ญาติเมียลุงตาบอด โต้ไม่เคยคิดเอาสมบัติ แค่ขอจัดการมรดกให้เสร็จสิ้นตามกฎหมาย แจงบางส่วนไม่ได้สร้างมาด้วยกัน กลัวรู้ไม่ทัน หมดตัว เจอคนคิดหาผลประโยชน์
วันที่ 21 ส.ค.2565 จากกรณี นายใส อายุ 69 ปี ชายพิการทางสายตา มีอาชีพร้องเพลงขอทานเปิดหมวกตามตลาดนัดและแหล่งชุมชนต่างๆในพื้นที่ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ระบุ ถูกญาติฝ่ายภรรยาที่เพิ่งเสียชีวิตไปได้ 1 เดือน ฮุบสมบัติ ทำให้ชีวิตลำบากต้องจ้างเพื่อนบ้านขับรถพาไปร้องเพลง ขอทาน หาเงินใช้ดำรงชีพ จากปกติจ้างแค่คนขับรถ น้อยใจถูกรังแกแบบนี้
ล่าสุดเรื่องนี้ ญาติฝ่ายภรรยา นายใส ออกมาระบุว่า หลังน้องสาวของแม่เสียชีวิต ครอบครัวต้องจัดการเรื่องงานศพให้ทุกอย่าง เพราะทางนายใสไม่ได้ช่วยเหลือเงินงานศพเลยแม้แต่นิดเดียว ส่วนเรื่องรถเป็นชื่อของฝ่ายภรรยาคือ น้องสาวของแม่ ครอบครัวได้นำไปใช้รับส่งพระหลานชาย ที่คอยดูแลงานศพให้
อีกทั้งก่อนเสียชีวิตก็ต้องดูแลตอนที่ป่วยอยู่โรงพยาบาลและบ้าน เมื่อเสร็จงานศพก็ต้องดำเนินการเรื่องเอกสารการจัดการมรดกให้เสร็จสิ้นอีก ส่วนนายใสจะมองว่าครอบครัวฝั่งเมียจะไปเอาเงิน เอาสมบัติอะไรนั้นไม่เป็นความจริง
บางครั้งนายใสไม่มีเงินก็ยังแบ่งให้กินให้ใช้อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งพระหลานชายแท้ๆ เข้ามาช่วยจัดงานศพก็จัดการช่วยเหลือนายใสอีกด้วย ส่วนบ้านที่อยู่ด้วยกันเป็นชื่อฝ่ายภรรยา ซึ่งมีมาก่อนที่จะมาอยู่กับนายใส ครอบครัวก็เป็นห่วงหากนายใสจะเอาที่ดินไปเข้าไฟแนนช์หรือทำธุรกรรมใดๆ ก็จะมีผลเสียตามมา จึงขอนำมาดูแลในช่วงการจัดการมรดกนี้ก่อน
ตอนนี้นายใสก็จ้างเพื่อนบ้านให้พาไปขอทาน บางทีก็มาบ่นว่าคนที่จ้างไปเรียกเงินเยอะเกิน ฝ่ายภรรยานั้นมีลูกเลี้ยงอีกคนแต่ไม่มาดูแลช่วงเจ็บป่วย อ้างว่าไม่มีค่ารถเดินทาง ถึงวันตายจนถึงวันเผาก็มาบอกว่าจะมาเอาสมบัติทั้งหมดเพราะเป็นลูกบุญธรรมโดยชอบธรรมตามกฎหมาย
ครอบครัวกลัวว่าลูกบุญธรรมและภรรยาใหม่จะมาเอาสมบัติ และนายใสจะรู้ไม่ทันลูกบุญธรรมและไม่เหลืออะไรเลย เรื่องนี้ได้คุยกันแล้ว แต่หากจะมาเอาทั้งหมดก็ต้องหาเงินมาช่วยจัดแจงงานศพและค่าดูแลก่อนตายบ้าง แม่ดูแลครอบครัวนี้มาตลอด ไม่คิดว่าจะมีความคิดแบบนี้ว่าญาติฝั่งเมียจะมาเอาสมบัติ ไม่มีทางที่จะเอาสมบัติทั้งหมดแน่นอน
แต่กลัวว่า ลูกเลี้ยงที่ไม่ค่อยถูกกันกับนายใสเท่าไหร่จะมาเอาสมบัติไป ขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายก่อน ไม่อยากให้มองว่า จะไม่ได้อะไรเลย ส่วนเพื่อนบ้านที่คอยช่วยเหลือ ขอใช้น้ำ 3 วันจัดงานศพก็ขอให้จ่ายค่าน้ำให้ทั้งเดือน ซึ่งมันก็เกินกว่าที่ใช้จริง มองว่าเพื่อนบ้านรายนี้จะมาช่วยเหลือหรือมาหาผลประโยชน์กันแน่