โดม จารุวัฒน์ แฉ กัน เปิดประเด็นไม่ชอบหน้า ตั้ม หลังได้รางวัลเดอะสตาร์ 9 พาตั้งกำแพงรับน้อง

เห็น 2 นักร้องหนุ่ม ตั้ม วราวุธ โพธิ์ยิ้ม กับ โดม จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม สนิทกันแบบมองตาก็รู้ใจแบบปัจจุบันนี้ แต่ใครจะรู้ว่าก่อนที่จะสนิทกันขนาดนี้ หนุ่มโดม เคยไม่ชอบหน้าเดอะสตาร์รุ่นน้องอย่าง ตั้ม วราวุธ ถึงขนาดแอบเม้าธ์กับรุ่นพี่อย่าง กัน นภัทร อินทร์ใจเอื้อ เลยทีเดียว

เห็นไปออกรายการบอกว่าเจอกันครั้งแรกแล้วไม่ชอบหน้าตั้ม? โดม – “คือมันไม่ได้เป็นเชิงแบบเห็นปุ๊บไม่ชอบ มันเป็นการยืนเม้าธ์กับพี่กัน(นภัทร)หลังเวที พี่เขาเป็นคนเปิดมาไง ก็เป็นการรับน้องแหละว่ากันง่ายๆ คือเวลาคนเราจะรับน้อง มันก็จะมีการตั้งกำแพงไว้ก่อน ถ้าเขาผ่านกำแพงนั้นมาได้เราก็จะเปิดอ้าแขนรับอยู่แล้ว”

“แล้วสำคัญคือเขาแย่งแฟนคลับเราไปไง เพราะผมเดอะสตาร์8 เขาเดอะสตาร์9 เป็นการส่งมอบต่อ คนก็หันไปกรี๊ดเขาแล้ว อันนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกเคืองในตอนนั้น เป็นความรู้สึกว่าไอ้เด็กนี่มันอะไรวะ มันมาจากไหนกันวะ ตอนนั้นพี่กันเขากระซิบเรา ว่ามันดูไม่ค่อยเนาะ ไม่ได้พูดจบประโยคนะ แต่มันรู้กัน”

ตั้ม – “จริงๆ ไม่รู้เลย พอรู้ก็ไม่ได้อะไร เข้าใจธรรมชาติมนุษย์อยู่แล้ว เวลาเจออะไรที่ดีกว่า ใหม่กว่า เพอร์เฟ็กต์กว่า ย่อมจะมีความระแวง ความกลัว ความอิจฉาเข้าครอบงำ เราไม่ได้รู้สึกแปลกใจที่เราต้องเจอกับผู้คนแบบนี้ในวงการบันเทิง เพราะเราก็เป็น(หัวเราะ) ก็เข้าใจได้ ทุกวันนี้ก็ทำงานด้วยกัน ปรับตัว ใส่หน้ากากเข้าหากันก็โอเค ที่บอกว่าตอนนั้นแฟนคลับเขามาเชียร์เรา เราก็ไม่รู้สึกยังไง เพราะแฟนคลับเราก็ไหลไปหาคนอื่นเหมือนกัน(หัวเราะ) มันเป็นวัฏจักร ต้องเข้าใจอยู่วงการนี้”

อะไรที่ทลายกำแพงของเราทั้งคู่? โดม – “ทลายเร็วเลย เพราะเราทำงานด้วยกันตั้งแต่แรกๆ หลังออกจากบ้านก็เจอกัน คอนเสิร์ต 4 โพธิ์ดำเลย พอทำงานด้วยกันเขาก็ข้ามมาได้ทุกกำแพงทุกอย่าง ด้วยความเป็นตัวเขานั่นแหละ ที่ทำให้เรารู้สึกว่าเขาเป็นคนน่ารัก เป็นคนที่เรายินดีอยากจะมีเขาเป็นน้องคนหนึ่ง เพราะเขาน่ารัก”

ตั้ม – “เอาจริงๆ ต้องบอกว่าเรามีโอกาสร่วมงานกับใครหลายๆ คน แต่ก็ไม่ได้สนิทแบบนี้ เพราะศีลเราเสมอกัน มองตาแล้วรู้ใจ มันไม่ต้องพูดไรกันมากเลย บางทีใครเดินผ่าน แค่สบตาก็รู้แล้ว อันนี้เรื่องจริงเลย ใครพูดผิดหูปุ๊บ จะหันมามองหน้ากันแบบมึง… ไม่ต้องพูดเลย”

คนชมตั้มหล่อขึ้น จากผมหยักศกตอนนี้ผมตรง? โดม – “หล่อจริงๆ แต่คือมันไม่ใช่แค่เรื่องผม เขาพัฒนาตัวเองในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย เดี๋ยวนี้ติดแบรนด์แล้ว ต้องใส่แบบนี้ รองเท้าต้องแบบนี้แล้ว แม้กระทั่งหุ่น หันมามองละว่าเรากินไร เริ่มเหยียดเราแล้ว ว่าเรากินอะไรอยู่ ในขณะที่เขาลดน้ำหนักแล้ว”

ตั้ม – “ก็เริ่มลดน้ำหนัก เพราะเราต้องขึ้นคอนเสิร์ต ต้องมีการเตรียมตัวนิดหนึ่ง จะต้องมีเต้น จะต้องจัดเต็ม มันต้องฟิตต้องเฟิร์ม การแต่งตัวบนเวที ชุดมันต้องดูดี แต่ผิวหน้าที่เรียบทุกวันนี้ เพราะใช้ครีมของตัวเอง ถามว่ารู้สึกว่าตัวเองหล่อขึ้นไหม จริงๆ พอคนเริ่มทัก ก็เริ่มรู้สึกแล้วแหละ”

ไม่เกี่ยวกับว่าหล่อขึ้นเพราะมีแฟนช่วยดูแลเหรอ? ตั้ม – “ไม่ๆ คือแฟนก็ทำครีมด้วยกัน เขาไม่ได้ช่วยดูแล ผมดูแลของผมเอง ผมอยากหล่อเอง ทางแฟนเขาไม่อยากให้ผมหล่ออยู่แล้ว เพราะหล่อแล้วไลน์ผมเยอะ เขาก็จะระแวงอยู่แล้ว ไม่อยากให้หล่ออยู่แล้วรายนั้น หล่อขึ้นเพราะดูแลตัวเอง ก็อยากดูดีขึ้นด้วย แล้วก็ไปทำผมทำอะไรมา ก็เปลี่ยนตัวเองอัพลุกส์”

เรารู้สึกว่าตัวเองมาไกลไหม? ตั้ม – “ผมมาไกลมาก เอาตั้งแต่หนังหน้าเลยนะ เส้นผม หุ่น ถ้าย้อนไปตอนม.3 นี่คือแบบเหมือนคนละคน หนัก 100 กิโล หัวหยิก หน้าหลุม (คนบอกว่าอยู่กับซานิด้วยหรือเปล่า?) ผมไม่ได้หาหมออย่างนั้นนะ พี่นิเขาสายเข็ม สายมีด แต่ผมเต็มที่ก็เข็ม ฉีดโบท็อกซ์ แต่อันนั้นเขาฉีด แล้วเขาดูดด้วยนะ ดูดขามาใส่หน้าแล้วนะ รู้มาล่าสุด ไม่รู้นวัตกรรมอะไร(หัวเราะ)”