โดนหนัก! แพทยสภา แจ้งความ “บอสหมอเอก” เพิ่มฐาน แอบอ้างเป็นหมอ

Home » โดนหนัก! แพทยสภา แจ้งความ “บอสหมอเอก” เพิ่มฐาน แอบอ้างเป็นหมอ

เอาผิดหมอเถื่อน

แพทยสภา ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข เดินหน้าเอาผิด บอสหมอเอก เพิ่มที่ บก.ปคบ. ในข้อหาสถานพยาบาล ปมแอบอ้างเป็นหมอ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 ตุลาคม 2567 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) นายกองตรี ดร.ธนกฤต ผู้ช่วย รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย พล.อ.อ.นพ.อิทธิพร เลขาธิการแพทยสภา และ ดร.นายแพทย์ภานุวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนและบริการสุขภาพ เดินทางเข้าแจ้งความเอาผิด ดร.ฐานานนท์ หรือบอสหมอเอก ที่แอบอ้างเป็นหมอ

นายกองตรี ดร.ธนกฤต เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากที่ทาง บอสหมอเอก ได้มีการแสดงตนเป็นหมอ และมีการเผยแพร่ภาพและคลิปผ่านสื่อโซเชียลที่มีการตรวจผู้ป่วย ทำให้เกิดความสับสน และทำให้เกิดความไม่สบายใจในสังคม ต่อมามีผู้มาร้องที่กระทรวงสาธารณสุข และร้องมายังหน่วยงานทางแพทยสภา ทางเลขาธิการแพทยสภาจึงได้ประสานมาในส่วนของทางกระทรวงสาธารณสุขและกรมสนับสนุนและบริการสุขภาพโดยตรง

แพทย์สภา
  • “วันนอร์” สั่งสอบด่วน คลิปเสียงแฉ กมธ.เรียกรับผลประโยชน์ ดิไอคอนกรุ๊ป
  • ทนายเดชา เอาจริง! แจ้งจับ พระชื่อดัง ‘ว.วชิรเมธี’ สนับสนุน ดิไอคอนกรุ๊ป!?
  • หลุดคลิปเสียง! บิ๊กบอส-นักการเมือง เสนอ 30 ล. ช่วยวิ่งเต้นคดีเคลียร์ทาง

โดยแพทยสภาได้ยืนยันแล้วว่า บอสหมอเอก ไม่ได้มีชื่ออยู่ในระบบของการเป็น นายแพทย์ หากไม่ปรากฏชื่อในแพทยสภาก็นับว่าเป็น หมอเถื่อน และเท่าที่ทราบตัว บอสหมอเอก ได้เรียนจบเทคนิคการแพทย์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมาประกอบอาชีพเกี่ยวกับเวชกรรมหรือรักษาคนได้แบบหมอ

แพทย์สภา2

ในวันนี้จึงเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความเอาผิด บอสหมอเอก ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ. วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 ฐานประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต และเรื่องสถานที่ที่ใช้ในการตรวจรักษา ก็จะต้องดำเนินการในส่วนของ พ.ร.บ. สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ฐาน ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และดำเนินกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต เบื้องต้นในวันพรุ่งนี้จะลงพื้นที่ตรวจสถานพยาบาลและคลินิกดังกล่าวจำนวน 2 จุด ว่ามีการขออนุญาตหรือไม่

แพทย์สภา3

ขณะที่ พล.อ.อ.นพ. อิทธิพร กล่าวว่า หลังจากเมื่อวานที่ผ่านมา แพทยสภาได้เดินทางเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีกรณี บอสหมอเอก ที่แอบอ้างเป็นแพทย์ ซึ่งเป็นการดำเนินการเฉพาะตัวบุคคล แต่จากการตรวจสอบพบว่ามีความผิดที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ. สถานพยาบาลด้วย จึงได้ประสานไปยังกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากเมื่อมีการเปิดรักษาก็ต้องมีการใช้สถานพยาบาลด้วย กรณีดังกล่าวจึงมีความเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายอย่างน้อย 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ. วิชาชีพเวชกรรม กรณีเป็นแพทย์เถื่อน และพ.ร.บ.สถานพยาบาล โดยกระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการคู่ขนานไปกับแพทยสภา ส่วนเรื่องของใบประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ของบอสหมอเอกซึ่งเป็นสาขาที่เรียนจบมานั้น คาดว่าปัจจุบันน่าจะหมดอายุไปแล้ว โดยจะต้องตรวจสอบกับทางสภาเทคนิคการแพทย์อีกครั้ง

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ