรรคไม่อยู่เหมือนกัน แตกกระสานซ่านเซ็น พรรคพลังประชารัฐกระจายอยู่ที่หัวทีม เช่น คุณสันติ พร้อมพัฒน์ พยายามจะยึด จ.เพชรบูรณ์ให้อยู่ หรือกลุ่มคุณสมศักดิ์ เทพสุทิน แต่สุดท้ายก็ไม่รู้ว่าใครอยู่ไม่อยู่ แล้วกลุ่มของคุณสุชาติ ตันเจริญ ทางด้านตะวันออกก็ต้องสู้กับคุณสนธยา
“ที่พูดถึงการปฏิวัติกันนั้น วันนี้ไม่เหมือนวันก่อน วันนี้ไม่เหมือนวันวาน ผมคิดว่าโลกเปลี่ยนไปเยอะ ระบบโซเชียลเน็ตเวิร์ค กระแสคนรุ่นใหม่มันไม่เอื้ออำนวยให้เกิดการปฏิวัติ และการปฏิวัติก็จะไม่เหมือนเดิม ทำได้ยากกว่าเดิม ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ เอาปืนมาตั้งเต็มถนน แล้วบอกว่าไม่ปฏิวัติ แล้วก็ปฏิวัติ มันไม่ง่าย วันนี้อะไรก็โวยวายได้หมด”
“ผมคิดว่าอีกอย่างหนึ่งจิตสำนึกของทหารรุ่นใหม่ต้องคิดว่าบ้านเมืองช้ำมานานแล้ว และทหารเองต้องยอมรับว่าไม่อยู่ในขีดความสามารถที่จะบริหารประเทศ ซึ่งประเด็นเศรษฐกิจ เทคโนโลยีที่ไปเร็ว และชีวิตทหารถูกจำกัดอยู่ในวงของเขาซึ่งแคบกว่า ไม่สามารถมองโลกได้กว้าง ขึ้นมาบริหารก็เจ๊งอีก จริงๆ ทหารเก่ง หัวดี แต่เมื่อโตขึ้นมาแล้วโลกของเขามีอยู่มิติเดียว คนข้างนอกได้หลายมิติกว่า ดังนั้นจะไม่เข้าใจอะไรที่เกิดขึ้นในโลกวันนี้”
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ประเทศที่เจริญแล้วหากินสองขาทั้งดิจิทัลและอนาล็อก ส่วนบ้านเราขาอนาล็อกยังตามไม่ทัน ส่วนขาดิจิทัลก็ยังไม่เตรียมตัวซึ่งก็จะลำบาก ดังนั้นถ้าไม่ทันโลก ประชาชนลำบาก กำลังซื้อของประเทศจะตกลงเรื่อยๆ ต่อไปเราจะกลายเป็นประเทศที่จำกัดจำเขี่ยซึ่งมันไม่ได้ เพราะเราได้ลิ้มรสความเจริญก้าวหน้ามานานแล้ว เราได้เห็นทุกอย่าง คนไทยเปิดโลกทัศน์วันนี้เด็กรุ่นใหม่อยากรู้อะไรก็รู้ทันที ดังนั้นจะยอมให้มีรัฐบาลโง่ๆ ไม่ได้
นายทักษิณ ระบุอีกว่า หรือหากจะมาใช้วิธียุบพรรคเพื่อไทยก่อนแลนด์สไลด์คงสนุกเลย พรรคเพื่อไทยมีจิตวิญญาณเหมือนตน ตนถ่ายทอดให้ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย เขาทำเต็มที่เพื่อประชาชน เขาไม่กลัวหรอก โดนกี่รอบก็ไม่กลัวเพราะเขาทำเพื่อประชาชน พรรคเพื่อไทยเตรียมสู้ทุกรูปแบบ เขาเล่าให้ฟังว่าสิ่งที่ถูกต้องคือหาร 100 ถ้ามันออกมาเป็นหาร 500 เขาก็เตรียมของเขา หากจะย้อนไปเป็นบัตรใบเดียว เขาก็เตรียมอีก ฟังแล้วหนีไม่พ้นแลนด์สไลด์เพราะเขาสู้ พรรคนี้เป็นพรรคนักสู้เพื่อประชาชน เพื่อให้ประชาชนภูมิใจที่เป็นคนไทยในประเทศตัวเอง
“ผมเชื่อว่าเพื่อไทยเลือกจะจับมือกับฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกันที่เป็นฝ่ายค้านร่วมกันวันนี้ มากกว่าที่จะไปจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะเขาทำงานร่วมกัน มาขัดแย้งกันน้อยมาก เชื่อว่า 350 บวก ไม่ยุ่งยากอะไร” นายทักษิณ ระบุ